เปิดใจ 4 คนดังโคราช กับการมาถึงของ AIS CONTACT CENTER


“ทรัพยากรบุคคล” ที่ถือเป็นอีกหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า โดยเฉพาะในยุค Digital Disruption นี้ “งานบริการ” นับเป็นสายงานที่ทุกอุตสาหกรรมมีความต้องการเป็นอย่างยิ่ง การสร้าง AIS Contact Center Development & Training Arena ขึ้นที่โคราชในครั้งนี้ถือเป็นย่างก้าวสำคัญที่น่าจับตาของเอไอเอส ที่นอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพการบริการของเอไอเอสเองแล้ว ในมุมมองของคนสำคัญในพื้นที่นั้น ยังมองเห็นความเป็นไปได้อีกมากมาย


เสริมแกร่งคนโคราช ดันเศรษฐกิจรุ่ง

คุณวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พูดถึงย่างก้าวสำคัญของเอไอเอสในโคราช ครั้งนี้ว่า “การมาถึงของภาคเอกชน อย่างเอไอเอส และผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในช่วงเวลาที่กำลังเกิดการลงทุนครั้งใหญ่จากภาครัฐ ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม  อย่างมอเตอร์เวย์ หรือ รถไฟรางคู่ ถือว่าช่วยผลักดันให้โคราชแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนา “ทุนมนุษย์” ซึ่งสำคัญมากและเป็นหัวใจหลักสร้างความแข็งแกร่งให้จังหวัดเรา ในฐานะพื้นที่ซึ่งมี GDP ถึง 2.65 แสนล้านบาท ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน”

“การพัฒนาทุนมนุษย์ด้านงานบริการดิจิทัล ถือว่าตอบโจทย์การขยายตัวของโคราชอย่างมาก เพราะเทคโนโลยีสื่อสารเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่อยู่ในวิถีชีวิตของประชาชน และอุตสาหกรรมทุกๆ sector ต้องขอบคุณที่เอไอเอสเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ เพราะนี่คือเป้าหมายเช่นเดียวกับภาครัฐ ถือได้ว่าเป็นการผนึกกำลัง ร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไม่เพียงที่โคราช แต่ครอบคลุมไปยังพื้นที่ใกล้เคียงในเขตภาคอีสานด้วย


รองรับเด็กจบใหม่ ไม่ต้องเข้าเมืองหลวง

คุณสุรวุฒิ เชิดชัย พูดถึงประเด็นการสร้างโอกาสทางอาชีพ ว่า “นครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียงนั้นแวดล้อมไปด้วยมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา ที่นับเป็นจุดตั้งต้นในการพัฒนาประเทศ เมื่อ AIS Contact Center มาเปิดศูนย์ใหญ่อยู่ที่โคราช พร้อมด้วยตำแหน่งงานมากมาย ก็จะเท่ากับมารองรับและช่วยสร้างงานพร้อมช่วยพัฒนาขีดความสามารถ องค์ความรู้ของทรัพยากรบุคคล  ซึ่งผมมองว่าประโยชน์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้  ไม่ใช่แค่เพื่อธุรกิจเอไอเอสเท่านั้น แต่เพื่ออนาคตทางอาชีพที่สดใสของเยาวชนในพื้นที่โคราชและภาคอีสาน ที่จะได้ทำงานที่มั่นคงเช่นเดียวกับในกรุงเทพ โดยไม่จำเป็นต้องห่างจากครอบครัว”


ยกระดับโคราชสู่ Silicon Valley เมืองไทย

อาจจะฟังดูเป็นเรื่องใกลตัวในตอนนี้ แต่ คุณวรวิสุทธิ์  ภิญโญยาง ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ชิฟ เวนเจอร์ จำกัด มองว่าพื้นที่เมืองโคราชนั้นเป็นโลเคชั่นที่เหมาะสมสำหรับการตั้งเมืองแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างในโมเดล Silicon Valley ได้เลย

“เมืองโคราชนั้นเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมไฮเทคขนาดใหญ่ มีโครงสร้างพื้นฐานและ ecosystem ที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตไปสู่เมืองในโมเดลแบบซิลิคอน วัลเลย์ ได้ไม่ยาก ถ้าหากได้รับความร่วมมือจากองค์กรและผู้นำที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน”


“สำหรับนักเรียนนักศึกษาในยุค Digital Disruption นี้ นอกจากภาษาอังกฤษ จีน ฯลฯ ภาษาที่สามที่สี่ที่เราต้องเรียนรู้เพิ่มเติมสำหรับพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ทันกับโลกยุคใหม่แล้ว ภาษาดิจิทัล ก็มีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะมายกระดับการแข่งขันของประเทศไทยให้ทัดเทียมในระดับโลก ส่วนสำคัญของ AIS ก็คือการพัฒนาคุณภาพของบริการให้คนไทยได้ผสานการใช้ชีวิตเข้ากับโลกดิจิทัลผ่านทางการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ที่ตัวเลขของเวลาในการท่องโลกออนไลน์ของคนไทยนั้นพุ่งสูงสู่แถวหน้าของโลก หากเราดึงให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เหล่านี้ตื่นตัวและเห็นความสำคัญในการสร้างนวัตกรรม พวกเขาก็จะเป็นบุคลากรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่ง”


กระตุ้นธุรกิจ SME ด้วยดิจิทัล

คุณมารุต ชุ่มขุนทด ผู้ก่อตั้ง Class Café สะท้อนมุมมองในฐานะผู้ประกอบการว่า “เราในฐานะคนรุ่นใหม่มองเห็นความได้เปรียบของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยให้การทำธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ตรงใจเค้ามากขึ้น”


“จากที่สังเกต Lifestyle ของกลุ่มลูกค้าที่มาใช้งานในร้าน Class Café เริ่มมีกลุ่มสตาร์ตอัพ ฟรีแลนซ์ มาทำงานกันที่ร้านกาแฟเยอะขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง เราก็ต้องพัฒนาโครงสร้างบรอดแบนด์ที่จะมาอำนวยความสะดวกให้พวกเค้าเกิดประสบการณ์ที่ดีเวลาอยู่ที่ร้าน เพื่อให้กลับมาใช้บริการที่ร้านอีก”


“การเปิดศูนย์ AIS Contact Center ที่โคราช ผมว่ามีส่วนสำคัญที่จะมาถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับงานด้านบริการดิจิทัลให้แก่คนในพื้นที่โดยตรง ส่วนทางอ้อม คือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นโมบายดาต้า อินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ และอื่นๆเข้ามาส่งเสริม SME มีเครื่องไม้เครื่องมือ ตลอดจนทำให้โคราชก้าวสู่ Smart City อีกทั้งยังจุดประกายให้คนรุ่นใหม่ที่กำลังเรียนอยู่ในโคราช หรือ ภาคอีสาน รวมไปถึงที่กำลังเรียนที่กรุงเทพฯ ตัดสินใจกลับมาทำงานที่มั่นคงในพื้นที่ภูมิลำเนา พร้อมจะนำองค์ความรู้มาพัฒนาบ้านเกิดเพิ่มมากขึ้นด้วย