หากคิดจะลงทุนในตลาด “ผู้สูงอายุ” ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นทุกปี อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีกำลังจ่ายสูง จึงถือได้ว่านี่เป็นโอกาสทองของนักธุรกิจไทย ที่หากมองแบบไกลๆ จะพบว่าการได้เข้ามาแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาดของตลาดผู้สูงอายุนั้น มันจะเป็นการแบ่งส่วนแบ่งที่สามารถเก็บกินผลกำไรได้ในระยะยาว ชนิดที่เรียกได้ว่ากินกันไปได้เรื่อยๆ
ว่าแต่ ก้อนเค้กของตลาดผู้สูงอายุนั้น มีอะไรให้น่าแบ่งบ้าง?
เริ่มต้นที่ธุรกิจ homecare เป็นธุรกิจดูแลที่มี 2 ลักษณะ คือ 1. ดูแลในเชิงสถานที่ที่ให้ลูกหลานนำผู้สูงอายุของตนมาฝากไว้ คล้ายเนอสเซอรี่ของเด็กเล็ก ที่พ่อแม่จะนำลูกมาฝากเลี้ยง ถึงเวลาก็มารับกลับ 2 ดูแลในเชิงอุปกรณ์หรือเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ เช่น อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ หรือเครื่องฟอกอากาศ เป็นต้น ซึ่งธุรกิจตัวนี้ หากมองให้ดี มันคือการขายสิ่งจำเป็นพร้อมการบริการให้แก่ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ในความดูแล เพราะฉะนั้น เมื่อมันมีสิ่งจำเป็น อย่างไร เมื่อครอบครัวใดถึงเวลาต้องใช้มัน มันก็คือความจำเป็นที่จะต้องใช้ หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
ธุรกิจต่อมาที่น่าจับตามอง คือ ธุรกิจการฟื้นฟูสมรรถภาพ (rehabilitation) นอกจากจะทำธุรกิจบริการการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้สูงอายุแล้ว เครื่องไม้เครื่องมือสำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กัน เช่น เครื่องช่วยในการมองเห็น หรือได้ยิน อุปกรณ์ช่วยสำหรับการเคลื่อนที่ เป็นต้น หากสถาบันไหนหรือองค์กรใด เน้นหนักในการวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมในการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้สูงอายุ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์และรายได้ที่มากมายมหาศาลในระยะยาวได้เช่นเดียวกัน
ธุรกิจตัวที่สาม นั่นคือ ธุรกิจ medical tourism เป็นธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ที่นอกจากผู้สูงทั้งไทยและต่างประเทศจะได้เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ยังจะได้ตรวจสุขภาพของตนเอง ณ โรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล JCI (โรงพยาบาลในแถบอาเซียน มีเพียง 7 ประเทศเท่านั้นที่ได้รับการรับรองจาก JCI คือ ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน และเวียดนาม โดยประเทศไทย มีจํานวนโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมากที่สุดในเอเชีย รวมทั้งติด 1 ใน 5 ของโลกอีกด้วย) นี่จึงเป็นโอกาสทองของคนทำธุรกิจการท่องเที่ยว ที่สามารถพ่วงไปกับธุรกิจทางการแพทย์ ทั้งแพทย์แผนใหม่ แพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก ทันตกรรม รวมทั้งธุรกิจสปา นวดแผนไทย ฟิตเนส หรือศัลยกรรมเสริมความงาม ก็รวมอยู่ในธุรกิจกลุ่มนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ต่อมา ธุรกิจบริการ ไม่ว่าจะเป็นการบริการเรื่องการเดินทาง การเคลื่อนที่ ยานพาหนะ สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์การสื่อสาร ฯลฯ ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ อีกทั้งมันยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจดังที่กล่าวมาข้างต้น เป็นห่วงโซ่ที่ผูกติดกัน สามารถสร้างรายได้มากมายมหาศาลให้แก่ผู้ทำธุรกิจนี้ในระยะยาวเช่นเดียวกัน
และธุรกิจที่จะพูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ ธุรกิจ special nutrition หรือธุรกิจโภชนาการพิเศษ พิเศษอย่างไร พิเศษตรงที่อาหารแต่ละมื้อ จะถูกคัดเลือก กลั่นกรอง และรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น อาหารสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ จะต้องประกอบไปด้วยสิ่งนี้ เพื่อเป็นผลดีต่อผู้ป่วยคนนี้ ที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่ หรืออาหารสำหรับผู้สูงวัยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน จะต้องหลีกเลี่ยงวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงชนิดใด เพื่อผลในการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในอนาคต การรังสรรค์อาหารอย่างมีโภชนาการ ก็จะชี้เฉพาะเจาะลึกให้ตรงกับโรคที่เป็นอยู่ให้มากที่สุด หรือหากไม่ได้เป็นโรค ก็ถือเป็นการรับประทานเพื่อบำรุงให้ไกลจากโรคได้เช่นเดียวกัน สิ่งนี้ยิ่งทำให้ผู้สูงอายุมีอายุที่ยืนยาวนานขึ้น ห่วงโซ่ของธุรกิจก็จะเจริญเติบโตเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
เห็นแล้วใช่ไหมว่า โอกาสการลงทุนในตลาด “ผู้สูงอายุ” นั้นมีอยู่จริง อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่สามารถแตกยอดออกไปเป็นธุรกิจสินค้าและการบริการอีกมากมายหลายชนิด ขึ้นอยู่ที่ว่านักธุรกิจสามารถจำเพาะเจาะจงฐานลูกค้าของตนเองได้ลึกซึ้งมากแค่ไหนอย่างไร และนำเสนอสินค้าและการบริการได้ถูกใจฐานลูกค้าของตนได้มากน้อยเพียงใด อย่าลืมว่า ต่อให้มองเห็นโอกาส ลงมือทำ แต่ทำแล้วไม่โดนใจ ชนะใจ หรือมัดใจลูกค้าไว้ได้ ก็อาจทำให้คู่แข่งที่สามารถเข้าถึงใจและความต้องการของผู้สูงอายุได้มากกว่า สามารถคว้าชัยชนะบนตลาดนี้ไปครองได้ในท้ายที่สุด
และหนึ่งช่องทางที่รวบรวมโอกาสในการลงทุนในตลาด “ผู้สูงอายุ” นั้นคือ งานอินเตอร์แคร์ เอเชีย 2017 จัด โดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ระหว่างวันที่ 6 – 8 กรกฎาคม 2560ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา นั้น ได้รวบรวมผู้ประกอบการ และเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุจากทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนในตลาดกลุ่มนี้ ได้เรียนรู้ และเปิดมุมมองใหม่จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เรียกได้ว่าผู้สนใจอย่าได้รอช้า รีบเข้าไปดูรายละเอียดเลยที่ www.intercare-asia.com