ถึงแม้การแข่งขันของตลาดชุดชั้นใน มูลค่าราว 12,000 ล้านบาท (ปี 2559 ) เติบโตเฉลี่ย 3-5% จะไม่หวือหวามากนัก แต่ก็มีการเคลื่อนไหวตลอด ส่วนใหญ่ก็เป็นในรูปแบบของการออกคอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่มีฟังก์ชันใหม่ๆ สำหรับสาวๆ
โดยตลาดใหญ่ยังคงเป็นตลาดแมสทั่วไปราคากลางๆ ส่วนกลุ่มพรีเมียมมีสัดส่วนอยู่ราว 10% ตลาดนี้ยังเล็กอยู่ เนื่องจากโอกาสเติบโตสูง และทรนด์ผู้บริโภคที่นิยมสินค้าพรีเมียมมากขึ้น มีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น เช่น ไมเนอร์ได้นำเข้าแบรนด์ Etam ชุดชั้นในระดับพรีเมียมจากฝรั่งเศสเพื่อเสริมพอร์ตสินค้าด้านไลฟ์สไตล์มากขึ้น
ในฐานะเจ้าถิ่น “วาโก้” โดยบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ จึงต้องขยับนำเข้าแบรนด์ชุดชั้นในเพิ่มอีกหนึ่งแบรนด์ก็คือ SUHADA หรือ ซูฮาดะ เป็นแบรนด์ชุดชั้นในระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ตลาดชุดชั้นในพรีเมียมในไทยมีผู้เล่นหลักด้วยกัน 5-6 แบรนด์ ได้แก่ Triumph, Kyra Morgan, BSC, Etam และ SUHADA ราคาส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 800 บาท ไปจนถึง 2,000 บาท
ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แบรนด์ SUHADA (ซูฮาดะ) โดยวางตำแหน่งอยู่ในระดับพรีเมียม เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงานรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 25-40 ปี มีกำลังซื้อสูง ต้องการสินค้าที่มีความเรียบหรู มีสไตล์และตอบโจทย์การแต่งตัวที่หลากหลายในชีวิตประจำวัน
จุดเด่นของ SUHADA คือ ใช้เทคโนโลยีการผลิตของญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Smoothing Design เน้นในเรื่องบราเนียนเรียบ ด้วยวัสดุซอฟต์ ซิลิโคน (Soft Silicone) ขนาดกว้างให้ความกระชับ และฮาร์ด ซิลิโคน (Hard Silicone) แทนโครงลวด และใช้เทคนิคการตัดเย็บแบบไร้ตะเข็บข้าง เพื่อแนบสรีระข้างลำตัว ทำให้มีสไตล์ที่แตกต่างจากชุดชั้นในทั่วไปตามท้องตลาด
นอกจากนี้ จะแบ่งเฉดสีตามลักษณะของสีผิวแต่ละบุคคล แยกเป็น 3 เฉดสี คือ สีเนื้ออมน้ำตาล สำหรับผิวขาว, สีส้มอมน้ำตาล สำหรับผิวสองสี และสีโอวัลติน สำหรับผิวเข้ม เพื่อรองรับความต้องการของสาวๆ เพื่อให้เข้ากับสีผิวของตัวเอง
ในการทำตลาดสำหรับแบรนด์นี้ วาโก้ได้เน้นสื่อออนไลน์เป็นหลักเพื่อให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย และมีการตั้งเป้าว่าแบรนด์นี้จะช่วยดันรายได้ของวาโก้ให้เติบโตสูงขึ้น