คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคทั้งขายให้แบรนด์อื่นๆ และแบรนด์ของตัวเองมาตลอด การที่มีสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ ให้มาจำหน่ายในขณะที่บางสินค้าจำหน่ายมานับสิบปีตั้งแต่ยังแค่น้อยนิดพอทำยอดขายได้มากเข้าก็ถูกดึงกลับจำหน่ายเอง
โดยล่าสุดเป็นคิวของรองเท้า ไนกี้ และกะทิอร่อยดี เป็น 2 แบรนด์ที่บอกเลิกดึงสินค้าจากสหพัฒน์กลับไปจำหน่ายเองหลังจากที่ให้สหพัฒน์จัดจำหน่ายมานับสิบปี
ในส่วนของไนกี้ทำให้ยอดขายหายไปประมาณ 200 ล้าน แต่สำหรับกะทิอร่อยดีขายให้ตั้งแต่ยอดขายไม่กี่สิบล้าน จนทำยอดขายไปได้กว่า 2,000 กว่าล้าน เมื่อรวมสองแบรนด์ยอดขายหายไป 2,600 ล้านบาท จากยอดขายรวม 32,845 ล้านบาท อาจเป็นสัดส่วนไม่มากนัก แต่ก็ทำให้สหพัฒน์ไม่กล้าตั้งเป้าเติบโตยอดขาย ในปี 2560 ไว้ที่ 10% หรือ 33,000 ล้านบาท น้อยกว่าปี 2559 ที่ยอดขายโตไปถึง 13.2% เกินคาดหมายถึง 10%
สหพัฒน์ได้ติดต่อแบรนด์ใหม่เข้ามาทดแทนคืออันเดอร์ อาร์เมอร์ (Under Armour) แบรนด์ชุดกีฬาเบอร์ 2 ของโลก เข้ามาจำหน่ายแทน โดยสหพัฒน์จึงเข้าเสริมในต่างจังหวัด และพื้นที่ที่อันเดอร์ อาร์เมอร์ยังไม่มีสาขา และได้สิทธิ์จัดจำหน่ายอันเดอร์ อาร์เมอร์คิดส์สำหรับเด็ก
โดยครั้งนี้ สหพัฒน์เปลี่ยนโมเดลธุรกิจใหม่ นำร้านไนกี้ช้อปเดิม มาปรับปรุงเปลี่ยนชื่อเป็น “บียอน” เพื่อจำหน่ายสินค้าแบบมัลติแบรนด์ ไม่จำกัดเฉพาะอันเดอร์อาร์เมอร์เท่านั้น แต่ยังมีแบรนด์อาดิดาส พูม่า คอนเวิร์ส เท่ากับเป็นการกระจายกระจายความเสี่ยงแทนที่จะเปิดช้อปแล้วจำหน่ายเฉพาะแบรนด์เดียว
ส่วนผลิตภัณฑ์กะทินั้นก็ได้แบรนด์ “กะทิพร้าวหอม” เข้ามาจัดจำหน่ายแทนกะทิอร่อยดี โดยจะเริ่มทำตลาดในเดือนมีนาคม