แอบดูบริการสตรีมมิ่งรายการทีวี ราคา 35 เหรียญสหรัฐ ของยูทูป (YouTube) ที่ให้บริการเฉพาะบางเมืองในสหรัฐอเมริกา งานนี้ YouTube จัดเต็มรายการทีวีดูจุใจมากกว่า 40 ช่องให้ชาวอเมริกันชมได้ผ่านสมาร์ทโฟน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า YouTube กำลังเดินตามทีวี ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยยึดมั่นจุดยืนเรื่องเนื้อหาที่ต่างจากรายการทีวี
หลังจากชิมลางเปิดตัวช่วงปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด Google เปิดตัวบริการ YouTube TV อย่างเป็นทางการเมื่อ 5 มีนาคม 2560 รองรับทั้งไอโฟน (iPhone) และแอนดรอยด์ (Android) ยังจำกัดเฉพาะที่นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส ชิคาโก และฟิลาเดลเฟีย คาดว่าจะมีการเปิดตลาดใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีกเร็ววันนี้
ผู้ชมจะสามารถลงชื่อทดลองชมฟรี 30 วัน หลังจากจ่ายค่าบริการเดือนแรกจะได้รับฟรีอุปกรณ์โครมคาสต์ (Google Chromecast) เพื่อเสียบเข้ากับทีวีจอใหญ่ สนนราคา 35 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,225 บาทนี้ สามารถแบ่งชมได้ 6 บัญชี แต่เปิดได้พร้อมกัน 3 อุปกรณ์เท่านั้น
นอกจาก 40 ช่องสถานี YouTube TV ยังมีบริการเสริมให้ผู้ใช้เพิ่มเงิน เพื่อชมสถานีพิเศษอย่างโชว์ไทม์ (Showtime) ขณะเดียวกัน ก็มีเก็บวิดีโอแบบไม่จำกัดความยาว ซึ่งทำให้ผู้ชมสามารถสตรีมรายการทีวีที่บันทึกไว้บนอุปกรณ์ที่ต้องการได้แบบไร้โฆษณา
รายชื่อ 40 สถานีบนบริการ YouTube TV นั้น ถือว่าครบเครื่องทั้ง ABC, CBS, Fox, NBC, ESPN, Fox Sports, Comcast SportsNet รวมถึง AMC Networks โดยพันธมิตรในอนาคต ได้แก่ AMC, BBC America, IFC, Sundance TV, WE tv และ BBC World News โดยผู้ชมจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน YouTube TV มาชมบน iPhone หรือ Android ซึ่งยังไม่รองรับอุปกรณ์อย่าง Roku หรือ Apple TV ในขณะนี้
กรณีที่ผู้ใช้มี Chromecast จะสามารถส่งภาพจาก YouTube TV ในโทรศัพท์มือถือไปเล่นบนทีวีได้ อย่างไรก็ตาม YouTube TV ถูกวิจารณ์ว่า ทำให้สับสนเล็กน้อยว่า ควรเลือกชมอะไร เรียกว่าผู้ชมควรมีเป้าหมายในใจ จึงจะทำให้ไม่รู้สึกเคว้งคว้าง และได้รับชมวิดีโอที่หวังไว้อย่างจุใจ
ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นคอกีฬา ผู้ชมสามารถเลือกทีมในดวงใจเพื่อให้ YouTube TV บัทึกภาพเกมของทีมโปรดได้แบบอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ผู้ชม YouTube TV สามารถรับชม YouTube Red ซึ่งเป็นบริการดั้งเดิมราคา 10 เหรียญสหรัฐต่อเดือนได้ด้วย ทำให้ผู้ชมสามารถเพลินกับวิดีโอของดาราบน YouTube อย่าง Lily Singh และ MatPat ได้ด้วย
จุดอ่อนของ YouTube TV ที่ชาวอเมริกันรับไม่ได้ คือ การขาดสถานีหลักอย่าง CNN, Discovery, HBO, TBS, Comedy Central และช่องอื่นที่ชาวอเมริกันนิยมชม จุดนี้นำไปสู่บทสรุปว่า YouTube TV จะพัฒนา และต่อยอดบริการอีกมากจึงจะสามารถเจาะตลาดผู้ชมในสหรัฐฯ ได้อย่างที่ตั้งใจ
ที่มา : http://manager.co.th/cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000035221