ต้องบอกเลยว่า “ไม่ธรรมดา” สำหรับ “ค่าตัว ”นักวอลเลย์บอลสาวของไทย กีฬาที่เรียกความนิยมจากคนดู จนสร้างไอดอล ระดับซูเปอร์สตาร์ ฟันรายได้กันปีละ 10-15 ล้าน ยังไม่รวมค่าจ้าง พรีเซ็นเตอร์ให้สินค้าอีกหลายรายการ
ความนิยมและความสำเร็จของกีฬาวอลเลย์บอลหญิงของไทย ทำให้กีฬาวอลเลย์บอลกลายเป็นอีกหนึ่งประเภทกีฬาที่มีผู้ติดตามชมในประเทศสูงอีกประเภทหนึ่ง นอกเหนือจากกีฬาฟุตบอล
แมตช์แข่งขันใหญ่ๆ ระหว่างทีมชาติไทยกับประเทศต่างๆ มักจะเรียกคนดูได้จำนวนมาก โดยเฉพาะบางแมตช์เกิดเหตุการณ์ “สนามแตก” มาแล้ว
นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงไทย ได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ มากมาย จากการเป็นทีมนอกสายตา ตัวเล็ก จนเริ่มประสบความสำเร็จ จากการได้แชมป์เอเชีย ครั้งแรกในปี 2552 และปี 2556 ที่ได้แชมป์เอเชียอีกครั้งในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ในอันดับโลกอันดับที่ 14 และยังเคยได้อันดับสูงสุดอันดับ 4 ในเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2555 ทำให้มีวอลเลย์บอลหญิงไทยชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก
นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงหลายคน กลายเป็น “ไอดอล“ ซูเปอร์สตาร์ มีสินค้าติดต่อมาเป็นพรีเซ็นเตอร์มากมาย ทั้งกลุ่มและเดียว ตั้งแต่ น้ำอัดลมเอส, แบรนด์ซุปไก่, น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ, แอร์เอเชีย, โฟร์โมสต์, น้ำดื่มช้าง รวมทั้งออกงานอีเวนต์
ในขณะที่ หลายคนได้เซ็นสัญญาไปเล่นต่างประเทศ ได้ค่าตัวเป็นหลักล้าน กีฬาวอลเลย์บอลกลายเป็นอาชีพให้นักกีฬาสร้างครอบครัวได้อย่างดีมีสุข
ในจำนวนนักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในประเทศ นาทีนี้ คือ “กัปตันหน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว วัย 34 ปี ซึ่งยังเล่นอยู่ใน “สโมสรบางกอกกลาส” ในประเทศ ว่ากันว่า หน่องเป็นนักกีฬาคนเดียวที่สโมสรบางกอกกลาส ต้องมีผู้ดูแลส่วนตัวคอยติดตามเวลาไปออกงานหรือการแข่งขัน เพราะมีแฟนคลับมากที่สุดคนหนึ่ง จากในจำนวนหกเซียนวอลเลย์บอล
ในขณะที่ นุศรา ต้อมคำ มือเซต และ อรอุมา สิทธิรักษ์ มือตบหัวเสา เล่นอยู่ในลีกต่างชาติที่ตุรกีและญี่ปุ่น ตามมาด้วย “กิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ เล่นอยู่ทีมสโมสรสุพรีม ชลบุรี และยังมีนักตบรุ่นน้องๆ ที่่มีชื่อเสียงตามมาเช่น ทัดดาว นึกแจ้ง, อัจฉราพร คงยศ หรือ ชัชชุอร โมกศรี
ปกติค่าตัวนักกีฬาจะมีสองส่วน คือ 1. ค่าตัวจากการซื้อขายย้ายทีมสโมสร ที่จะต้องมีการตกลงกันว่าจะแบ่งให้สโมสรเท่าไร และนักกีฬาจะได้เท่าไรจากสัดส่วนค่าตัวที่มีการซื้อขายเท่าไร 2. เงินเดือนที่ได้จากสโมสร และ 3. ค่าเบี้ยเลี้ยง เช่นเบี้ยเลี้ยงการเข้าไปเล่นทีมชาติ ที่ออกให้โดยสมาคมวอลเลย์บอล
ทั้งนี้ในส่วนของค่าตัวและเงินเดือน สโมสรจะเป็นผู้จัดการบริหารและตกลงกับนักกีฬา
น.อ.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย บอกว่า ปกติค่าตัว และเงินเดือนจะไม่มีการเปิดเผย เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ตกลงกันเองของนักกีฬาและสโมสร ส่วนที่สมาคมไปเกี่ยวข้องคือ กรณีนักกีฬาไปเล่นในลีกต่างประเทศ จะต้องผ่านสมาคม โดยสมาคมจะคิดค่า transfer fee เพียงแค่ 2,000 เหรียญสหรัฐ ต่อครั้ง ในการจัดการติดต่อกับสโมสรและรับรองนักกีฬาอย่างถูกต้อง ส่วนค่าตัวและเงินเดือนนั้น ทางสโมสรตกลงกันเองกับนักกีฬา โดยที่นักกีฬาอาจจะได้รับค่าตัวจากการเซ็นสัญญานอกเหนือจากเงินเดือนด้วย
อย่างไรก็ตาม ค่า transfer fee นี้ สมาคมจะชาร์ทเฉพาะนักกีฬาที่ไปเล่นในประเทศใหญ่ๆ เช่นยุโรปหรือญี่ปุ่นเท่านั้น สำหรับนักกีฬาที่ไปเล่นในประเทศกลุ่มอาเซียน ทางสมาคมทำให้ฟรี เพราะต้องการสนับสนุนนักกีฬาให้มีประสบการณ์การเล่นในประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาและวงการวอลเลย์บอลในบ้านเราเองด้วย
“เท่าที่บอกได้ นักกีฬาทีมชาติระดับชื่อเสียงโด่งดัง เป็น brand ambassadors จะมีรายได้มากกว่า 60,000 ต่อเดือน หากเป็นระดับทีมชาติปกติก็มากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งค่าตัวจะเพื่มขึ้นเมื่อติดทีมชาติ และมีผลงานความสามารถที่ดีด้วย แต่นักกีฬาบางคนก็เป็นเด็กปั้นของสโมสรมาก่อน เงินเดือนอาจจะยังไม่สูงมาก” น.อ.จักรสุวรรณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมและสอบถามคนในวงการและสโมสรต่างๆ แล้ว อัตรารายได้ของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงของไทยอยู่ในเรตประมาณนี้
- นักกีฬาทีมชาติ ระดับ brand ambassador สูงสุดขณะนี้อยู่ที่ประมาณ ปีละ 10-15 ล้านบาท
- รองลงมาคือ นักกีฬาที่ติดทีมชาติไทย ที่มีรายได้ตั้งแต่ 500,000 – มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี
- ส่วนนักกีฬาระดับไทยแลนด์ลีก ก็มีตั้งแต่ 80,000 จนถึง มากว่า 100,000 ต่อปี ทั้งนี้เพราะนักกีฬาส่วนใหญ่ยังเรียนหนังสือระดับมัธยมศึกษาอยู่
*ยังไม่รวมรายได้ของนักกีฬาที่เล่นอยู่ในลีกต่างชาติ ซึ่งอยู่ในระดับเกิน 10 ล้านบาทต่อปี
*ส่วนนักกีฬาต่างชาติที่เล่นในไทย มีอัตราเงินเดือนตั้งแต่ 4,000 เหรียญ ถึง 10,000 เหรียญต่อเดือน