ทั้งที่ไม่ใช่คนในวงการบันเทิงหรือนักธุรกิจรุ่นใหม่ แต่ชื่อของ ”อิ๊ก (IG) -บรรณ บริบูรณ์” หนุ่มเนื้อหอมวัย 26 ปี แห่ง “วงการกระทะเหล็ก” กลับเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ และสื่อต่างๆ ได้มากกว่าปกติ โดยการันตีความดังได้จากการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับสินค้า เป็นแขกรับเชิญในงานอีเวนต์ต่างๆ ตลอดจนผลโหวตแสดงความเป็น ”หนุ่มฮอต ”ตามหน้านิตยสารต่างๆ อาทิ CLEO และ A Day บทสรุปสำหรับ ”อิ๊ก” คือ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่อง ”อาหารการกิน” อาจไม่โด่งดัง เป็นดาวรุ่งที่เสิร์ฟอาหารพร้อมความบันเทิงอย่างปัจจุบัน
IG : “ตอนนี้งานหลักของผมคือ “รายการครัวอินดี้” ซึ่งอิ๊กเป็นทั้งพิธีกร และเป็นหนึ่งในทีมงาน คือต้องคิดธีม คิดรายการอาหาร แล้วก็มีออกงานอีเวนต์ต่างๆ…ส่วนวันนี้มีถ่ายสกู๊ป 2 เทปครับ”
อิ๊กย้ายจากโรงเรียนไทยเข้าสู่โรงเรียนอินเตอร์ ICS กระทั่งจบชั้นมัธยมสี่จึงเดินทางไปศึกษาต่อไฮสกูลและมหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลีย โดยเลือกเรียนทำอาหารและการโรงแรม กระทั่งปีสุดท้ายจึงได้เปลี่ยนมาเรียนบริหารธุรกิจเพื่อจะได้ความรู้ในเชิงการตลาดมากขึ้น
POSITIONING : คงถูกตั้งคำถามเยอะว่าชอบทำอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่
IG : ใช่ อิ๊กจะบอกตลอดว่าไม่มีช่วงที่รู้ตัวขนาดนั้น แค่คิดว่าอยากเรียน อยากทำอาชีพอะไรที่เราถนัดและมีความสุขกับมัน แล้วผมก็พยายามมุ่งมั่นในอาชีพนี้มาตลอด
POSITIONING : ตอนนั้นอาชีพเชฟก็ยังไม่ได้บูม อะไรทำให้เด็กผู้ชายคนนึงมั่นใจว่าจะสามารถใช้เป็นอาชีพได้
IG : ใช่ ในเมืองไทยมันเป็นอาชีพที่ไม่ป๊อปเท่าไหร่ แต่ก็คิดว่าเราน่าจะทำเป็นอาชีพได้ เพราะยังไม่ได้คิดว่าจะต้องร่ำรวย อยากลองทำดูก่อนว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วค่อยมาดูว่ารายได้เลี้ยงเราได้รึเปล่า
POSITIONING : ทางบ้านว่ายังไงที่ลูกชายคนเล็กและคนเดียวเรียนทำกับข้าว
IG : ทางบ้านสนับสนุนครับ เค้าอยากให้ลูกเรียนอะไรที่ตัวเองชอบและเป็นคนดี แค่นี้ก็พอแล้ว
POSITIONING : เล่าให้ฟังถึงชีวิตนักเรียนเชฟวันแรกหน่อย
IG : เป็นหลักสูตรของการโรงแรมน่ะครับ จำได้ว่าวันแรกมีคลาสพูดถึงเครื่องแบบเชฟ ก่อนทำอาหารเราควรรู้อะไรบ้าง อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในครัว ชื่อวิธีการหั่นแบบต่างๆ ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส เพราะพื้นฐานพวกนี้มาจากที่นั่น
POSITIONING : แล้วทำไมไม่เรียนที่ฝรั่งเศส
IG : เพราะอิ๊กไม่ได้คิดจะเรียนทำอาหารแต่แรก คิดแค่เรียนจบไฮสกูล ถ้าจะย้ายไปเรียนฝรั่งเศสเพื่อเรียนทำอาหารโดยเฉพาะมันจะยุ่งยาก แล้วออสเตรเลียอาหารก็ไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่น ถือว่าค่อนข้างดีในวงการ
การเรียนทำอาหารที่สถานศึกษาของอิ๊กมีให้เลือก 3 คอร์สหลักด้วยกัน 1.Commercial Cookery 2. Asian Cookery และ 3.อาหารหวาน อิ๊กเลือกเรียน “Commercial Cookery” หรือการทำอาหารเพื่อการพาณิชย์ เพราะทำให้เขาเห็นภาพรวมของการทำอาหารชัดเจนที่สุด โดยการเรียนจะเน้นอาหารนานาชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารฝรั่ง อีกทั้งยังมีการเรียนทำขนมด้วย
การเรียนของอิ๊กจะเป็นการทำอาหารให้ได้ตามสูตรที่เชฟสร้างขึ้นมา เขาต้องทำงานกับแต่ละฝ่ายซึ่งต้องอาศัยระเบียบวินัยสูง เพราะอาหารเมนูต่างๆ มีมาตราฐานที่ต้องผ่านการชิมโดยหัวหน้าเชฟ “…มันไม่เหมือนทำอาหารทานที่บ้านที่เราจะสามารถครีเอตอะไรได้เองน่ะครับ”
IG : ตอนนี้อิ๊กอยากเก็บประสบการณ์ ”การทำอาหารหน้ากล้อง” กับงานออแกไนเซอร์-อีเวนต์ให้มากที่สุดครับ เพราะคิดไว้ว่าอยากทำร้านอาหารที่สามารถทำ Catering ได้
POSITIONING : ชื่อร้านล่ะ
IG : คิดไว้หลายชื่อครับ แต่ชื่อสุดท้ายที่เพิ่งตั้งคือ “Chimney” ที่แปลว่าปล่องไฟ ซึ่งก็พ้องกับเสียงในภาษาไทยที่ว่า “ชิมนี่ (สิ)”
POSITIONING : อยากเห็นภาพของ Chimney ชัดๆ
IG : อิ๊กเห็นภาพร้านเป็นอิฐๆ นะ ร้านไม่ต้องใหญ่มาก แต่มีกลิ่นอายอบอุ่น โรแมนติก เสิร์ฟอาหารฝรั่ง เมนูคงไม่เยอะแต่ต้องอร่อยทุกอย่าง ไม่เน้น Turnover ที่คนต้องเข้าออกเยอะ
POSITIONING : แสดงว่าถนัดอาหารฝรั่ง
IG : อิ๊กรู้อาหารฝรั่งมากกว่า เพราะทำมามากกว่า
POSITIONING : อาหารฝรั่ง อาหารไทยต่างกันยังไง
IG : อาหารฝรั่งในแต่ละประเทศไม่เหมือนกันครับ แม้ในประเทศเดียวกันก็ต่างกันออกไปในแต่ละภูมิภาค อาจจะเหมือนกันด้วยคอนเซ็ปต์ เครื่องปรุง วิธีการ วัตถุดิบ และรสชาติ อาหารฝรั่งอาจจะใช้วัตถุดิบไม่เยอะในอาหารจานหนึ่ง แต่อาจโฟกัสไปที่อุณหภูมิ และวิธีการทำมากกว่า ในขณะที่อาหารไทยใช้เวลาต่อจานเร็วกว่า แต่การเตรียมการเยอะหน่อย เครื่องเยอะ
POSITIONING : เมนูแบบไหนที่ท้าทายตะหลิวเชฟอิ๊ก
IG : “อาหารทะเล” เป็นอะไรที่ท้าทาย เพราะมันต้องสุกพอดี วัตถุดิบต้องสด ใช้สมุนไพรให้ถูกเพื่อดับกลิ่นคาว
POSITIONING : มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่ฉายให้เห็นชีวิตเชฟได้ชัดเจนบ้าง เผื่อคนที่สนใจอยากเรียนเชฟ
IG : อิ๊กประทับใจ “Ratatouille” ครับ ดูแล้วรู้สึกเหมือนได้กลับเข้าไปในครัวจริงๆ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฮะ เค้าต้องมีที่ปรึกษาเป็นเชฟจริงๆ แน่เลย มันมีโมเมนต์เล็กๆ หลายอย่างที่ถ้าไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ จะไม่รู้ เช่น มีคาแร็กเตอร์นึงที่รู้สึกเหนื่อย เลยแวบเข้าไปในห้องเย็นซักพัก อาจจะเข้าไปเพื่อเอาผัก เราก็จะแอบหายใจในนั้นแป๊บนึง ทุกคนเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะไม่ใช่เฉพาะอิ๊ก เพราะพวกเราต้องอยู่หน้าเตาอยู่กับความร้อนตลอด หรือถ้ามีเชฟผู้หญิงมาใหม่ก็จะโดนแซว โดนแกล้ง หรือโดน Pick on
POSITIONING : ทำไมล่ะ
IG : อืมแปลกที่ถ้าเป็นประเทศที่วงการเชฟเฟื่องฟู จริงๆในครัวจะเป็นที่ของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง อาจจะด้วยเนื้องานต้องใช้แรงมาก ต้องขนของหนัก และต้องมีความเด็ดขาด ตัดสินใจช้าไม่ได้ คือผมก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงเป็นอย่างงี้ทุกคนรึเปล่า แต่ส่วนใหญ่จะ Emotional ซึ่งอาจจะเผลอใส่ลงไปในการทำงาน เพราะเชฟก็เหมือน Manager ที่ต้องบริหารคนในครัวซึ่งมาจากทุกแขนง ทุกการศึกษา ซึ่งก็ต้องเฮี้ยบในระดับนึง
POSITIONING : เชฟอิ๊กเฮี้ยบรึเปล่า
IG : ก็ทำได้นะ แต่ตอนทำงานที่เมืองไทยในฐานะ Head Chef นี่เราต้องปรับการทำงาน เราไม่สามารถดุพ่อครัวแม่ครัวเหมือนที่โน่นได้ บางทีเค้ามาจากต่างจังหวัดที่มาทำอาหารเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ ไม่ได้ใจรักสุดๆ ไม่ได้ Commit สุดๆ เหมือนเรา ก็ต้องใช้เหตุผล คุย สอน เพราะนิสัยคนไทยขี้น้อยใจ แต่ผิดหลายๆ ครั้งก็ไม่ได้ เราจะแย่
เรียบจบ อิ๊กกลับมาเมืองไทยเริ่มต้นในสายอาชีพเชฟ โดยการฝึกงานที่โรงแรม Intercontinental และทำงานเป็น Head Chef ที่ร้าน Vanilla (ร้านอาหารเครือ S&P) ในเวลาต่อมา และเริ่มเขียน “Business Plan” ของตนเองในเวลาเดียวกัน
IG : ตอนแรกเป็นฟรีแลนซ์ Create เมนูพิเศษครับ แต่ตอนหลังอิ๊กขอทำ Full Time เลยได้ทั้ง Create และ Manage เลยต้องดูทั้งเรื่อง Quality, Workflow ในครัว สูตรอาหาร เทรนนิ่ง ดูสต๊อกสินค้า เจรจากับ Supplier รวมถึงงานเอกสาร คืออิ๊กดูในส่วนของอาหารคาวเกือบทั้งหมดให้กับวานิลลาทุกสาขา
POSITIONING : อย่างนี้เชฟแตกต่างจาก Food Stylist แค่ไหน
IG : Food Stylist ไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็นครับ แค่จัดแต่งอาหารให้สวยงาม อาวุธคือสเปรย์น้ำมัน หรืออย่างโฆษณาพิซซ่า ไก่ทอด เค้าใช้สารเคมีสองตัวฉีดเข้าไปเพื่อให้เกิดควันดูน่ากิน ส่วนเชฟต้อง Manage คนในครัว คิดสูตรอาหาร บางทีก็ทำเองและดีไซน์การตกแต่งอาหารด้วย
POSITIONING : แล้วมาทำรายการครัวอินดี้ได้ยังไง
IG : ตอนทำอยู่วานิลลา อิ๊กได้เจอรุ่นพี่ซึ่งรู้จักกับครีเอทีพที่บริษัท A-view ซึ่งกำลังจะทำรายการอาหารพอดี ประกอบกับเคยบ่นกับเค้าว่าอยากทำ เลยเอา Business Plan ไปเสนอ
POSITIONING : เป็นเชฟอยู่ดีๆ ทำไมถึงอยากทำรายการทีวี
IG : ก็ตั้งแต่กลับมาเมืองไทย รุ่นพี่กับเพื่อนๆ ชอบยุให้ทำรายการอาหาร แต่ตอนนั้นยังไม่อยาก เพราะเค้าพูดอย่างกับเราเป็น Jamie Oliver แต่วันนั้นอิ๊กรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่งขนาดนั้น เพิ่งเป็นเชฟไม่กี่ปี แต่ก็มีคนมาถามเรื่อยๆ วันนึงเพื่อนสนิทพูดขึ้นมาว่า ถึงเราจะไม่ได้เก่งสุดยอด แต่ก็น่าจะให้อะไรคนดูได้บ้าง ไม่มีมากไม่มีน้อย ยังไงมันก็บวก อย่างน้อยก็ได้โปรโมตเรื่องอาหาร ก็เลยฉุกคิดว่า ถ้าไม่ทำตอนนี้คนอื่นก็คงทำ
POSITIONING : หน้าตาหล่อรึเปล่าเลยได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
IG : อาจเพราะอิ๊กดูเป็นคนรุ่นใหม่ที่ลุคไม่เหมือนเชฟ แต่ทำอาหารเป็น คือไม่เหมือนภาพเชฟที่เราเคยเห็นๆ กันอย่างคุณสมัคร หรือคุณหมึกแดง เลยทำให้น่าสนใจมากขึ้น
POSITIONING : คอนเซ็ปต์รายการอิ๊ก
IG : ซีเรียสเรื่องการทำอาหารครับ แต่ต้องกลั่นกรองให้ออกมาในรูปแบบที่คนเข้าใจ ย่อยง่าย
POSITIONING : ทำครัวแบบอินดี้ชิมนี่ต้องเป็นยังไง
IG: อินดี้คือไม่มีจุดตายตัว ไปได้หลายทาง เช่น เราไม่ยึดคอนเซ็ปต์แบบรายการอาหารเดิมที่ตั้งกล้องไว้ แล้วเอาทุกอย่างที่เตรียมไว้มาผสมกันให้ดูหน้ากล้อง มันดูง่าย ใช่ แต่เรื่องจริงมันไม่เป็นอย่างงี้ รายการของอิ๊กจะธรรมชาติ เริ่มให้เห็นตั้งแต่การเตรียม เหมือน Realtime เลย รายการนี้เลยถ่ายทำนาน อาศัยการตัดต่อเอา
POSITIONING : การทำอาหารหน้ากล้อง กับการทำในครัวต่างกันแค่ไหน
IG : โหต่างกันคนละแบบเลยครับ การทำอาหารหน้ากล้องจริงๆ มันเป็น Acting หน่อยๆ ตอนแรกเราไม่ชินกับกล้อง ประหม่า เพราะการถ่ายทำมันต้องเป็นไปตามลำดับ ไม่ใช่ทำๆ อยู่อ้าวลืมส่วนผสม ต้องออกไปซื้อกลับมา หรือจะหาของไม่เจอไม่ได้ ทุกอย่างอิ๊กเลยต้องคิดมากกว่าทำอาหารในครัว บวกกับที่ต้องจำบท ตอนแรกมันเลยยากมาก เวลาเรารอปลาสุกเราจะทำอะไรไม่ให้คนดูเบื่อ ต้องคิด อิ๊กเคยไปงาน Gourmet Food Festival เชฟไอร์แลนด์ชื่อดังประสบการณ์ 30 ปี ต้องทำ Demonstrate ขนาดไม่มีกล้องเค้ายังเงอะงะเลยว่าอะไรอยู่ไหน
POSITIONING : อิ๊กติดอันดับเซเลบรุ่นใหม่ในวงสังคมเลยนะ
IG : อิ๊กไม่เห็นว่าตัวเองเป็นเซเลบเท่าไหร่นะ เราก็ทำตัวตามปกติของเราทุกวัน ก็มีคนติดต่อให้เป็นเหมือนเซเลบ ในงาน แต่อิ๊กไม่อยากรู้สึกว่าอยากจะเป็น อึดอัดเปล่าๆ ออกจากบ้านก็ยังทำตัวสบายๆ เหมือนเดิมซึ่งคนอาจจะบอกว่าดูไม่ดีบ้าง เวลาไปออกอีเวนต์ก็จะเป็นลักษณะสอนทำอาหาร สาธิต หรือทำให้ชิมประมาณนี้ น้อยมากที่จะไปแค่เดินโชว์ตัวอย่างพวกเซเลบจริงๆ
POSITIONING : มองอาชีพตัวเองในวันนี้ยังไง
IG : ตอนนี้กำลังบูมเลย ผมว่ามันเป็นเหมือน Culture นะ ถ้าประเทศเราไม่เจ๊งไปซะก่อน เพราะถ้าประเทศยังคงพัฒนาอยู่ Culture ก็ต้องพัฒนา ความคิดของคนก็พัฒนาตาม คนเริ่มเปิดใจมากขึ้นกับการกินอาหาร และอาชีพทำอาหาร คนยังต้องกินอยู่
POSITIONING : ประสบความสำเร็จในจุดที่ตัวเองตั้งไว้เป้ารึยัง
IG : ในระดับนึงครับ อยากทำรายการก็ได้ทำแล้ว ผลตอบรับก็ค่อนข้างดี ตอนนี้ก็ยังมีโปรเจกต์ร้านอาหารที่อยากทำอยู่ ผมคิดภาพไว้ว่าอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองตอนแก่ แต่ตอนนี้ยังไม่แก่ไง
POSITIONING : ถ้าอยากมีเส้นทางในอาชีพเชฟที่ประสบความสำเร็จอย่างอิ๊กต้องเริ่มยังไง
IG : อดทนและใจเย็นครับ เพราะเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และประสบการณ์ เราต้องพยายาม “Passionate” กับมัน ต้องหา Inspiration ให้ตัวเองเสมอ เหมือนเรา ”เต้นอยู่บนปลายเท้า” ต้อง Update บ่อยๆ ขยันชิม อย่างในงาน Gourmet & Food Festival นี่อาหารอร่อยมาก การตกแต่งสวยงามไอเดียดี เค้ารู้จักใช้วัตถุดิบ เช่น ใช้เม็ดแมงลัก งานพวกนี้อิ๊กชอบไป ทำให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารมากขึ้น
POSITIONING : เชฟคนไหนเป็นไอดอล
IG : มีเชฟที่อิ๊กชอบแต่อาจจะไม่ได้มองเป็นไอดอล อย่าง “Neil Perry” เค้าทำซีฟู้ดเก่ง มีร้านอยู่ที่ออสเตรเลีย อิ๊กชอบเพราะเค้าเน้นวัตถุดิบ เน้นความสดของอาหาร ไม่ใส่เครื่องปรุงเยอะ และเรียบง่าย อีกคนคือ “Gorden Ramsey” ชอบเมนู ชอบสูตรเค้าที่เป็น Traditional ซึ่งอิ๊กชอบ
POSITIONING : Traditional Style เป็นเอกลักษณ์ของเชฟอิ๊กด้วยรึเปล่า
IG : ในรายการไม่ใช่ แต่โดยวิชาชีพส่วนตัวใช่ครับ สมมติจะทำสปาเก็ตตี้ซอสเนื้อ เป็นอะไรที่คนรู้จัก ทำง่ายหลายคนอาจบอกว่าน่าเบื่อ แต่อิ๊กชอบทำเมนูพวกนี้ให้มีความน่าสนใจกว่าปกติ
POSITIONING : อาหารมีเทรนด์เหมือนแฟชั่นรึเปล่า
IG : มีครับ ปีนี้เป็นเทรนด์ Healthy และเทรนด์ Fusion Food ซึ่งก็คงยังไปอีกยาว
POSITIONING : มองว่าเมืองไทยเป็นครัวโลกอย่างที่พยายามจะโปรโมตกันได้มั้ย
IG : ได้นะ ดูเพื่อนบ้านเราที่เจ๋งๆ อย่างฮ่องกง สิงคโปร์สิ โดยเฉพาะสิงคโปร์เค้าทำอาหารเก่งขึ้นเยอะมาก อิ๊กได้คุยกัยเชฟหลายๆ ท่านก็เห็นด้วยว่าประเทศเรามีศักยภาพ ไทยกำลังไปตามแนวนั้น เนื่องจากคนกินเป็นมากขึ้น แม้เศรษฐกิจจะทำให้การพัฒนาช้าลง แต่วงการนี้ก็ยังพัฒนา คนอยากเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารมากขึ้น ยิ่งเรามาทำงานตรงนี้ยิ่งเห็นว่ามันมีเทรนด์ที่ดีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารเยอะมาก มีโครงการสนับสนุนเชฟไทยไปเรียนเมืองนอก มีการส่งออกเชฟ
POSITIONING : อยู่บ้านทำอาหารทานรึเปล่า
IG : โอวววว! อิ๊กทำอาหารให้ตัวเองกินน้อยมาก เพราะมันเป็นวิชาชีพอยู่แล้ว นี่พอถ่ายรายการเสร็จก็ต้องทดลองสูตรอาหารสำหรับพรุ่งนี้ เวลามีอีเวนต์ก็เหมือนกัน ฉะนั้นเวลาหิว เราก็อยากจะซื้ออะไรง่ายๆ มาทาน
POSITIONING : เวลาว่างถ้าไม่นอนล่ะ
IG: เล่นกีตาร์ ออกไปสังสรรค์ ดูหนัง เตะบอลกับเพื่อนๆ ครับ
POSITIONING : ร้านโปรดของเชฟอิ๊ก
IG : ที่ไปกินบ่อยเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อ “Lyon” ราคาไม่แพง อยู่ซอยร่มฤดีครับ เป็นแนว Traditional Style
POSITIONING : ขอ Motto ส่งท้าย
IG : เราคง Take things for granted มากไม่ได้ เรามีโอกาสทำตรงนี้ก็ทำให้ดีที่สุด ชีวิตมันสั้นฉะนั้นต้องใช้ให้คุ้ม
ความอินดี้ของเชฟอิ๊ก คงไม่ได้มาจากเสื้อผ้าหน้าผมอย่างที่คนรุ่นใหม่พยายามสร้างกันขึ้นมา หากแต่อิสระทางความคิดที่อยู่ภายในตัวตนของเขาต่างหาก ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่ากับข้าวที่เขาทำ อิ๊กเลือกที่จะเป็นผู้กำหนดเส้นทางความสำเร็จให้แก่ตัวเองมาตั้งแต่เด็ก โดยมิต้องอาศัยฐานะหรือชื่อเสียงอันมีพร้อม เพียงแต่เขารู้จักที่จะเดินเข้าหาโอกาสต่างๆ ด้วยความมั่นใจอย่างคนรุ่นใหม่ใจอินดี้คนหนึ่ง