พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กางแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง มั่นใจผลงานดีมากกว่าครึ่งปีแรก ทั้งยอดขายและรายได้ เตรียมการรุกตลาดคอนโดแบบเข้มข้น ขยายกลุ่มเป้าหมาย เสริมด้วยยอดขายจากลูกค้าต่างชาติ ครึ่งปีแรกเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 7 โครงการ รวมมูลค่า 5,812 ล้านบาท ครึ่งปีหลัง เดินหน้าลุยเปิด 8 โครงการใหม่ ทำเลใหม่ รวมมูลค่า 14,178 ล้านบาท พร้อมแผนร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ คาดจะมีรายได้หลายทาง ส่งผลให้หนี้สินต่อทุนเหลือ 1.6 เท่า
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 ว่า บริษัทมีแผนงานที่จะส่งผลให้การดำเนินงานดีมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรก ทั้งด้านยอดขายและรายได้ ในส่วนของยอดขาย ครึ่งปีแรกบริษัททำยอดขายจากโครงการแนวราบได้ใกล้เคียงกับเป้าที่วางไว้ แม้ว่ายอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมจะต่ำกว่าเป้า ดังนั้นจึงมีแผนรุกตลาดคอนโดอย่างเข้มข้น เพื่อเพิ่มยอดขายในครึ่งปีหลัง ทั้งจากโครงการ “เมโทรสกาย บางซื่อ-ประชาชื่น” ที่ได้รับผลบวกจากการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสถานีเตาปูนและบางซื่อ ทำให้สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังย่านจตุจักรและพหลโยธิน ซึ่งเป็นแหล่งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และอยู่ห่างจากโครงการเพียง 4 สถานีรถไฟฟ้า มั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันได้ด้วยราคาที่จูงใจ ในราคาต่อตารางเมตรไม่ถึงแสนบาท นอกจากนี้ ยังมี “ไอคอนโด ศาลายา” ที่จะได้รับผลจากแผนพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา ให้เป็นโรงพยาบาลศิริราชแห่งที่ 2 ซึ่งจะทำให้ทำเลศาลายาคึกคักขึ้น เป็นทั้งแหล่งการศึกษา การลงทุน การรักษาพยาบาล ของคนในทำเลตะวันตกของกรุงเทพ พร้อมกันนี้ จะมีการเปิดตัว “เมโทรลักซ์ พหล-สุทธิสาร(2)” ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องเป็นโครงการที่สองในทำเลดังกล่าว
โครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทในกลุ่มยังได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างประเทศ โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มียอดขายจากต่างชาติเข้ามาในโครงการ “เมโทรลักซ์ เอกมัย-พระราม 4” แล้วกว่า 200 ล้านบาท และยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าครึ่งปีหลังจะมียอดขายจากลูกค้าต่างประเทศมาเสริมใน 5 โครงการของบริษัท ทั้งทำเล เอกมัย-พระราม 4, บางซื่อ-ประชาชื่น, พหล-สุทธิสาร, สุขุมวิท, รัชดา และจะทำยอดขายจากต่างประเทศได้อีก 1,000 ล้านบาท ในส่วนของแกรนด์ แอสเสทฯ คาดว่าจะมียอดขายจากต่างประเทศเข้ามาเช่นกันอีก 300 ล้านบาท ทำให้มียอดขายคอนโดมิเนียมที่มาจากลูกค้าต่างชาติทั้งกลุ่มรวม 1,500 ล้านบาท
ครึ่งปีแรกบริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 6 โครงการ มูลค่า 4,742 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 1,070 ล้านบาท ครึ่งปีหลัง ยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 8 โครงการ มูลค่า 14,178 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 6,868 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 4 โครงการ มูลค่า 7,310 ล้านบาท สำหรับโครงการแนวราบ ครึ่งปีหลังจะมีการเปิดทำเลใหม่ คือ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่ของบริษัท โดยจะเปิดตัวพร้อมกัน 3 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยวระดับบน “เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ”, บ้านเดี่ยวระดับกลาง “เพอร์เฟค เพลส” และทาวน์โฮม “เดอะ เมทโทร” อีกทั้งยังมีแบบบ้านใหม่ออกมาครบในทุกแบรนด์ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่มีแบบบ้านใหม่ในระดับบนราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยยังคงมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้ง SCG และ AIS เพื่อนำไปใช้กับแบบบ้านใหม่ที่จะเปิดตัว เพื่อให้เป็นบ้านนวัตกรรมที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความสะดวกสบายและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น
ในส่วนของรายได้นั้น นายชายนิดเปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังบริษัทจะมีรายได้เพิ่มเข้ามาอย่างเป็นสาระสำคัญประมาณ 8,600 ล้านบาท โดยจะมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวม 5,400 ล้านบาท จากโครงการแนวราบและจากโครงการคอนโดมิเนียม เมโทร สกาย บางซื่อ-ประชาชื่น, เมโทรลักซ์ รัชดา, เมโทรลักซ์ เอกมัย-พระราม 4, เดอะไฮด์ สุขุมวิท 11 และ เดอะไฮด์ สุขุมวิท 13 ในส่วนของธุรกิจโรงแรม มีการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา มูลค่า 1,740 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 นอกจากนี้แล้ว บริษัทยังจะมีรายได้จากการขายที่ดินและทรัพยสินเพิ่มอีกจำนวน 1,500 ล้านบาท จากที่ได้รับในช่วงครึ่งปีแรกจำนวน 700 ล้านบาท โดยจะมาจากการขายที่ดินบริเวณร่มเกล้าและลาดพร้าว รวม 1,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ภายในไตรมาส 3 และจะมีการขายหุ้นศูนย์การค้า “ดารา ฮาเบอร์” ศรีราชา มูลค่า 300 ล้านบาท ให้กับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ นอกเหนือจากจากรายได้ที่เข้ามาในหลายๆ ทาง จะส่งผลให้หนี้สินของบริษัทลดลงอย่าวรวดเร็ว โดยคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทละลดลงเหลือ 1.6 เท่าในครึ่งปีหลัง
ในส่วนการร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศนั้น บริษัทฯ มีแผนความร่วมมือทั้งกับบริษัทในประเทศไทย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ คาดจะสามารถสรุปผลได้ในไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 นายชายนิดกล่าวสรุป