Nokia 3310 คัมแบ็ก ใช้ระบบ 3G ชิงเค้กตลาดฟีเจอร์โฟน 5 ล้านเครื่อง

กลายเป็นมือถือระดับตำนานที่ยังคงมีแฟนๆ ให้ความนึกถึงอยู่เสมอ สำหรับโนเกีย 3310″ ในช่วงหนึ่งเรียกว่าเป็นยุคที่โนเกียครองตลาด รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่มีคนใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่เมื่อยุคสมาร์ทโฟนเข้ามาทำให้โนเกียกลับเป็นรองในตลาดจนแบรนด์เริ่มหายไป จนเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายต่อหลายครั้ง

จนปัจจุบันโนเกียได้บ้านหลังใหม่ภายใต้ HMD Global ในการทำตลาดโนเกียต่อ พร้อมกับใช้ไม้ตายด้วยการนำโนเกีย 3310 มาปัดฝุ่นทำตลาดใหม่ในรูปแบบทันสมัยขึ้น ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่งาน Mobile World Congress 2017 เมืองบาร์เซโลน่า ตอนนั้นก็เกิดกระแสฮือฮาว่าโนเกีย 3310 จะกลับมา

แต่ตอนเปิดตัวตอนนั้นเป็นระบบ 2G จึงยังไม่นำเข้ามาทำตลาดในไทย จนได้พัฒนาเป็นฟีเจอร์โฟนระบบ 3G และได้เข้ามาทำตลาดในไทยเป็นที่เรียบร้อย ได้เปิดตัวในงาน Thailand Mobile Expo 2017 ไทยเป็นประเทศต้นๆ ในเอเชียแปซิฟิกที่เปิดตัวโนเกีย 3310 เปิดพร้อมกับประเทศออสเตรเลีย

สาเหตุที่เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายแรกๆ เพราะมองว่าตลาดสมาร์ทโฟน ฟีเจอร์โฟนในไทยยังมีการเติบโตอยู่ และคนไทยยังตอบรับกับแบรนด์โนเกียอยู่ จึงนำโนเกีย 3310 เข้ามาหวังทวงบัลลังก์ตลาดฟีเจอร์โฟน

มร.ซานดีฟ กุพทา ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาค บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล

ซานดีฟ กุพทา ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาค บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เล่าให้ฟังว่าจากที่ทำผลสำรวจกับคนไทยพบว่าแบรนด์โนเกียยังเป็นโปรดักส์ที่คนรู้สึกดีอยู่ เป็นแบรนด์ที่เคยแข็งแกร่ง การทำตลาดจึงเน้นการสื่อสารไปที่ความออริจินัล นำฟีเจอร์เก่าๆ ที่คนรักกลับมาอย่างเกมงู ซึ่งไทยถือว่าเป็นอีกประเทศที่สร้างตลาดให้กับรุ่นนี้

โนเกีย 3310 ได้มาตีตลาดฟีเจอร์โฟนโดยเฉพาะ ซานดีฟมองว่าตลาดฟีเจอร์โฟนในไทยแม้จะไม่เติบโตมาก ปัจจุบันมีจำนวนการขายในแต่ละปีเฉลี่ย 5 ล้านเครื่อง และถึงแม้คนเริ่มเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนกันเยอะแล้ว แต่ก็ยังมีบางกลุ่ม อย่างผู้ใหญ่ คนแก่ที่ยังอยากใช้มือถือแบบปุ่มกด และยังมีโอกาสจากคนที่ใช้ฟีเจอร์โฟน 2G มาใช้ 3G อยู่

โดยใช้ความเก๋าของความเป็นโนเกีย 3310 สู้ในตลาด เน้นที่ความคลาสสิก ออริจินัลของมือถือ

โนเกีย 3310 โฉมใหม่นี้เน้นรูปร่างคลาสสิกคล้ายของเดิม จอสี มีกล้องถ่ายรูป 2 ล้านพิกเซล สามารถใช้อินเทอร์เน็ตเล่นเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ได้ แต่ใช้งานผ่านเว็บบราวเซอร์ มี 4 สีได้แก่ เหลือง แดง ฟ้า และเทาดำ

แต่กำหนดวางจำหน่ายจริงช่วงกลางเดือนตุลาคม 2560 ในราคา 1,790 บาท.