หนังโฆษณาสดๆ บนถนน

ทุกวันนี้โฆษณาทำดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่ดัง หรือผู้บริโภคไม่รู้จัก ก็หมดความหมาย ยิ่งในยุคที่บรรดาสินค้าทั้งหลายนิยมทุ่มทุนทำหนังโฆษณาในรูปแบบของหนังรักซีรี่ส์หลายตอนจบเหมือนๆ กันด้วยแล้ว เจ้าของสินค้าจึงต้องอัดฉีดงบโปรโมตหนังโฆษณาเพื่อสร้างความจดจำให้ได้มากที่สุด และอาจมากกว่างบที่ใช้ผลิตหนังโฆษณาด้วยซ้ำ

ดูอย่างภาพยนตร์โฆษณา “7 Days to Love” ปี 2 ซีรี่ส์หนังรัก 4 ตอนจบ ใช้ชื่อตอนว่า ชัยชนะแห่งรักแท้ ของพอนด์ส ฟลอเลสไวท์ ที่กำหนดออนแอร์ในช่วงค่ำของวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ยูนิลีเวอร์จึงต้องควักงบก้อนใหญ่ 100 ล้านบาทเพื่อโปรโมตหนัง ขณะที่งบการผลิตภาพยนตร์โฆษณา 50 ล้านบาท

หนังโฆษณาชุดนี้เพื่อต้องการเชื่อมโยงพอนด์ส ฟลอเลสไวท์ มีจุดขายอยู่ที่การเป็นบำรุงผิวขาวเรียบเนียนภายใน 7 วัน โดยกลุ่มเป้าหมาย อายุ 18- 30 ปี ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและคนทำงานตอนต้น ที่เริ่มมีความรัก

“หนังโฆษณาชุดนี้จะช่วยทำให้พอนด์สโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นสีสันที่พิสูจน์ถึงความเข้าใจและความเชื่อมโยงพอนด์สที่มีต่อผู้หญิงทั่วโลก” ผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว บริษัทยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บอก

ความแตกต่างของหนังเรื่องนี้ คือการทำให้เป็นโกบอล แอดเวอร์ไทซิ่ง ใช้แพร่ภาพในประเทศอื่นด้วย โดยผู้กำกับคนเดิม “สาธิต กาลวัตวานิช” แห่งฟีโนมีน่าที่กำกับมาตั้งแต่ซีรี่ส์ที่แล้ว แต่คราวนี้เปลี่ยนจากดาราดังของไทย มาเป็นนักแสดงหนุ่มเกาหลี “ยู แจ กึน” เคยเล่นหนัง Air City, There’s something about Boram มารับบทนำ และได้นางแบบสาวลูกครึ่งแคนาดา ฟิลิปปินส์ ราเชล ไวโอเลท โกลดิ้ง

เพื่อให้คนจดจำหนังโฆษณาชุดนี้ได้ พอนด์สจึงต้องทุ่มทุนตระเวนจัดอีเวนต์กลางแจ้งนำหนังโฆษณามาเล่นให้ดูกันแบบสดๆ บนท้องถนน ให้กับผู้คนในย่านสีลมและสยามแสควร์ เพื่อสร้าง Talk of the town แจกซีดีหนังโฆษณาให้ดูกันล่วงหน้า โฆษณาผ่านสื่อรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงการใช้สื่อออนไลน์ โปรโมตหนังโฆษณาบนเว็บไซต์ YouTube และการใช้กลยุทธ์ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง ส่งผ่านอีเมลต่อๆ กัน เพราะงานนี้พอนด์สหวังสร้างกระแสให้ยาวนานที่สุด ก่อนที่โฆษณาตอนสุดท้ายจะปิดฉากลงในช่วงวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์

พอนด์สนั้นได้ชื่อว่าเป็น 1 ในผู้เล่นคนสำคัญในตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงและดูแลผิวหน้า มีมูลค่ารวม 8,805 ล้านบาท ได้ชื่อว่ามีการแข่งขันมากที่สุด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาว (ไวท์เทนนิ่ง) ที่มีสัดส่วนถึง 49.5% โดยพอนด์สมีส่วนแบ่งตลาด 4.6%