กลุ่มสามารถประกาศเปลี่ยนชื่อกลุ่มธุรกิจสามารถไอ–โมบาย เป็น สามารถ ดิจิตอล (Samart Digital Company : SDC) ตามแผนการทรานฟอร์มธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่ Samart Digital Life ภายใต้ 5 สายธุรกิจ ครอบคลุมธุรกิจสื่อสาร คอนเทนต์ กีฬา บริหารทรัพย์สิน และ IoT
จากผลพวงของสภาพธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่นับวันดีกรีการแข่งขันจะดุเดือดยิ่งขึ้น ทั้งแบรนด์ข้ามชาติที่เข้ามาทำตลาด ประกอบกับการที่โอเปอเรเตอร์ก็เข้ามาทำตลาดเองด้วย ส่งผลให้ทางไอ–โมบาย ไม่สามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้ต้องตัดสินใจเบนเข็มหนีจาก “red ocean” เพื่อหา “blue ocean” ใหม่อีกครั้ง
“ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือจะไม่ใช่ธุรกิจหลักต่อไป เมื่อธุรกิจไปไม่ได้ก็ต้องเริ่มเปลี่ยน เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาขาดทุนมาตลอด เลยต้องมองหาธุรกิจใหม่มาทำ ในกลุ่มธุรกิจที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังไม่มีคู่แข่ง” วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มสามารถ เริ่มเข้ามาจำหน่ายโทรศัพท์มือถือมาตั้งแต่ปี 1997-1998 หรือเกือบๆ 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การนำซีเมนส์ โนเกีย อีริคสัน ซัมซุง จนมาสร้างแบรนด์ ไอ–โมบาย ที่จะเริ่มปิดฉากลง เพราะไม่สามารถไปแข่งกับโอเปอเรเตอร์ที่ทำการลดราคาค่าเครื่อง โดยสร้างรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์แทน
การทำธุรกิจของบริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับการอนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัท เมื่อ 27 กันยายนที่ผ่านมา จะรุกเข้าไปใน 5 สายธุรกิจ ประกอบด้วย 1.Digital network ที่ให้บริการด้านการสื่อสารผ่านระบบดิจิตอล ทั้งโทรศัพท์มือถือ และวิทยุ Trunk Radio 2.Digital Content ให้บริการคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ กิน ดื่ม เที่ยว (EDT) ดูดวง 3.iSport ที่จะเน้นธุรกิจกีฬาครบวงจร 4.Zazzet ให้บริการขายฝากสินทรัพย์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ และ 5.IoT ในการจำหน่ายอุปกรณ์เสริม
เบื้องต้น กลุ่มสามารถฯ วางเป้าหมายในการทรานฟอร์มบริษัทไว้ภายใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อให้สามารถ ดิจิตอล ขึ้นมาเป็นรายได้หลักของบริษัท โดยจะเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงต้นปี 2561 ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับทาง กสท โทรคมนาคม ให้บริการวิทยุ Trunk Radio ภายใต้งบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท
รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจคอนเทนต์ในกลุ่ม EDT ที่จะเน้นการให้บริการมากขึ้น จากเดิมเน้นเฉพาะรายได้จากโฆษณาเป็นหลัก ไม่นับรวมกับธุรกิจใหม่ที่สร้างขึ้นมาอย่าง Zazzet ที่เริ่มให้บริการขายฝากทรัพย์สินที่เริ่มให้บริการไปแล้ว และการจำหน่ายอุปกรณ์เสริมในธุรกิจ IoT
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของรายได้ของกลุ่มสามารถในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่เกือบๆ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากใน สายธุรกิจโมบายและมัลติมีเดีย (Mobile-Multimedia) คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 3 พันล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้ 4.5 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจอื่นๆยังตามเป้าหมายที่วางไว้
ที่มา : mgronline.com/Cyberbiz/detail/9600000100616