ยังต้องออกแรง”ปั้น”

“K Excellence” ของ”เคแบงก์” ผ่านหูผ่านตาลูกค้าแบงก์มาแล้ว 3 ปี แต่”ความแรง”ยังไม่เป็นที่พอใจของ”บัณฑูร ล่ำซำ” หรือคุณปั้นก่อนสิ้นปี 2551 แม้โลกกำลังวิกฤตจากเศรษฐกิจถดถอย การเมืองไทยที่เข้าถึงมุมอับ “บัณฑูร” จึงต้องออกมาเดี่ยวไมโครโฟนอีกครั้งและย้ำชัด ๆ ว่า”กสิกรไทยก็เหมือนธุรกิจทั้งหลาย ต้องดิ้นรน มีความแตกต่างให้อยู่ได้ในตลาด”

ครั้งนี้”สีสัน”อาจไม่ฮือฮาเท่ากับปลายปี 2548 ที่เคแบงก์เปิดตัวแคมเปญ K Heroes พ่วงด้วย K Excellece และปลายปี 2550 ที่เปิดตัว K now เพราะเวลานี้เคแบงก์ไม่พร้อมปล่อยศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย K ออกมาในตลาด จากผลของการพยายามโปรโมท K Excellence และ K Now นั้น”บัณฑูร” บอกว่ายังไม่พอใจนัก เพราะลูกค้ายังไม่รู้ว่าคืออะไร

“เราทำวิจัย คนก็บอกว่าจำได้ว่าเป็นของเคแบงก์ ถามว่าแปลว่าอะไรตอบว่าไม่รู้ นี่ก็ 3 ปีแล้ว ผลยังไม่น่าพอใจ”

อย่างไรก็ตาม”บัณฑูร” บอกว่ายังไม่รู้สึกถึงขั้นแบรนด์ K Excellence ล้มเหลว แต่ก็ให้เวลาอีก 1-2 ปีเช่นเดียวกับ K Now ที่ตอนนี้ได้คะแนนเพียง 20 เต็ม 100 เท่านั้น ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้”บัณฑูร” บอกว่า”ก็อย่างที่ผมมาพยายามมาพูด อธิบายกับพวกคุณ(ผู้สื่อข่าว) ยังไงหล่ะ “

เดี่ยวไมโครโฟนครั้งนี้”บัณฑูร” จึงเล่าความคืบหน้าบริการที่เตรียมไว้ให้ลูกค้าเคแบงก์ เช่น กลุ่มลูกค้าทั่วไป มีบริการคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นเลขาส่วนตัวบริการตั้งแต่จองโรงแรม จนถึงโทรปลุก บริการสินเชื่อออนไลน์ มีแผนเตรียมพนักงาน 350 คนประจำ 300 สาขาให้บริการปรึกษาทางการเงินกับลูกค้า และสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ มีบริการ Knowledge Center ที่จามจุรีแสควร์ และมี Business Clinic

ร่ายยาวมาทั้งหมดนี้คือสร้างผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการลูกค้า ที่เหลือก็คือตอกย้ำแบรนด์ให้ค่อย ๆ ซึม ซึ่งล่าสุดเคแบงก์เลือกใช้สื่อนอกบ้านคือป้ายโฆษณาตามฟุตบาธ (มัมปี้) ทั่วกรุงเทพ 300 จุด วางแผนไว้ 2 ไตรมาสติดกัน ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่ง“บัณฑูร” ย้ำปิดท้ายว่าต้องติดป้ายทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะกลัวคนไม่รู้ว่าคือความเป็นเลิศทางการเงิน ซึ่งเป้าหมายคือ”แบรนด์เป็นส่วนที่ทำให้คนจำได้ และมาใช้บริการ ไม่ใช่แค่โลโก้ หรือตราสวยเท่านั้น”