“โค้ก” ส่งชามะนาว “Fuze Tea”  1 ใน 20 แบรนด์ยอดขายสูงสุด บุกตลาดไทย วางขายเฉพาะร้านเบอร์เกอร์คิง

ต้องถือเป็นช่วงที่ “โคคา-โคล่า” เปิดตัวสินค้าใหม่แบบถี่ยิบ เพราะหลังจากเปิดตัว น้ำมะพราว 100% ‘ซิโค่” (Zico) ได้แค่วันเดียว  ก็นำชามะนาว “FUZE Tea” (ฟิวซ์ที) ลงตลาดประเทศไทยต่อทันที แถมยังมาแนวเอ็กซ์คลูซีฟขายเฉพาะในร้านเท่านั้น

แต่ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาในรูปแบบพร้อมดื่มเพื่อเจาะร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าทั่วไป แต่เลือกที่นำเสนอสินค้าในรูปแบบตู้กด ด้วยการผนึกกับโกลบอลแบรนด์ด้วยกันอย่าง “ร้านเบอร์เกอร์คิง” ร้านอาหารบริการด่วน (QSR) เพื่อขายแบบ เอ็กซ์คลูซีฟ”

การส่งสินค้าใหม่ ชามะนาว เพราะโค้กต้องการ ขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้า ที่ไม่ใช่เครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำดำ และน้ำสี เพื่อเจาะฐานลูกค้าใหม่ ๆให้กว้างขวางยิ่งขึ้น จากเดิมคนดื่มน้ำอัดลมส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น กลยุทธ์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับประธานบริษัทโคคา-โคล่า ที่ต้องการเป็น beverages for life มีเครื่องดื่มหลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม

“ทิศทางของซีอีโอโค้ก มีแนวคิดในการพยายามให้พอร์ตโฟลิโอสินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกช่วงอายุ หรือ beverages for life โดยที่น้ำอัดลมซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทก็ยังต้องโฟกัสอยู่เหมือนเดิม แต่ทำยังไง เราจะขยายตลาดได้ด้วย” นันทิวัต ธรรมหทัย ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคคาโคลา (ประเทศไทย) จำกัด บอก

ฟิวซ์ที 1 ใน  20 แบรนด์ของโค้กทำยอดขายสูงสุด

  • เป็น 1 ใน 20 แบรนด์ของโคคา โคล่า ที่มียอดขายสูงสุดทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 36,000 ล้านบาท
  • ในตลาดโลกแบรนด์ฟิวซ์ ไม่ได้มีแค่ชามะนาว แต่มีฟิวซ์ ฟิวชั่น รสชาติหลากหลาย เช่น รสแตงโม เบอร์รี่พันซ์
  • ในตลาดโลกเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น
  • ในอาเซียนวางขายในประเทศเวียดนามก่อน

ส่วนการเลือกส่งชามะนาวมาชิมลางตลาด เพราะถือเป็น รสชาติยอดนิยม ในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากให้ความสดชื่น เหมาะกับประเทศในเขตร้อนอย่างไทย ส่วนการขายผ่านร้าน QSR เพราะร้านอาหารคือสถานที่ให้ผู้บริโภค “ทดลองได้ง่าย” เพิ่มช้อยส์หรือทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายของเบอร์เกอร์คิง เดิมเป็นชาวต่างชาติ 60% ย่อมรู้จักสินค้าของโคคา-โคล่าอย่างดีในระดับหนึ่ง จึงกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้

การขยายฟิวซ์ที ครั้งนี้ ยังชน กับเจ้าตลาดชาดำ “ลิปตัน ไอซ์ที” ของค่ายเป๊ปซี่ รวมถึง “เนสที” ของ เนสท์เล่” อีกด้วย

ลิปตันไอซ์ที เป็นแบรนด์ที่เป๊ปซี่เพิ่งดึงกลับมาทำตลาดเองเมื่อปี 2559 จากเดิมยูนิลีเวอร์จัดจำหน่ายให้

  • ลิปตัน ไอซ์ที 1 ใน 22 แบรนด์หัวหอกของเป๊ปซี่ มีมูลค่าแบรนด์ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 36,000 ล้านบาท  
  • ทำตลาดกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และเป็นเบอร์ 1 ใน 24 ประเทศ
  • การทำตลาดเล่นใหญ่สไตล์โกลบอล ดึง “ใหม่ ดาวิกา” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
  • ชูกลยุทธ์เป็น “เพื่อนซี้” ของอร่อย หรืออาหารนั่นเอง เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคมีโอกาสที่จะดื่มสินค้าคู่กับอาหารสูงมาก
  • รุกขายผ่านร้านอาหารอย่างหนัก เพราะเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 80%

ส่วนเนสที เน้นทำตลาดแบบตู้กกด ผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ตลอดจนร้านอาหารต่าง ๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของเอซีนีลเส็น ระบุว่า ตลาดชาดำพร้อมดื่มมีขนาดเชิงปริมาณ 71.5 ล้านลิตร เติบโต 2.4%

เบอร์เกอร์คิงเพิ่มเมนูเครื่องดื่มเอ็กซ์คลูซีฟ

ขณะที่เบอร์เกอร์คิง แน่นอนว่าเมนูพระเอก คือเบอร์เกอร์ ส่วนเครื่องดื่มคือพระรองที่จะต้องให้ความสำคัญในการทำตลาดควบคู่กันไป เพราะในการขายสินค้าส่วนใหญ่จะมาเป็นเซต เสิร์ฟอาหารย่อมไปคู่กับเครื่องดื่มเสมอ

แต่ร้าน QSR ส่วนใหญ่จะมีแค่น้ำอัดลม โดยเฉพาะน้ำดำ การได้ฟิวซ์ทีมาขายในร้านเพิ่มความวาไรตี้ของเมนูเครื่องดื่ม เป็นทางเลือกใหม่ ๆ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ต้องการดื่มแค่น้ำอัดลม กาแฟ มัทฉะเท่านั้น เป็นการช่วย “ขยายฐานลูกค้า” ได้มากขึ้นอีกด้วย

 “ภาพรวมตลาดเบอร์เกอร์ในช่วงปีที่ผ่านมาถือว่ามีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เบอร์เกอร์คิงจึงเปิดตัวเมนูเครื่องดื่มใหม่ครั้งแรกในประเทศไทยคือแบรนด์ฟิวซ์ที ที่โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) เลือกเสิร์ฟที่ร้านเป็นแห่งแรก” ธนกฤต กิตติพนาชนม์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าจับตาต่อไป นอกจากชิมลางขายฟิวซ์ทีผ่านตู้กดในร้านอาหาร QSR แล้ว จะต้องดูว่าโคคา-โคล่า จะนำไปขยายผ่านร้านอาหารอื่น ๆ ตลอดจนร้านสะดวกซื้อหรือไม่ รวมถึงการจับมาลงขวด PET ทำตลาดพร้อมดื่มในประเทศไทยเมื่อไหร่ เพราะประเทศอื่นเข้าไปลุยตลาดชาพร้อมดื่ม (RTD) เป็นหลัก.