วินโดวส์ไลฟ์โฉมใหม่

นับเป็น Strategic Move ไมโครซอฟท์อีกครั้ง ในการ ออก Windows Live เวอร์ชั่นใหม่ เพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่ชอบสังคมออนไลน์ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเป็นการเชื่อมโยงบริการที่มีอยู่เข้าด้วยกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นส่วนของไมโครซอฟท์เอง เช่น การแชร์รูปภาพ, อีเมล และ Instant Messaging ที่ถูกเปลี่ยนหน้าตาให้เกิดความรู้สึกใหม่ระหว่างผู้ใช้งานมากขึ้น โดยเพิ่มลูกเล่นการปรับเปลี่ยนตามความต้องการส่วนตัวมากขึ้น (Personalization) เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และรองรับตลาดผู้ใช้งานออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

กลยุทธ์ที่สำคัญของไมโครซอฟท์ครั้งนี้ไม่ได้ต้องการแข่งกับเว็บไซต์เครือข่ายอย่าง Hi5 หรือ Facebook แต่เข้าไปร่วมมือกับเว็บไซต์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Flickr, Photobuket Inc, Twitter, WordPrees และอีก 50 บริษัท เพื่อเชื่อมโยงกิจกรรมออนไลน์ต่างๆ จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ร่วมมือกันเข้ากับ “วินโดวส์ไลฟ์” ผ่านทางโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นมาใหม่เป็นช่องทางในการรับข่าวสารเรียกว่า “What’s New” ซึ่งเป็นฟีเจอร์หลัก

“กระแสเว็บเครือข่ายสังคมกำลังขยายตัวอย่างมาก วินโดวส์ไลฟ์เวอร์ชั่นใหม่จะเน้นการเชื่อมโยงทุกบริการเข้าหากัน และยังสามารถรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของเครือข่ายเพื่อนในโลกออนไลน์ได้ด้วย” แบรี่ อุย หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์วินโดวส์ไลฟ์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มธุรกิจออนไลน์ ไมโคซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น บอกถึงโพสิชั่นของ วินโดวส์ไลฟ์ เวอร์ชั่นใหม่

ประกอบกับปริมาณโปรแกรมสนทนาที่หลากหลายทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงชุมชนออนไลน์ที่เพิ่มจำนวนขึ้น จากผลสำรวจการใช้งานออนไลน์ช่วงครึ่งปีแรก 2551 มีผู้ใช้บริการวินโดว์สไลฟ์ทั่วโลก 460 ล้านคน และผู้ใช้งานออนไลน์มีการใช้งานอีเมลมากกว่า 3 Account ต่อคน เป็นสมาชิกชุมชนออนไลน์มากกว่า 2 เว็บไซต์ เป็นเหตุผลที่ “แบรี่” บอกถึงการพัฒนาโซลูชั่นที่ต้องการตอบสนองบนโลกออนไลน์ ไว้กับ “วินโดวส์ไลฟ์” เวอร์ชั่นใหม่นี้ที่เดียว

เท่านั้นยังไม่พอ ไมโครซอฟท์ต้องจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดอีเวนต์ และโรดโชว์ ไปพร้อมๆ กับการลงโฆษณาบนเว็บของทรูไลฟ์ซึ่งเป็นครั้งแรกของการทำการตลาดที่ไมโครซอฟท์ไม่เคยทำมาก่อน เพราะตั้งความหวังไว้ว่าจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นถึง 20% จากปัจจุบันที่มี 9 ล้านราย

เป้าหมายของการเพิ่มแอพพลิเคชั่น และพื้นที่ใหม่ๆ ก็เพื่อต้องการเพิ่มเนื้อที่โฆษณาของวินโดวส์ไลฟ์นั่นเอง โดย “แบรี่” คาดว่ารายได้จากส่วนนี้มีอัตราการเติบโตสูงถึง 25-30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกัน และเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีแพลนลงโฆษณาผ่านเว็บไซต์มากขึ้นถึง 10% จากงบการตลาดทั้งหมด

Did you know?
-คนใช้วินโดวส์ไลฟ์ทั่วโลกมากกว่า 460 ล้านราย
-คนใช้โปรแกรม MSN 13% หรือ 8.2 ล้านต่อวัน
-ใช้บริการฮอตเมล 9% หรือ 271 ล้านฉบับ
-และคนไทยติดอันดับ 1 ของวินโดวส์ไลฟ์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
-ปี 1996 คนอเมริกาใช้อินเทอร์เน็ต เป็น 2 ใน 3 ของคนทั่วโลกที่ใช้อินเทอร์เน็ตคิดเป็นร้อยละ 30 ปัจจุบันคนอเมริกาใช้เพียง 21% ส่วนคนเอเชียใช้ถึง 40%