สถานการณ์ของทีวีดิจิทัลบอกเลยว่าต้องจับตาดูกันชนิดไม่กะพริบตา เมื่อช่อง “โมโน” ที่กำลังทำ “เรตติ้ง” ขึ้นมาเป็นที่ 3 แซงหน้าช่อง “เวิร์คพอยท์” มาได้เป็นระยะแล้ว
เมื่อดูจาก เรตติ้งช่องประจำสัปดาห์ช่วงวันที่ 11-17 ธันวาคม 2560 นับเป็นสัปดาห์ที่สองของเดือนนี้ที่ ”โมโน” ยึดตำแหน่งเรตติ้งสูงเป็นที่ 3 ไว้ด้วยตัวเลข 0.806 ชนะเวิร์คพอยท์อย่างเฉียดฉิวที่มาติด ๆ ด้วยตัวเลข 0.802 แม้เป็นรองจากช่อง 3 ที่อยู่ในอันดับ 2 ด้วย ตัวเลข 1.265 โดยมีแชมป์อย่างช่อง 7 ทิ้งห่างไปด้วยตัวเลข 2.072 แต่โมโนได้สัมผัสที่ 3 ในที่สุด
นี่เป็นการสะสมผลงานที่โมโนทำได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะชั่วโมงทองไพรม์ไทม์ทุกวัน อย่างเช่นวันที่ 14 ธ.ค. ขณะที่ช่องอื่นกำลังสู้กันแย่งผู้ชมละครไทย แต่โมโนเลือกยิงภาพยนตร์ฝรั่งยาวกว่า 2 ชั่วโมง เรื่องเดียวที่เริ่มก่อน 2 ทุ่ม และคั่นเวลาด้วยข่าวพระราชสำนัก และออนแอร์ต่อจนจบ ทำให้ได้ประสิทธิผลในการดันเรตติ้ง
อย่างหนังพรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์ ภาพยนตร์ฝรั่งเรื่อง Escape Plan ที่เริ่มช่วงแรกเวลา 18.20-20.12 น. ได้เรตติ้งไป 2.706 พอช่วงสองเวลา 20.25-20.45 น.ได้ไป 3.972 หายใจรดต้นคอจี้ติดละครไทย เรื่อง วังนางโหง ของช่อง 7 ที่มีเรตติ้ง 4.110 และชนะหนุมาน สงครามมหาเทพของช่อง 8 ที่ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยเรตติ้ง 3.587 โดยมีเดอะแมสก์ซิงเกอร์ 3 ได้ที่ 4 ด้วยเรตติ้ง 3.320 ส่วนอันดับ 5 ของวันนั้นเป็นของช่องวัน เรื่องชายไม่จริงหญิงแท้ 2.565
หลังจาก 20.45 น.โมโนยังต้องการดึงเรตติ้งต่อด้วยหนังยาว ต่อจาก Escape Plan จึงจัด Blade II มาต่อจนถึง 23.01 น. ได้เรตติ้งไป 1.868
หากย้อนไปสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โมโนก็อยู่ในอันดับ 3 โดยมีการจัดความหลากหลายของหนังจากพรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์ ลงผังในแต่ละวันของสัปดาห์ อย่างเช่นวันที่ 6 ธ.ค. จัดเรื่อง Fearless จอมคนผงาดโลก (ภ.จีน) ที่ได้เรตติ้งในช่วง 2 เวลา 20.15-20.38 น. ไป 2.929 และใช้วิธีการตรึงผู้ชมต่อด้วยหนังพรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์เรื่องอื่น ๆ ที่อาจจะฮิตน้อยกว่า แต่ก็ได้เรตติ้ง
จบจากหนังจีนแล้ว จึงต่อด้วยเรื่อง Prince of Persia : The Sands of Time ช่วงเวลา 20.38 -22.55 น. ทำเรตติ้งได้ 2.092
ทำให้ใช่ช่วงหลัง 6 โมงเย็นจนเกือบเกือบ 5 ทุ่ม พยุงเรตติ้งไว้ได้เฉลี่ย 2 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยเรตติ้งช่องที่ไม่ถึง 1 ในแต่ละวัน
หากดูผังทั้งวันของช่องโมโน มีหนังจากทั้งบล็อกบัสเตอร์ และหนังดัง ๆ รวม 6 เรื่อง ตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึงตี 1 กว่า บางเรื่องรีรันบ้างในช่วงกลางวัน เรียกได้ว่าครึ่งหนึ่งของผังรายการ 24 ชั่วโมง หรือหากไม่นับ 6 ชั่วโมงหลังเที่ยงคืน เท่ากับว่า 2 ใน 3 ของเวลาออนแอร์ที่ทำเรตติ้ง และขายเวลาโฆษณาได้ คือหนัง นอกจากนี้ยังมีซีรี่ส์อีกในบางช่วง
การวางจุดยืนให้เป็นช่องหนัง ประกอบกับการอัดฉีดหนังดังลงจอต่อเนื่อง ทำให้เรตติ้งของโมโนทำท่าอาจจะแซงเวิร์คพอยท์ ที่มีรายการวาไรตี้โชว์เป็นหลักในเดือนธันวาคมนี้
นอกจากนี้ยังสะท้อนว่าตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่ “โมโน” มีเรตติ้งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และชนะช่อง 8 ในปี 2559 และปัจจุบัน เดินถูกทางที่ในกลุ่มผู้ชมมีความต้องการที่หลากหลาย และมีผู้ชมของช่องแน่นอน หากมีคอนเทนต์ที่ดีจริงมานำเสนอ
นั่นคือสิ่งที่แม้ว่าจะมีช่องอื่น ๆ เดินตามทั้งไทยรัฐทีวี ทรู4ยู ที่พยายามนำหนังมาเติมผังในบางเวลา แต่สำหรับโมโนแล้ว บอกได้ว่าไม่สะเทือน
ไทยรัฐทีวี เพิ่งร่วมมือกับค่ายกันตนาและเมเจอร์ปั้นรายการช่วง เอ็มเธียเตอร์ ออนแอร์ศุกร์ 4 ทุ่ม และวันอาทิตย์เที่ยง นำหนังจากทั้งฮอลลีวู้ด บอลลีวู้ด และไทยมาออนแอร์ ส่วนช่องทรู4ยู ก็มีหนังมูฟวี่เวิลด์ ทุกวัน ช่วง 9 โมงเช้า มีหนังไทยมูฟวี่ฮิต วันพุธ 3 ทุ่มครึ่ง และศุกร์–อาทิตย์ 3 ทุ่ม
***สัญญาลิขสิทธิ์หนังพรีเมี่ยมยาว 7-8 ปี
นวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด กล่าวว่า โมโนมีคลังหนังพรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์ที่ใหม่ที่สุด หลังออกจากโรงหนังไม่เกินปีครึ่ง ใครที่มาทีหลัง ก็ได้หนังที่โมโนเลือกไม่เอาแล้ว เรียกได้ว่าโมโนได้ของดีมาหมดแล้ว
“นี่คือบทพิสูจน์วิธีคิดที่ว่า เมื่อมีช่องทีวีมาก ก็ต้องทำ Positioning ให้แตกต่าง และมีจุดเด่น เพราะตลาดกว้างพอ จุดแข็งของโมโนคือเรานำหนังมาฉายอยู่แล้ว พอมีช่องก็ปักธง ตลาดนี้เราทำเซ็กเมนต์ใหม่ขึ้นมา คือกลุ่มที่ไม่ดูละคร ส่วนคนดูละครก็ไม่ได้ชอบดูทุกเรื่อง บางเรื่องไม่โดน ผู้ชมก็หาอย่างอื่นดูทันที”
สำหรับงบลงทุนคอนเทนต์ทั้งหมดปีหน้ายังคงไม่ต่างจากช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยปีละ 600-800 ล้านบาท โดยในผัง 65% เป็นหนัง ซีรี่ส์ 25% เป็นข่าวสารสาระ และ 10% เป็นวาไรตี้
เมื่อเรตติ้งดีขึ้นต่อเนื่อง โมโนจึงเตรียมขึ้นอัตราค่าโฆษณา ตามเรตการ์ดไพรม์ไทม์สูงสุดเฉลี่ยปัจจุบัน 1.2 แสนบาท จะเพิ่มเป็น 1.5 แสนบาท
ความมั่นใจของโมโนคือมีพันธมิตรสตูดิโอหนังเกือบทั้งหมด ในฝั่งฮอลลีวู้ด ทั้งวอร์เนอร์ บราเธอร์ส , วอลท์ ดิสนีย์ , ยูนิเวอร์แซล , พาราเม้าท์ , โซนี่ , ซีบีเอส , มิราแม็กซ์ สัญญาผูกขาดนาน 7-8 ปี
สำหรับระดับของหนัง แบ่งเป็น “พรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์” หนังฟอร์มใหญ่ ที่ได้รับความนิยมสูงจากฮอลลีวู้ด “ฮิต มูวี่ส์” หนังหลากหลายแนว และ “เมกะ มูวี่ส์” หนังภาคต่อ
ที่มีการผลิตออกมาหลายภาค รวมคลังหนังของโมโนมีอยู่กว่า 1,000 เรื่อง
นวมินทร์ กล่าวว่าในแต่ละสัปดาห์ที่จัดหนังลงผัง แต่ละเรื่องจะได้กลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ชมวัยทำงาน ผู้ใหญ่ และอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่า ดังนั้นการจัดผังโดยยิงหนังยาว จึงเริ่มหลัง 6 โมงเย็นที่คนต่างจังหวัดส่วนใหญ่กลับถึงบ้านแล้ว
อย่างเช่นเรื่อง พรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์ ภาพยนตร์ฝรั่ง เรื่อง Iron Man 3 ที่ออนแอร์วันที่ 5 ธ.ค.2560 เริ่มช่วงแรก เวลา 18.18-20.15 น. ได้เรตติ้ง 3.001 ช่วงสอง เวลา 20.20-21.03 น. ได้เรตติ้ง 3.682
หนังพรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์ ช่วงเย็นบางวันอาจเป็นหนังจีน หรือหนังฮอลลีวู้ด เมื่อจบแล้วอาจต่อด้วยพรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์ เช่นกัน หรือ พรีเมี่ยมซีรี่ส์ เช่นวันที่ 6 ธ.ค.โมโนเลือกเรื่อง Prince of Persia : The Sands of Time ออนแอร์เวลา 20.38-22.55 น. ต่อจากเรื่องหนังจีน เรื่อง Fearless จอมคนผงาดโลก
Prince of Persia : The Sands of Time ที่ชนกับเวลาละครช่องใหญ่โดยตรง แม้เรตติ้งไม่ชนะช่องใหญ่ แต่ก็ยังเก็บกลุ่มผู้ชมหลักไว้ได้ โดยเฉลี่ยเกิน 2 เรื่องนี้ได้เรตติ้ง 2.092 ในต่างจังหวัด 2.157 กทม. 1.715 กลุ่มผู้ชมชาย 2.583 หญิง 1.624 ได้เรตติ้ง 2 ขึ้นไป จากกลุ่มอายุมากกว่า 30 ปี
ผลงานของช่องโมโน ซึ่งใช้หนังเป็นอาวุธปูพรมในผังถึง 12 ชั่วโมง ทำให้เรตติ้งของช่องโมโนในปี 2558 อยู่ที่ 0.301 อยู่ในอันดับ 4 แต่ปี 2559 และ 10 เดือนแรกของปี 2560 ขยับมาที่ 0.536 และ 0.688 แซงช่อง 8 มาเป็นที่ 4 เป็นที่เรียบร้อย และในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาโมโนได้เรตติ้งเฉลี่ยทั้งเดือน 0.739 ตามเบียดช่องเวิร์คพอยท์ที่ได้ที่ 3 ด้วยเรตติ้ง 0.784
การแข่งขันของธุรกิจทีวีดิจทัลมีหลายโมเดลที่ทำให้แต่ละช่องสำเร็จได้ในแง่ของเรตติ้งและรายได้ สำหรับโมโนแล้ว รู้ตัวว่าจุดแข็งที่มีของตัวเองคืออะไร เริ่ม และทำต่อเนื่องจริง ผู้ชมก็พร้อมเป็นแฟนของช่องได้ทันที.