ลาแมร์เดินหน้าภารกิจบลูฮาร์ท เปิดตัวกองทุน La Mer Blue Heart Oceans Fund พร้อมเชิญชวนร่วมแชร์ภาพและเรื่องราวของทะเลผ่านโลกออนไลน์

เยาวอนงค์ ชนะวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์ลาแมร์ นำทีมบุคลากรและพนักงานลาแมร์จัดกิจกรรมคืนความสวยงามสู่ชายฝั่งทะเลเนื่องในวันมหาสมุทรโลกปี 2560 หรือ World Oceans Day สานต่อภารกิจ “La Mer’s Blue Heart” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์มหาสมุทรที่ยั่งยืนของมนุษยชาติ ภายใต้ปณิธานอันแรงกล้าของหัวใจสีน้ำเงินที่ต้องการแบ่งปันและกระตุ้นจิตสำนึกถึงความสำคัญของมหาสมุทรที่มีต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ร่วมกับกลุ่มนักอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยาแนวปะการัง วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และมูลนิธิรักสัตว์ป่า โดยมีเหล่านักอนุรักษ์ของเมืองไทย พร้อมศิลปินหัวใจรักษ์ทะเลเข้าร่วมภารกิจ นำโดย อเล็กซ์ เรนเดล, ดิษยา กรกชมาศ, แนนซี่ ลิน กิ๊บสัน, นัยน์ภัค ภูมิภักดิ์ และ ศิรชัย อรุณรักษ์ติชัย ที่ เกาะสาก จังหวัดชลบุรี เมื่อเร็วๆ นี้

เพราะสิ่งที่อยู่ในชื่อของลาแมร์นั้นคือความหมายของท้องทะเล ทั้งแรงบันดาลใจ ความสวยงาม และวัฎจักรแห่งการเกิดใหม่อันไม่สิ้นสุดของมหาสมุทร ดังคำกล่าวสำคัญที่ว่า “มหาสมุทรคือหัวใจสีน้ำเงินที่ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงทุกชีวิตให้สามารถดำรงอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้” กว่าทศวรรษที่ลาแมร์ แบรนด์ชั้นนำระดับโลกด้านการปรนนิบัติดูแลผิวได้ตั้งปณิธานที่จะให้การสนับสนุนการปกป้องและอนุรักษ์มหาสมุทร แหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในทะเลที่สำคัญของโลกเอาไว้ให้คนรุ่นหลังด้วยการมอบเงินทุนเงินบริจาคเพื่อการกุศล อีกทั้งยังริเริ่มโครงการต่างๆ เพื่อฟื้นคืนความสวยงามและสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลให้เกิดขึ้นกับทุกคน ในทุกปีลาแมร์จะจัดกิจกรรมคืนความสวยงามให้แก่ชายหาดและชายฝั่ง รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นทำแบบเดียวกัน โดยทีมงานของลาแมร์ทั่วโลกจะสละเวลามาร่วมกันทำกิจกรรมอนุรักษ์แหล่งน้ำเพื่อสร้างสิ่งที่มีความหมายให้แก่ชุมชน ตั้งแต่การทำความสะอาดไปจนถึงการปลูกปะการังเทียมเพื่อช่วยฟื้นฟูพื้นที่โดยรอบให้กลับอุดมสมบูรณ์ สำหรับปีนี้ ลาแมร์ ประเทศไทย ได้นำคณะบุคลากรพร้อมด้วยพนักงานลาแมร์กว่า 50 ชีวิต ร่วมกับกลุ่มนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และมูลนิธิรักสัตว์ป่า พร้อมด้วยศิลปินผู้มีหัวใจสีน้ำเงิน นำโดย อเล็กซ์ เรนเดล นักแสดงผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย หรือ EEC THAILAND ร่วมเดินหน้าภารกิจ “ลาแมร์ บลูฮาร์ท” (La Mer’s Blue Heart) ทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบชายหาดเกาะสาก ด้วยการช่วยกันจัดเก็บขยะตลอดจนนำมาคัดแยกและวิจัยให้เห็นถึงที่มาและสาเหตุของการเกิดขยะ รวมถึงผลกระทบทางระบบนิเวศวิทยาที่เกิดขึ้นเป็นห่วงโซ่ เพื่อร่วมกันวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขปัญหาขยะทะเลซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในท้องทะเลไทยเวลานี้

นอกจากนี้เพื่อเป็นการฉลองวันมหาสมุทรโลก ลาแมร์ ประเทศไทยได้จัดแคมเปญออนไลน์ขึ้นเพื่อชวนทุกคนมาร่วมบอกเล่าเรื่องราวและแชร์ภาพประทับใจที่มีต่อทะเล ในหัวข้อ “มหาสมุทรสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คุณได้อย่างไร” ผ่านทาง Instagram หรือ Facebook โดยแทคเพื่อนหนึ่งคน พร้อมติด #LaMerBlueHeart #MyOceanStory @LaMerThailandOfficial เพื่อลุ้นรับตั๋วเครื่องบินจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์พาคุณเดินทางไปค้นหาแรงบันดาลใจและใกล้ชิดกับท้องทะเลแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั้ง มัลดีฟส์, ภูเก็ต, กระบี่, ที่พักโอเชียนและพูลวิลล่าจากศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท เกาะสมุย พร้อมรับชุดผลิตภัณฑ์ Small Miracle Kit จากลาแมร์ มูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึง 30 มิถุนายน 2560 นี้

กิจกรรมครั้งนี้เริ่มด้วยการสำรวจประเภทขยะในแต่ละจุดโดยการใช้ควอแดรท (Quadrant) เก็บตัวอย่างรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสมาใช้ในการรวบรวมตัวอย่างขยะจากหลายๆ จุดมานับจำนวนรวมกัน เพื่อศึกษาและประเมินการพัดพาของขยะทะเลและทราบถึงข้อเท็จจริงอันเป็นสาเหตุที่มาของขยะทั้งหมดและเป็นฐานข้อมูลสำคัญที่จะนำไปสู่การกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อใช้ลดและบรรเทาผลกระทบจากขยะทะเล ก่อนที่ทุกคนจะร่วมกันเก็บกวาดขยะจำนวนกว่า 500 กิโลกรัม บริเวณรอบชายหาดจนสวยสะอาดตา นอกจากทำความสะอาดบริเวณชายหาดแล้วยังได้ทีมสาวผิวแทน กลุ่มนักดำน้ำ Sun Tan Team

นำโดย ดิษยา กรกชมาศ ที่ช่วยกันเก็บขยะบนผิวน้ำได้อีกกว่า 30 กิโลกรัม โดยยังคงพบว่าปัญหาขยะทะเลในบริเวณชายหาดท่องเที่ยวของประเทศไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากคือขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลที่ใช้เวลาย่อยสลายยาวนานจนกลายเป็นไมโครพลาสติกที่ลอยอยู่ในทะเลและยังสามารถเข้าไปอยู่ในแพลงตอนซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของห่วงโซ่อาหารที่ปลาและสัตว์ทะเลอื่นๆ จะมากินอีกทอดหนึ่งไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็มาถึงมนุษย์ที่เป็นผู้บริโภคปลาใหญ่และสัตว์ทะเลเหล่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าการเก็บขยะนอกจากจะทำให้เรารู้ปริมาณขยะและที่มาของแหล่งขยะแล้ว ยังทำให้รู้อีกว่าขยะแต่ละประเภทส่งผลกระทบอย่างไรต่อชุมชนและสุดท้ายก็กลับมาสู่ตัวเรานี่เอง

เยาวอนงค์ ชนะวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปผลิตภัณฑ์ลาแมร์ กล่าวว่า “เราเชื่อว่ามหาสมุทรคือหัวใจสีน้ำเงินดวงใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างมากกับโลกใบนี้ และเป็นที่มาของโครงการ “ลาแมร์ บลูฮาร์ท” ที่ลาแมร์ ประเทศไทย สานต่อภารกิจมาโดยตลอด ซึ่งในปีนี้เรายังได้เปิดตัวกองทุน “La Mer Blue Heart Oceans Fund” เป็นปีแรกอีกด้วย สำหรับกิจกรรมครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญนอกจากฟื้นคืนและปกป้องทะเลแล้ว ลาแมร์ยังต้องการขับเคลื่อนพลังความคิดและยกระดับความตระหนักรู้ให้ทุกคนหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และปกป้องท้องทะเลเพื่ออนาคตของคนรุ่นหลังต่อไป และปัญหาขยะทะเลในวันนี้คือวิกฤติระดับโลกที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้”

อเล็กซ์ เรนเดล ศิลปินหัวใจรักษ์ทะเล กล่าวว่า “การช่วยกันดูแลรักษาทะเลเป็นเรื่องขององค์ความรู้ที่จะต้องช่วยกันถ่ายทอดออกไปยังผู้คน กิจกรรมในวันนี้ผมเชื่อว่าทุกคนได้ความรู้ใหม่ๆ มากขึ้น อย่างเช่นประเภทของขยะในลักษณะต่างๆ มีแหล่งที่มาจากไหนและส่งผลกระทบอะไรบ้างต่อระบบนิเวศและชุมชน รวมถึงรู้สึกว่าการที่ทะเลสกปรกแบบนี้มันเกิดจากการไม่ทันยั้งคิดของคน ไม่คิดว่าขยะแค่เพียงเล็กน้อยจะสร้างผลกระทบได้และเป็นผลกระทบในระยะยาวอีกด้วย ผมอยากให้ทุกคนหยุดคิดสักนิดก่อนที่จะทำอะไรก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้วผลกระทบต่างๆ มันย้อนกลับมาที่เราเองนี่แหล่ะ”

นัยน์ภัค ภูมิภักดิ์ สาวผิวแทน อินฟลูเอนเซอร์ด้านการท่องเที่ยวดำน้ำ กล่าวว่า “แนนซี่ผูกพันกับทะเลมาตั้งแต่เด็กแล้ว เวลาว่างคุณพ่อคุณแม่ก็พาไปเที่ยวตลอด พอโตมาได้มีโอกาสออกเดินทางด้วยตัวเองจนได้ไปดำน้ำลึกและสัมผัสกับโลกใต้ทะเลที่สร้างความสุขใจให้กับเราได้มากจริงๆ เหมือนเราได้เติมพลังทุกครั้ง แต่ว่าวิกฤตขยะทะเลต้อนนี้มันรุนแรงขึ้น เวลาไปดำน้ำก่อนลงก็เห็นขยะดำน้ำลงไปแล้วก็ยังเจอขยะที่ปะการัง มันทำลายความสวยงามไปหมด แนนซี่อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับทะเลมากขึ้น เริ่มจากตัวเราเองที่ไม่สร้างภาระให้กับสิ่งแวดล้อมและพยายามบอกต่อไปยังคนใกล้ตัวแค่นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยทะเลได้แล้วค่ะ”

วันนี้ลาแมร์ ได้จัดตั้งกองทุน La Mer Blue Heart Oceans Fund กองทุนที่สนับสนุนองค์กรที่ทำงานเพื่อการอนุรักษ์มหาสมุทร โดยมี Project 0 เป็นคลื่นลูกใหม่ของโครงการอนุรักษ์มหาสมุทรร่วมขับเคลื่อนไปพร้อมกับกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ที่เป็นนักรณรงค์ ผู้มีชื่อเสียง ผู้นำด้านธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับมหาสมุทรที่มารวมตัวกันทำงานเพื่อเป้าหมายหนึ่งเดียว คือการฟื้นฟูและปกป้องมหาสมุทร ซึ่งเป็นเครือข่ายระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ทรงอิทธิพลของโลกที่ออกมาช่วยระดมทุนและร่วมกันผลักดันให้ 30% ของพื้นที่มหาสมุทรเป็นพื้นที่อนุรักษ์ภายในปี 2030 รวมทั้งฟื้นฟูแนวปะการัง ป่าโกงกาง ฟื้นฟูพันธุ์ปลาและช่วยกันทำความสะอาดมหาสมุทรให้กลับมาสวยงามดังเดิม โดยล่าสุดลาแมร์ได้ร่วมกับ Project 0 จัดงาน La Mer Wave Walk เส้นทางศิลปะเพื่อรณรงค์ให้คนทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลผ่านผลงานศิลปะและความสวยงามของนครนิวยอร์ก โดย Project 0 ได้เชิญศิลปินและผู้ที่สร้างกระแสวัฒนธรรมซึ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วย อาทิ Sienna Miller, Vivienne Westwood, Margaret Zhang, Laird Hamilton, Julian Schnabel, Cara Delevingne and Bruce Weber เพื่อร่วมระดมเงินทุนสนับสนุนพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลหรือ Marine Protected Areas (MPAs) ต่อไป

ในแต่ละปี ลาแมร์จะแสดงออกถึงความรักที่เรามีต่อท้องทะเลที่สวยงาม กระปุก Crème de la Mer อันเป็นหัวใจของแบรนด์จึงกลายมาเป็นผืนผ้าใบสำหรับสรรสร้างงานศิลปะของจิตรกรเพื่อสื่อถึงมหาสมุทรและแรงบันดาลใจที่ไม่สิ้นสุดที่มหาสมุทรมอบให้แก่เรา ด้วยภาพเขียนสีน้ำของเกลียวคลื่นเปิดโลกแห่งความสวยงามอันเป็นผลงานออกแบบซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากทะเลของปีนี้ รังสรรค์เป็น Crème de la Mer รุ่นลิมิเต็ดที่มอบการปรนนิบัติและสร้างผิวใหม่อย่างน่าอัศจรรย์ ที่แฟนลาแมร์ทั่วโลกเฝ้ารอจับจองเป็นเจ้าของ

ฉลองวันมหาสมุทรโลก (WORLD OCEANS DAY) วันมหาสมุทรโลกถูกกำหนดขึ้นในปี 1992 และถูกประกาศอย่างเป็นทางการโดยองค์การสหประชาชาติในปี 2009 ให้ทุกวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันมหาสมุทรโลก เพื่อเป็นวันที่เราจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของมหาสมุทรซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อระบบนิเวศน์ของโลกและอนุรักษ์ท้องทะเลที่เป็นแหล่งอาศัยของทุกชีวิตในทะเลด้วยการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง