กลุ่มมิตรผลตอกย้ำความเป็นองค์กรชั้นนำที่คนทุกเจเนเรชั่นอยากร่วมงานและมีความผูกพันกับองค์กรสูง ด้วยการคว้ารางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นBest Employer 2017 ต่อเนื่องสองปีซ้อน พร้อมเผยกุญแจสำคัญสู่การเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกนั้นอยู่ที่บุคลากรเป็นหลัก ชูแนวคิด “เชื่อมั่นในคุณค่าของคน” ที่นำมาบูรณาการควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรม เป็นรากฐานให้คนมิตรผลผูกพันและเติบโตไปพร้อมกับองค์กร เน้นให้ “คนมิตรผล” รักในความเป็นมิตรผล และร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อการพัฒนาให้กลุ่มมิตรผลเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถก้าวไกลไปสู่ความเป็นองค์กรระดับโลกได้
นายบวรนันท์ ทองกัลยา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มงานทรัพยากรบุคคลและบริหาร กลุ่มน้ำตาลมิตรผล เผยว่า “จากการที่กลุ่มมิตรผลต่อยอดความสำเร็จจากการผลิตน้ำตาลไปสู่ธุรกิจ Bio-Based และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทำให้กลุ่มมิตรผลกลายเป็นแหล่งรวมบุคคลากรผู้มีความสามารถหลากหลายเจเนอเรชั่น ด้วยเหตุนี้การบริหารทรัพยากรบุคคลจึงมีความสำคัญและเป็นเรื่องท้าทายสำหรับองค์กรมากยิ่งขึ้น เพราะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง เพื่อเน้นสร้างความผูกพันของพนักงานทุกคนต่อองค์กร พร้อมส่งเสริมการปลูกฝังภาวะผู้นำ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญให้ทรัพยากรบุคคลมีศักยภาพและมีเป้าหมายร่วมกับองค์กร คือการทำให้กลุ่มมิตรผลประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ สามารถทำกำไรได้มากว่าองค์กรทั่วไปถึง51% พร้อมสู่การเป็น World Class Organization อันจะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจมาให้คนมิตรผลทุกคน ดังเช่นที่กลุ่มมิตรผลได้รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น Best Employer ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน
“เราเชื่อว่าค่าตอบแทนและสวัสดิการไม่ใช่ตัวชี้วัดเดียวที่ระบุถึงความผูกพันของบุคลากรกับองค์กร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคลากรในองค์กรและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความผูกพันอย่างยั่งยืน ดังนั้นการสร้างความผูกพันในองค์กรไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นหน้าที่ของทุกคน จากสถิติ พบว่ากลุ่มมิตรผลมีพนักงานที่ทำงานกับเรามาแล้วในเวลา 10-20 ปีถึง 21% จากพนักงานทั้งหมด 8,195 คน และมีอัตราการเปลี่ยนงานในระดับที่ต่ำเพียง 4.25% เมื่อเทียบกับองค์กรอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันที่มีอัตราสูงถึง 8.07%”
“กลุ่มมิตรผลเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังได้มีพื้นที่ในการแสดงออก พัฒนาความสามารถ และแสดงความคิดเห็นหรือมุมมองใหม่ๆ ที่จะนำมาปรับใช้ในการบริหารองค์กรต่อไปอีกด้วย เราพยายามพัฒนาและผลักดันให้กลุ่มมิตรผลเป็นองค์กรที่สามารถสร้างแรงจูงให้พนักงานทุ่มเท ปฎิบัติงานได้อย่างเต็มความสามารถ และมุ่งเน้นความสำเร็จระยะยาวและการสร้างความยั่งยืน ไม่เฉพาะแค่ในแง่ของการประกอบธุรกิจขององค์กรเท่านั้น เราจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้พนักงานที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมิตรผลมีความสุขในทุกๆ ด้านของชีวิตไปจนถึงเกษียณ กลุ่มมิตรผลมุ่งเน้นการดูแลพนักงานตั้งแต่ก้าวแรกด้วยระบบพี่เลี้ยงที่คอยให้คำแนะนำพนักงานใหม่ให้ได้รับความรู้และความเข้าใจถึงวัฒนธรรมขององค์กรอย่างใกล้ชิด การให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหารในแต่ละหน่วยงาน ทำหน้าที่เป็นผู้สอนงาน สร้างแรงบันดาลใจ ตลอดจนเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่พนักงาน อีกทั้งยังจัดกิจรรมและโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาสำหรับบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานในทุกระดับมีโอกาสได้เติบโตในเส้นทางอาชีพตลอดจนหลังเกษียณอายุอย่างมีความสุข ซึ่งรวมไปถึง โครงการเสริมสร้างความสามารถในการบริหารจัดการของพนักงานจนสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำที่มีศักยภาพ และกิจกรรมที่สอนเรื่องการรู้จักอดออม การใช้จ่ายที่เหมาะสม การไม่เป็นหนี้ เพื่อชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนไปจนถึงวัยเกษียณ ทำให้ยิ่งพนักงานยิ่งมีความผูกพันกับองค์กรมากขึ้น”
การได้รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่น Best Employer ติดต่อกันถึงสองปีซ้อน เป็นเครื่องยืนยันได้ดีถึงเจตนารมณ์ของกลุ่มมิตรผลในเรื่องการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคล ภายใต้แนวคิด “เชื่อมั่นในคุณค่าของคน” ซึ่งเป็นทรัพยากรที่กลุ่มมิตรผลให้ความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งนี้ กลุ่มมิตรผลเชื่อว่าวิธีการที่ยึดถือปฏิบัติมานั้นก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์จริง เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มมิตรผลกลายเป็นองค์กรที่พนักงานมีความผูกพันสูงและขึ้นแท่นเป็นองค์กรที่หลายๆ คนอยากจะร่วมงานด้วยมากที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรม
กลยุทธ์และกิจกรรมเพื่อการบริหารด้านทรัพยกรบุคคลของกลุ่มมิตรผล
กลุ่มมิตรผลบริหารด้านทรัพยากรบุคคลโดยเน้นการสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรและการสร้างความเป็นผู้นำ ด้วยกลยุทธ์ HR Transformation 4+1 เพื่อมุ่งยกระดับการทำงาน และขยายขีดความสามารถให้กับพนักงาน ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรสามารถเติบโตและมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นใน 4 เรื่องหลัก ประกอบด้วย การพัฒนาขีดความสามารถในระดับสากล ทั้งในด้านภาษา เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Global Competency Development) การพัฒนาขีดความสามารถขององค์กร ทั้งบุคคลและระบบงาน โดยอาใช้การเทียบเคียงจากองค์กรชั้นนำระดับโลกเข้ามาช่วยเพื่อให้รับรู้ถึงระดับความสามารถขององค์กร (Organization Effectiveness) การเพิ่มประสิทธิภาพของคนในองค์กร บริหารคนอย่างไรให้เก่งและการเตรียมผู้นำในอนาคต (Productivity through People) การให้ความสำคัญกับความผูกพันของพนักงาน การมีส่วนร่วม และการดูแลทุกข์สุขของพนักงาน (Enhancing Employee Engagement) และ การพัฒนาระบบงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง การปรับปรุงระบบงานให้เหมาะสมกับยุคสมัยเพื่อยกระดับการทำงานให้กับคนและองค์กร (HR Work System)
กลยุทธ์ต่างๆ ดังกล่าวถูกนำมาถ่ายทอดเป็นกระบวนการพัฒนาบุคลากรที่เป็นรูปธรรมผ่านโครงการและหลักสูตรฝึกอบรม ได้แก่ CE – Mitr Phol Learning Camp ซึ่งเป็นการเรียนรู้แนว Constructionism เพื่อเสริมสร้างให้มิตรผล เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ แนวคิด 70:20:10 สูตรไม่ลับกับการพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ อันประกอบด้วยเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง จากผู้อื่น และจากห้องเรียน หลักสูตร SDP (Supervisor Development Program) และ หลักสูตร MDP (Management Development Program) ที่จะเสริมสร้างภาวะผู้นำให้แก่บุคลากรเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำและบริหารทีมงานในการทำงาน รวมถึง กิจกรรมการพัฒนาบุคคลากรเพื่อเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ สู่การเป็นองค์กรระดับ World-Class ได้แก่ Mitr Phol WCO Day และ โครงการ Talent Mobility ที่เปิดโอกาสให้พนักงานผู้มีความสามารถของกลุ่มมิตรผลจากประเทศต่างๆ มาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การทำงาน
กลุ่มมิตรผลตระหนักว่าการสร้างความผูกพันกับพนักงาน (Employee Engagement) คือสิ่งสำคัญที่จะกระตุ้นให้พนักงานต้องการจะอยู่กับองค์กรในระยะยาว เพราะความผูกพันกับพนักงานเป็นตัวผสานความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของทุกฝ่าย ทั้งยังช่วยลดช่องว่าง สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและองค์กร ทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นกลุ่มมิตรผลจึงได้จัดตั้งกิจกรรมเพื่อการสร้างความผูกพันของพนักงานกับองค์กร ได้แก่โครงการ CEO SEE YOU ที่เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับได้มีโอกาสสื่อสารและรับฟังทิศทางกลยุทธ์จาก CEO โดยตรง
นอกจากนี้ กลุ่มมิตรผล ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นในด้านนวัตกรรม ได้ใช้วิธีขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับของตนเองลผ่านการจัดกิจกรรมที่บูรณาการแง่มุมของนวัตกรรมเข้ากับการพัฒนาบุคลากร ได้แก่โครงการ Innovation Awards ซึ่งช่วยกระตุ้นให้พนักงานของมิตรผลเกิดความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดสิ่งใหม่ออกนอกกรอบ รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยน การเรียนรู้ระหว่างกัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือแนวทางใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร