ซีเอ็นเอ็น เปิดโลกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ในรายการพิเศษ “BUSINESS TRAVELLER” โดยพิธีกรชื่อดัง ริชาร์ด เควสท์

ในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวกว่า 30 ล้านคนทั่วโลกเดินทางมาเยือนประเทศไทย ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์ และสถิติดังกล่าวมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ท่ามกลางการขยายตัวอย่างสดใสของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไทยได้ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ ด้วยการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ในประเทศให้นานขึ้นและมีการใช้จ่ายที่มากขึ้น ในเดือนนี้ รายการ CNN Business Travellerดำเนินรายการโดย ริชาร์ด เควสท์ จะพาท่านผู้ชมไปเจาะลึกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เควสท์ มีโอกาสได้พูดคุยกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับการปรับแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยล่าสุดที่เน้นย้ำความสำคัญของการท่องเที่ยวเชิง ‘คุณภาพ’ มากกว่าเชิง ‘ปริมาณ’ โดยนางกอบกาญจน์ กล่าวว่า “เราเชื่อว่าความสำเร็จที่แท้จริงของการท่องเที่ยวไทยต้องอาศัยความร่วมมือจากคนไทยทุกคน โดยเรามีเป้าหมายคือ ต้องการให้นักท่องเที่ยวทุกคนมองว่าประเทศไทยเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง  ตามที่ทั่วโลกได้ขนานนามไว้ว่า สยามเมืองยิ้ม คือหัวใจสำคัญ เพราะมาจากมิตรไมตรีของคนไทยทุกคน”

ริชาร์ด เควสท์ เผยว่า “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและสเปน โดยมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 5 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่าร้อยละ 12 ของมูลค่าจีดีพีรวมทั้งประเทศ”

นอกจากนี้ เควสท์ยังได้เดินทางไปที่วิทยาลัยดุสิตธานี เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับหลักสูตรการสอนด้านงานบริการที่ขึ้นชื่อของไทย โรงแรมดุสิตธานีถือเป็นโรงแรมระดับห้าดาวแห่งแรกของไทยที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2513 เควสท์ ได้สัมภาษณ์นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานฝ่ายบริหารของโรงแรม เกี่ยวกับแผนการปรับโฉมโรงแรมระดับตำนานแห่งนี้ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วย “วิสัยทัศน์ปัจจุบันของเราคือ การนำเสนอความภาคภูมิใจในมรดกวัฒนธรรมของไทย รวมถึงส่งมอบบริการชั้นเลิศและมีเสน่ห์เฉพาะตัวของไทยให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก นั่นคือเป้าหมายสำคัญของเรา”  นางศุภจีกล่าว “สิ่งที่ดิฉันต้องการทำไม่ใช่เพียงแค่ขยายสาขาของโรงแรมออกไปยังต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังต้องการทำหน้าที่เป็นตัวแทนสำคัญในการถ่ายทอดศิลปะการให้บริการชั้นเลิศของไทยแก่ผู้คนทั่วโลกด้วย”

ซีเอ็นเอ็น ยังได้มีโอกาสไปเยือนหนึ่งในโรงแรมใหม่ในย่านเดียวกัน ได้แก่ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท ที่เพิ่งเปิดสาขาในไทยเป็นครั้งแรก โดยกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่กลยุทธ์การท่องเที่ยวไทยแบบใหม่จะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางมาร่วมงานประชุม สัมมนา การลงทุน และนิทรรศการต่าง ๆ ให้มากขึ้น ในโอกาสนี้ เควสท์ยังได้พูดคุยกับนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB)เพื่อทราบถึงแผนการโปรโมทเพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเหล่านี้เดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น

พร้อมเดินทางไปยังภาคเหนือสู่จังหวัดเชียงใหม่ รายการ CNN Business Traveller ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของสายการบินนกแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของไทย ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศอันเปี่ยมมนต์เสน่ห์ของเมืองกลางขุนเขาที่ต่างจากเมืองใหญ่และเมืองริมชายหาดอื่น ๆ ของไทย และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย เควสท์ได้ใช้เวลาหนึ่งวันเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมที่ศูนย์บริบาลช้าง และเมื่อถึงช่วงเวลากลางคืน เขาได้เข้าพักที่โรงแรม 137 พิลลาร์เฮาส์ เพื่อเจาะลึกเทรนด์ที่พักสไตล์บูติกระดับหรูที่จะกลายเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวไทยในอนาคต

การท่องเที่ยวสไตล์บูติกยังเชื่อมโยงไปถึงการเดินทางบนน่านฟ้า รายการ CNN Business Traveller จึงเลือกเดินทางกลับโดยเที่ยวบินของบางกอก แอร์เวย์ส เพื่อศึกษาถึงผลดีของการท่องเที่ยวสไตล์บูติกที่มีต่อธุรกิจสายการบินด้วย

ปิดท้ายรายการด้วยการเจาะลึกความสำคัญของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในประเทศไทย  ซีเอ็นเอ็น พร้อมด้วยบริษัทการท่องเที่ยว Local Alike ได้ไปเยือนชุมชนกุฎีจีน โดยคุณไผ่ บุญคำ ผู้ก่อตั้งบริษัท และเติบโตมาในหมู่บ้านท้องถิ่น ได้บอกเล่าถึงเหตุผลที่ได้ตัดสินใจทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมสร้างความสำเร็จให้กับการท่องเที่ยวไทยไปด้วยกัน

เวลาออกอากาศในประเทศไทย:

พฤศจิกายน:

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน เวลา 16:30 น.

วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 11:30 น.

วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน เวลา 12:30 น.

ธันวาคม:

วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม เวลา 20:30 น.

วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม เวลา 12:30 น.

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม เวลา 11:00 น.

สามารถติดตามชมตัวอย่างรายการได้ที่

http://cnn.it/2h9b6l6

เกี่ยวกับ ซีเอ็นเอ็น อินเตอร์เนชันแนล

รายงานข่าวและบริการข้อมูลข่าวสารของซีเอ็นเอ็นสามารถรับชมได้ทั้งสิ้น 7 ภาษา ทั้งทางโทรทัศน์ รวมถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลและสมาร์ทโฟน ครอบคลุมกว่า 450 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ซีเอ็นเอ็น อินเตอร์เนชันแนล คือช่องข่าวโทรทัศน์อันดับหนึ่งของโลก อ้างอิงจากผลสำรวจของสื่อรายใหญ่ต่าง ๆ ทั้งในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา เอเชียแปซิฟิค และละตินอเมริกา และมีบทบาทสำคัญในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึง CNNgo นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็น ดิจิทัล ยังเป็นเครือข่ายชั้นนำด้านข่าวออนไลน์ ข่าวทางสมาร์ทโฟน และสื่อสังคมออนไลน์ด้วย ซีเอ็นเอ็นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัลและยังคงมุ่งมั่นลงทุนเพื่อขยายพื้นที่การให้บริการด้านดิจิทัลระดับโลก ด้วยทรัพย์สินดิจิทัลที่ได้รับรางวัลมากมายและเครือข่ายพันธมิตรด้านคอนเทนต์ชั้นนำ ซึ่งดำเนินธุรกิจโดยอาศัยความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมผู้ชมผ่านการพิจารณาข้อมูลเชิงลึก ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซีเอ็นเอ็นได้คว้ารางวัลอันทรงเกียรติทั่วโลกมากมายในสาขาวารสารศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีซีรีส์รายการขนาดยาว สารคดี และรายการพิเศษรวมความยาวกว่า 1,000 ชั่วโมง ที่ผลิตขึ้นทุกปีโดย CNN Vision  ฝ่ายผลิตรายการที่ไม่ใช่ข่าว(non-news) ของซีเอ็นเอ็น อินเตอร์เนชันแนล ซีเอ็นเอ็นมีกองบรรณาธิการ 37 สำนักงาน และธุรกิจในเครือมากกว่า 1,100 แห่งทั่วโลกผ่าน CNN Newsource ซีเอ็นเอ็น อินเตอร์เนชันแนล เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Turner บริษัทในเครือไทม์วอร์เนอร์