เครือข่ายสังคมคนทำงาน “ลิงก์อิน” (LinkedIn) เปิดผลสำรวจประจำปีว่า บริษัทใดเป็นบริษัทในฝันที่มีคนอยากทำงานด้วยมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า ส่วนใหญ่ของตารางเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ มีเพียงบริษัทสื่ออย่างไทม์วอร์เนอร์ (Time Warner) ที่แทรกตัวมาได้อันดับ 8 และดีสนีย์ (Disney) ในอันดับ 9 เท่านั้น
สำหรับตารางนี้ LinkedIn จัดอันดับบริษัทน่าทำงานด้วยจาก 3 หัวข้อ ได้แก่ ความสนใจในตำแหน่งงานของบริษัท ความสนใจในพนักงานและแบรนด์ของบริษัท และนโยบายการรักษาบุคลากรไว้กับองค์กร แน่นอนว่าหนึ่งในบริษัทที่ติดอันดับนั้น มีเฟซบุ๊ก (Facebook) และอัลฟาเบ็ต (Alphabet) รวมอยู่ด้วย แต่ก็ยังมีรายชื่อที่เรียกเสียงเซอร์ไพรส์อย่างอูเบอร์ (Uber) เพราะแม้จะมีข่าวฉาวเพียงไร ภาพลักษณ์น่าทำงานด้วยก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม
อันดับ 14 : ออราเคิล (Oracle)
สำนักงานใหญ่ : เรดวูดซิตี้ แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 135,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : Oracle คือ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล และโซลูชันสำหรับองค์กร ให้บริการ และวางระบบคลาวด์ ซึ่งทำเงินรายได้มหาศาล
อันดับ 13 : อโดบี (Adobe)
สำนักงานใหญ่ : ซานโฮเซ แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 16,500 คน
ลักษณะธุรกิจ : Adobe ให้บริการซอฟต์แวร์คลาวด์แก่นักออกแบบ และช่างภาพ รวมถึงนักการตลาด จุดนี้ LinkedIn ตั้งข้อสังเกตว่า Adobe เป็นบริษัทที่มีชื่อตำแหน่งงานแหวกแนวไม่เหมือนใคร เช่น Principal Artist-in-Residence ซึ่งจะสนับสนุนเหล่าศิลปิน และผู้เกี่ยวข้องในชุมชน หรือ People Scientist นักวิทยาศาสตร์ด้านคน และ Vice President of Creativity ประธานบริษัทฝ่ายสร้างสรรค์
อันดับ 12 : ทวิตเตอร์ (Twitter)
สำนักงานใหญ่ : ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 3,500 คน
ลักษณะธุรกิจ : Twitter เป็นเครือข่ายสังคมที่ผู้ใช้โต้ตอบกันด้วยข้อความ หรือที่เรียกกันว่า ทวีต (tweet) ซึ่งเคยจำกัดให้มีความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร
อันดับ 11 : เวิร์กเดย์ (Workday)
สำนักงานใหญ่ : เพลแซนตัน แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 6,600 คน
ลักษณะธุรกิจ : Workday เป็นผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์คลาวด์สำหรับฝ่ายบุคคล และการจัดการบัญชีเงินเดือน ความน่าสนใจ คือ LinkedIn ตั้งข้อสังเกตว่า Workday กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการจ้างงานมากกว่า 2,000 ตำแหน่งในปีที่ผ่านมา และจะเพิ่มเป็นอีก 2,200 ในปีนี้ ตำแหน่งงานที่รออยู่ส่วนใหญ่ คือ วิศวกรซอฟต์แวร์ หรือ software engineer
อันดับ 10 : เดลล์ (Dell)
สำนักงานใหญ่ : ราวด์ร็อก เท็กซัส
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 145,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : Dell คือ 1 ในบริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก ก่อนหน้านี้เป็นบริษัทเน้นผลิตฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ทั้งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์สำรองข้อมูลจนเคยถูกยกเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ (เชิงจำนวนเครื่อง) มากที่สุดในโลก
อันดับ 9 : เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)
สำนักงานใหญ่ : ลอสกาโทส แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 3,200 คน
ลักษณะธุรกิจ : Netflix ให้บริการสตรีมมิงวิดีโอออนไลน์ที่สมาชิกสามารถเปิดชมรายการ และภาพยนตร์ลิขสิทธิ์ได้หลายพันเรื่อง รวมถึงรายการเฉพาะที่ Netflix ออกทุกสร้างขึ้นมาเอง จนเรียกเสียงฮือฮาได้จากทั่วโลก เพราะความสนุกเข้มข้นติดกันงอมแงม
อันดับ 8 : แอร์บีเอ็นบี (Airbnb)
สำนักงานใหญ่ : ซานฟรานซิสโก
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 2,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : Airbnb ให้บริการบุคคลทั่วไปที่ต้องการเปิดให้เช่าบ้าน หรือห้องของตัวเอง รองรับทั้งที่เป็นห้องอพาร์ตเมนต์ หรือแม้แต่บ้านต้นไม้ ซึ่งเป็นรูปแบบห้องที่หาไม่ได้จากโรงแรมทั่วไป
อันดับ 7 : แอปเปิล (Apple)
สำนักงานใหญ่ : คูเปอร์ติโน แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 110,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : เจ้าพ่อเทคโนโลยีรายนี้เป็นต้นสังกัดสินค้าไอทีที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก ทั้ง iPhone, iPad และ MacBook นอกจากอุปกรณ์เหล่านี้ Apple ยังขายแอปพลิเคชัน เพลง และนานาซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์
อันดับ 6 : เทสลา (Tesla)
สำนักงานใหญ่ : พาโล อัลโต แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 30,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : Tesla คือ ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่โฟกัสธุรกิจเรื่องระบบจัดการพลังงาน และระบบพลังงานแสงอาทิตย์
LinkedIn ระบุว่า Tesla เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่เปิดรับพนักงานจำนวนมาก สถิติน่าสนใจ คือ Tesla เปิดรับพนักงานมากกว่า 2,500 ทั่วโลก ในจำนวนนี้มีตำแหน่งงานชื่อ Energy Advisor หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน และ Thermal Systems Aerodynamicist ซึ่งการันตีความเชี่ยวชาญเรื่องการควบคุมอุณหภูมิ
อันดับ 5 : อูเบอร์ (Uber)
สำนักงานใหญ่ : ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 12,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : Uber เป็นบริการรถร่วมเดินทาง หรือ ride-sharing ที่ได้รับความนิยม ที่ผ่านมา Uber ย้ายไปให้บริการรับส่งอาหารร่วมด้วย
LinkedIn อธิบายภาวะของ Uber ว่า ถูกจัดอันดับดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เพราะเหล่าคนหางานให้ความสนใจ Uber เพราะได้ทราบเรื่องการวิจัยในพนักงานเป็นประจำของ Uber ทำให้อัตราการสมัครงานที่ Uber มีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม้ว่า Uber จะตกเป็นข่าวฉาวในช่วง 2-3 เดือนหลังจากนั้น
อันดับ 4 : เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce)
สำนักงานใหญ่ : ซานฟรานซิสโก
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 25,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : Salesforce เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ประมวลผลคลาวด์ที่ให้บริการแก่ฝ่ายขาย การตลาด และฝ่ายบริการลูกค้า แก่บริษัททั่วโลก
อันดับ 3 : เฟซบุ๊ก (Facebook)
สำนักงานใหญ่ : เมนโล ปาร์ก แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 17,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : Facebook คือ เครือข่ายสังคมที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลก สถิติผู้ใช้งานขณะนี้เข้าใกล้ 2 พันล้านคนมากขึ้นทุกที
LinkedIn พบว่า ตำแหน่งงานฮิตใน Facebook คือ วิศวกรซอฟต์แวร์, ผู้ดูแลโครงข่าย, ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี machine learning, นักวิเคราะห์ข้อมูล data analytics และฝ่ายการตลาด
อันดับ 2 : แอมะซอน (Amazon)
สำนักงานใหญ่ : ซีแอตเทิล วอชิงตัน
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 341,400 คน
ลักษณะธุรกิจ : บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลกนาทีนี้อย่าง Amazon กำลังขยายธุรกิจไปสู่ความบันเทิงด้วยการออกทุนผลิตรายการทีวี และภาพยนตร์ของตัวเอง ขณะเดียวกัน ก็ปูพรมตลาดแฟชั่น บริการส่งอาหาร บริการโฆษณาออนไลน์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
อันดับ 1 : อัลฟาเบ็ต (Alphabet)
สำนักงานใหญ่ : เมาเทนวิว แคลิฟอร์เนีย
จำนวนพนักงานทั่วโลก : 72,000 คน
ลักษณะธุรกิจ : Alphabet คือ ต้นสังกัดของเจ้าพ่อบริการค้นหาข้อมูลออนไลน์ Google วันนี้ Google ขยายมาให้บริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ บริการไฟเบอร์ โครงการพัฒนารถไร้คนขับ รวมถึงสินค้าอัจฉริยะกลุ่ม IoT ซึ่งทำให้เครื่องใช้ในบ้านสามารถออนไลน์ และรองรับคำสั่งเสียง.
ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000051591