PPS ส่งบริษัทลูก PPSD และ Swan & Maclaren (Thailand) คว้างานออกแบบอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติ มูลค่า 87.5 ล้านบาท เดินหน้าลุยงานบริหารโครงการในประเทศ ประเดิมเสนองานเมกะโปรเจคภาครัฐ “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” ลุ้นผล พ.ค.นี้ พร้อมเสนองานภาคเอกชนกว่า 10 โครงการ โชว์ Backlog 500 ล้านบาท ทั้งงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการและงานออกแบบ มั่นใจธุรกิจปีนี้สดใสตั้งเป้ารายได้ 330 ล้านบาท โตอย่างน้อย 10%
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า บริษัท PPSD และ Swan & Maclaren (Thailand) บริษัทย่อยของบริษัทได้ลงนามในสัญญารับงานออกแบบโครงการขนาดใหญ่จากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ ประเภทโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุมทั้งไลฟ์สไตล์และอาคารสำนักงาน จำนวน 2 เฟส ย่านบางนา โดยได้เริ่มการดำเนินงานเฟสแรกต้นปีที่ผ่านมา มูลค่างาน 87.5 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าเสนองานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการที่เป็นเมกะโปรเจคภาครัฐ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่างานไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท โดยจะทราบผลการตัดสินภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนงานภาคเอกชนบริษัทได้รับการติดต่อให้เข้าเสนองานหลายโครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนองานบริหารจัดการโครงการกว่า 10 โครงการ ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอาคารสำนักงาน Data Center และโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ยังคงต่อสัญญาให้ดูแลโครงการใหม่ต่อเนื่อง ตามแผนงานการขยายสาขาทั่วประเทศ
“แนวโน้มธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการในปีนี้มีสัญญาณบวก เนื่องจากภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนโครงการใหม่มากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของ PPS สำหรับการรุกงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ปัจจุบันบริษัทเดินหน้าเสนองานกลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นหลัก เนื่องด้วยแผนการลงทุนด้านการก่อสร้างโครงการต่างๆทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานภาครัฐที่บริษัทเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลงานโครงการรถไฟฟ้าในส่วนที่เหลือ อาทิ สายสีชมพู สีเหลือง และสีม่วง ส่วนงานภาคเอกชนบริษัทได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมเสนองานกับผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆมากขึ้น”ดร.พงศ์ธร กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทยังให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการดำเนินงาน การแนะนำธุรกิจและบริการของ PPS ให้เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมการทำงานโปรแกรม PPS Site Walk ที่ใช้สำหรับการควบคุมดูแลโครงการก่อสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการติดตามความเคลื่อนไหวแต่ละโครงการ
ดร.พงศ์ธร กล่าวต่อไปว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้อยู่ที่ประมาณ 330 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยมี Backlog ในมือ 500 ล้านบาท สัดส่วนแบ่งเป็นภาคเอกชน 70% และภาครัฐ 30% ขณะที่ผลประกอบการปี 2559 เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ มีรายได้รวมจำนวน 319.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 238.92 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33.56% และมีกำไรสุทธิจำนวน 32.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 3.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 848.97%
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 60 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ รุ่นที่ 1 ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (“PPS-W1”) เนื่องจากบริษัทมีการจ่ายหุ้นปันผลแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท จากราคาใช้สิทธิเดิม 0.40 บาท/หุ้น ปรับเป็น 0.33 บาท/ หุ้น อัตราการใช้สิทธิเดิม 1 หน่วย/ 1 หุ้น ปรับเป็น 1 หน่วย/ 1,200 หุ้น โดยจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิคงเหลือ210,413,325 หน่วย และจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการปรับสิทธิ 42,082,665 ล้านหุ้น