ยิ่งนับวันดีกรีการแข่งของ “ร้านสะดวกซื้อ” ก็ยิ่งดุเดือด นอกจากการขยายสาขาให้เข้าถึงผู้บริโภค ก็ต้องเพิ่มบริการใหม่ๆ และใช้โปรโมชั่นตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย โดยตลาดนี้ยังคงครองตลาดโดย “เซเว่นฯ” ที่มีสาขาเกือบหมื่นแห่งเข้าไปแล้ว
แต่ในระยะหลังมานี้การแข่งขันเริ่มหันมาเน้นนวัตกรรม สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่สามารถเรียกเสียง “ว้าว” จากผู้บริโภคได้ ยิ่งได้รับการแชร์บนโลกออนไลน์ด้วยแล้ว โอกาสกวักมือเรียกลูกค้าเข้าร้านก็ทำได้ไม่ยาก
ด้วยเหตุนี้เบอร์รองในตลาดอย่าง แฟมิลี่มาร์ท ร้านสะดวกซื้อในเครือเซ็นทรัล จึงประเมินแล้วว่า สาขาที่มีปัจจุบัน 1,136 สาขาเท่านั้น การขยายสาขายังน้อยเฉลี่ยปีละ 50 สาขา คงเป็นเรื่องยากที่จะไปต่อกรกับคู่แข่งที่มีโมเดลแฟรนไชส์ทำให้ขยายสาขาได้รวดเร็ว
งานนี้ แฟมิลี่มาร์ท จึงหันมาสู้เรื่อง “รูปแบบร้านค้า” ด้วยการปรับโฉมร้านค้าใหม่ให้เป็น “สไตล์ญี่ปุ่นมีกลิ่นอายมินิมอล” ชนิดที่จัดหนักและจัดเต็ม โดยหวังให้เป็น One Stop Shopping ปัจจุบันมี 2 สาขา ได้แก่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม และสุขุมวิท 33 เป็นสาขาล่าสุด
สาขาภายใต้โมเดลใหม่จะใช้ คอนเซ็ปต์ Fresh Fun and Friendly นั่นคือรวมสินค้าบริการหลายอย่างไว้ด้วยกันรวม 3,000 รายการ ตั้งแต่อาหารสด กาแฟ เบเกอรี่ เครื่องดื่ม ของที่ระลึก หนังสือ และมุมรับประทานอาหาร เน้นเมนูปรุงสดพร้อมทาน โดยมีร้านพันธมิตร ครัวมลิวัลย์ และสีฟ้า มาช่วยบิวท์แบรนด์ เรียกว่ามาแบบจัดเต็ม โดยสาขาใหม่นี้ใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 150 ตารางเมตร ยึดทำเลในเมือง มุ่งจับกลุ่มคนทำงาน และนักท่องเที่ยว
จิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด เล่าว่า ตลาดร้านสะดวกซื้อในตอนนี้ทุกคนแข่งกันที่นำเสนอสิ่งใหม่ให้ลูกค้า เท่ากับว่าไม่ได้แข่งแค่จำนวนสาขาอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเรื่องการสร้างประสบการณ์ที่ดีมากกว่า แฟมิลี่มาร์ทต้องการสร้างความแตกต่างในตลาด ให้เป็นมากกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่ต้องเป็น One Stop Shopping ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครบ ต้องการเติมเต็มให้ลูกค้าทุกช่วงเวลา“
ถึงแม้จะมีแฟมิลี่มาร์ท ญี่ปุ่นถือหุ้น โมเดลนี้เป็นการคิดค้นและพัฒนาเองโดยทีมเซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท ไม่ได้นำมาจากประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลาในการพัฒนาไม่เกิน 1 ปีก็ทำออกมาเป็นรูปเป็นร่างโดยศึกษาจากความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการอะไร มีไลฟ์สไตล์อะไร ดูเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นความสะดวกแต่มีเวลาน้อย
สำหรับสาขาใหม่ที่สุขุมวิท 33 ได้เพิ่มโซน Open Space เป็น Co-working Space บนพื้นที่ 200 ตารางเมตร พร้อมบริการไวไฟใช้เป็นจุดทำงานแฮงเอาต์ได้เพื่อรองรับกลุ่มคนทำงานและนักท่องเที่ยว
อีกหนึ่งบริการที่แฟมิลี่มาร์ทให้ความสำคัญมากขึ้นคือบริการชำระเงิน เติมเงิน และบันเทิงออนไลน์ต่างๆ สามารถจ่ายบิล รวมถึงเติมแพ็กเกจความบันเทิงได้ และมีบริการส่งพัสดุด้วย Kerry Express และบริการเดลิเวอรี่โดย โก มาร์ท จากโกไบค์ เพื่อรับพฤติกรรมช้อปออนไลน์
สำหรับสาขาต่อไปที่จะเปิดให้บริการในรูปแบบใหม่นั้นยังไม่มีการเปิดเผยแต่ยังคงเน้นทำเลในเมืองที่มีกลุ่มคนทำงานนักท่องเที่ยวอาศัยอยู่จำนวนมากเป็นโลเคชั่นหลัก