“เจ้เล้ง” หมดเวลาเศร้า ขอปั๊มเงินดีกว่า จัดโปรโมชั่นฉลองโสด คาดเงินสะพัด 300 ล้านบาท

เจ้เล้ง หมดเวลาเศร้า ปั๊มเงินดีกว่า จัดโปรโมชั่น ฉลองโสดอีกครั้ง “เจ้เล้ง BIRTHDAY SAIL” คาดเงินสะพัดร่วม 300 ล้านบาท สิ้นปีมั่นใจรายได้โตอีก 20% เตรียมเล็งต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำโกดัง สำนักงาน ปล่อยเช่าพื้นที่ระยะยาว ซื้อคอนโดฯ ต่างประเทศปล่อยเช่าที่สิงคโปร์

ต้องเรียกว่า “พลิกวิกฤติ ให้เป็นโอกาส” ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้จริงๆ  สำหรับ “เจ๊เล้ง” ดอนเมือง -อารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ แอนด์ เจ บิวตี้ โปรดักส์ จำกัด นำเข้าและจำหน่ายสินค้าความงาม ที่ก่อนหน้านี้ ตกเป็นข่าวดังกระหึ่มไปทั่วโซเชียล  จากการควักเงิน 700 ล้านบาท เพื่อขอหย่าขาดจากสามี ที่ปกติก็ต้องจ่ายเงินเดือนให้ 5.5 แสนบาททุกเดือนอยู่แล้ว

เธอบอกว่า นอกจากจะไม่เศร้า แถมข้าวของที่เหลือก็ทิ้งและแจกคนใกล้ตัวไปหมด พร้อมจะกลับมาดำเนินธุรกิจต่อทันที

เริ่มจาก จัดแคมเปญเอาใจลูกค้ารับความโสดอีกครั้ง เจ้เล้ง BIRTHDAY SAIL ซึ่งปกติแล้วร้านเจ้เล้ง จะจัดโปรโมชั่นขึ้นทุกปี  ส่วนปีนี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 ก.ย. 2560 ด้วยโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อ 2 แถม 1, ซื้อ 3 แถม 1 รวมทั้งยังมีโปรโมชันอื่นๆ ทั้งจับฉลาก และชิงโชค

 เจ้เล้ง ประเมินว่า คาดว่ายอดขายรวมน่าจะดีกว่าปีก่อน หรือมียอดขายไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท

ส่วน ภาพรวมการขายของทางร้านเจ้เล็งตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559 จนถึงปัจจุบัน (สิงหาคม 2560) พบว่าลูกค้าไม่ค่อยจับจ่ายใช้สอย ยอดขายขึ้นๆ ลงๆ ทำให้ภาพรวมยอดขายคงที่ แม้ยอดขายไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ลดลง

อารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ แอนด์ เจ บิวตี้ โปรดักส์ จำกัด หรือ “เจ้เล้ง ดอนเมือง”

ทั้งนี้เพราะทางร้านสรรหาและนำเข้าสินค้าใหม่ๆ จากต่างประเทศร่วม 1,000 รายการ เพื่อนำเสนอผู้บริโภคตลอดปี แตกต่างจากภาพรวมภายนอกที่จะค่อนข้างแย่กว่า เพราะยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ที่นี่จะขายของดีเพราะราคาถูก ลูกค้านำไปขายต่อได้

นอกจากนี้ “เจ้เล้ง” ยังให้ความสำคัญต่อช่องทางขายผ่านออนไลน์ พบว่ามีการเติบโตเป็น 100% จากเดิมขายได้ 2-3 ชิ้น ปัจจุบันขายได้เป็น 100 ชิ้น หรือมียอดขายเฉลี่ยวันละ 3-4 แสนบาท สูงสุด 1 ล้านบาท

กลุ่มสินค้าขายดีคือ เครื่องสำอาง และขนม ส่วนยอดขายในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ยอดขายค่อนข้างนิ่ง โดยลูกค้าจะสั่งซื้อหรือมาเลือกดูเอง ซึ่งปีนี้ยอดขายออนไลน์คิดเป็น 20% ของรายได้รวม ปีหน้าน่าจะเพิ่มเป็น 30-40% ได้

“พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน เราต้องตามให้ทัน โดยการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ขายตามออนไลน์ จากปกติจะเน้นแบรนด์ดังเป็นหลัก แต่กลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มคนทำงาน อายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนวัยรุ่นทำตลาดยาก เพราะพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”

ไม่เท่านั้น คราวนี้จะเธอยังมุ่งไปที่ “อสังหาริมทรัพย์” ที่ลงทุนที่ทำอยู่เรื่อยๆ ในการแปลงที่ดิน เป็นอาคาร โกดัง สำนักงานให้เช่าระยะยาวในอนาคต จากที่มีโฉนดที่ดินในมืออยู่กว่า 300 ฉบับ อีกทั้งมองหาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์ กับการซื้อคอนโดมิเนียมและปล่อยเช่า

ต้องเรียกว่า พลิกสถานการณ์จริงๆ สำหรับ “เจ้เล้ง” ดอนเมือง กับชีวิตและธุรกิจ เจ้าของฉายา Queen Power


ที่มา : manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9600000084046