Fujitsu อาจยังหาทางถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทใหม่
สื่อญี่ปุ่น “นิกเคอิ” (Nikkei) รายงานว่าฟูจิตซึ (Fujitsu) บริษัทไอทีรายใหญ่ของญี่ปุ่นกำลังมีแผนสละเรือ เตรียมขายธุรกิจเกี่ยวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด เหตุผลหนีไม่พ้นการแข่งขันสุดดุเดือดในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้บริษัททนพิษบาดแผลไม่ไหวและตัดสินใจเฉือนธุรกิจบางส่วนทิ้งไปเพื่อรักษาภาพรวมของบริษัทไว้ต่อไป
ก่อนหน้านี้ Fujitsu ได้ลงมือปรับโครงสร้างบริษัท ด้วยการแยกบริษัทหรือ spin off แผนกโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกมาเป็นบริษัทใหม่ตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว การปรับโครงสร้างครั้งนั้นได้รับความสนใจจากหลายกลุ่มทุน ซึ่งมีข่าวว่าทั้งกลุ่มทุนในโตเกียว ”โพราริสแคปิตอล” (Polaris Capital Group) และกลุ่มทุนอังกฤษ “ซีวีซี” (CVC Capital Partners Ltd) รวมถึงผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสัญชาติจีนอย่างเลอโนโว (Lenovo Group Ltd) ล้วนตั้งท่าลงทุนในบริษัทใหม่ของ Fujitsu อย่างคึกคัก
ถัดจากการแยกบริษัท รายงานระบุว่าขั้นต่อไปคือการเปิดประมูลรอบแรก จุดนี้คาดว่า Fujitsu จะเปิดประมูลได้ในเดือนกันยายนนี้ คาดว่าจะมีการเสนอราคามูลค่าหลายหมื่นล้านเยน เทียบเป็นเงินไทยหลายพันล้านบาท
สำหรับ Fujitsu รายงานระบุว่าอดีตเจ้าพ่อบริษัทไอทีแดนอาทิตย์อุทัยจะหยุดพัฒนาและผลิตสมาร์ทโฟน โดยอาจยังหาทางถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทใหม่ เชื่อว่า Fujitsu จะยังหาทางรักษาให้สมาร์ทโฟนแบรนด์ Fujitsu ยังอยู่คู่ตลาดต่อไป
อย่างไรก็ตาม Fujitsu ยืนยันว่าบริษัทยังไม่สรุปแนวทางตามที่สื่อญี่ปุ่นรายงานไว้ โดยที่ผ่านมา แผนกธุกิจที่ Fujitsu เรียกว่า Ubiquitous Solutions ซึ่งรวมธุรกิจจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีและโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นมียอดจำหน่ายราว 1.32 แสนล้านเยนในช่วงไตรมาสแรกของปีการเงิน 2017 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน) คิดเป็นสัดส่วน 14.7% ของยอดขายรวมทั้งกลุ่มบริษัท
สำหรับธุรกิจคอมพิวเตอร์พีซี Fujitsu ลงมือแยกธุรกิจจำหน่ายคอมพิวเตอร์ทั้งตั้งโต๊ะและวางตัวออกเป็นบริษัทใหม่เมื่อกุมภาพันธ์ 2016 เช่นกัน ความเคลื่อนไหวล่าสุดของส่วนธุรกิจนี้ คือ Fujitsu ให้สัมภาษณ์เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ว่าบริษัทกำลังจะบรรลุข้อตกลงกับ Lenovo ในเร็ววัน แต่ก็ยังไม่มีรายงานใดเพิ่มเติมในขณะนี้
หุ้นของ Fujitsu เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% ช่วงเช้าวันอังคารที่ตลาดโตเกียว แต่ยังไม่ทุบสถิติที่ทำได้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่หุ้น Fujitsu พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีหรือตั้งแต่มีนาคม 2015
ที่มา : manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000086061