นางสาวพิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทบันลือกรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบันขายหัวเราะเติบโตหลากหลายช่องทาง เพื่อเข้าถึงแฟนการ์ตูน ทั้งกลุ่มเดิม และกลุ่มใหม่ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ และความชื่นชอบเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ นอกจากโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ค ไลน์ official account สติกเกอร์ไลน์ ซึ่งทุกอันเติบโตแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ และในปีนี้ขายหัวเราะยังเดินหน้าต่อเนื่องด้วยการเปิดเว็บไซต์ใหม่www.kaihuaror.com ซึ่งแตกต่างจากเว็บไซต์บริษัทที่มีอยู่เดิม เนื่องจากต้องการให้แพลตฟอร์มแห่งนี้ เป็นcommunity ของผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนแก๊กและอารมณ์ขันที่หลากหลายในแบบฉบับของขายหัวเราะ โดยในเฟสแรกนี้ แฟนๆ สามารถสั่งซื้อหนังสือได้จากทางเว็บไซต์ส่งให้ถึงบ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง หรือใครที่ต้องการรับการ์ตูนขายหัวเราะเป็นประจำ ก็มีระบบสมาชิกที่ทั้งสะดวกและคุ้มค่า ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของแฟนการ์ตูน
นอกจากนี้ แฟนการ์ตูนกลุ่มที่มีความคิดสร้างสรรค์ ยังสามารถประลองไอเดียความฮา ในฐานะ content creator ได้อีก ด้วยการส่งไอเดียแก๊ก ขำขัน และต้นฉบับต่างๆ ผ่านช่องทางเว็บไซต์แบบสะดวกง่ายดาย เนื่องจากมีการรีดีไซน์ user interface ให้ง่าย และสะดวกบนทุกอุปกรณ์
กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทบันลือกรุ๊ป กล่าวอีกว่า ไฮไลท์ของขายหัวเราะในปีนี้ คือการเปิด Happlication ’Kai Hua Ror’ (Happy + Application) ใหม่ของขายหัวเราะ ที่มาพร้อมจุดเด่น ‘1000 แก๊กในแอพเดียว’ ที่ให้ผู้ใช้แฮปปี้ไม่ยั้งกับแก๊กฮาสุดพลังและ content อารมณ์ดี ไม่มีใครเหมือนจากขายหัวเราะฟรี! โดยจะอัพเดทแก๊กใหม่ตลอด สามารถเลือกอ่านแก๊กตามหมวดที่ตัวเองสนใจได้ เช่น แก๊กจากนักเขียนคนโปรด แก๊กหมวดต่างๆ เช่น แก๊กคลาสสิค แก๊กติดเกาะ แก๊กโจรมุมตึก แก๊กตามเทศกาลต่างๆ สามารถมาร์คแก๊กโปรดไว้เป็น favourite หรือแชร์ความสนุกให้โลกได้ร่วมฮา และยังมี notification แก๊กสุดพิเศษ และฟังก์ชั่นสนุกๆ อีกมากมายที่จะตามมาในอนาคตด้วย เรียกได้ว่าทั้งสนุกและสะดวก ฮากันได้ไร้พรมแดนทุกเวลา”
นางสาวพิมพ์พิชากล่าวต่อไปว่า ถึงแม้เราจะเดินหน้าเข้าสู่โลกออนไลน์ แต่ขายหัวเราะแบบฉบับก็มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาคุณภาพของ content อยู่ตลอดเวลา โดยล่าสุดในปีที่ผ่านมามีการปรับรูปแบบให้ขายหัวเราะร่วมสมัยมากขึ้น เช่น นอกจากเอกลักษณ์ด้านความฮาคลาสสิคที่ทุกคนคุ้นเคยแล้ว ยังได้เพิ่มจุดเด่นโดยเพิ่ม ‘ธีม’ (theme) ให้กับแต่ละฉบับ เพื่อให้หนังสือมีความเป็น ‘Collectable’ น่าเก็บสะสม
“เรามองว่าผู้อ่านยังให้คุณค่ากับ content ที่เล่าเรื่องที่เขาสนใจหรือหาอ่านได้ยากจากที่อื่น และการ์ตูนขายหัวเราะ เองก็เปรียบเสมือนหลักไมล์ที่บันทึกเรื่องราว วัฒนธรรมต่างๆ ที่ผู้คนสนใจ ซึ่งการเพิ่มลูกเล่นธีมเข้าไปเสริมแก๊ก การ์ตูนปกติ นอกจากเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับผู้อ่านกลุ่มเดิม ยังดึงดูดผู้อ่านกลุ่มใหม่ๆ ที่สนใจธีมนั้นๆ มาอ่านการ์ตูนขายหัวเราะเพิ่มด้วย เช่น ธีมเรื่องความรักในฉบับกุมภาพันธ์ ธีมปีใหม่ ธีมแม่ ธีมท่องเที่ยว หรือธีม ‘ก้าว’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพี่ตูน บอดี้สแลม ซึ่งทีมขายหัวเราะได้ร่วมทำสติกเกอร์ไลน์ชุด ‘ก้าวคนละก้าว’ ซึ่งธีมของฉบับนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ขายหัวเราะภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสื่อสารกับทุกคนผ่านการ์ตูนสนุกๆ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของเรา”
นางสาวพิมพ์พิชากล่าวต่ออีกว่า บันลือกรุ๊ปยังเติบโตไปในเส้นทางใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ license ตัวคาแรกเตอร์การ์ตูนของบันลือกรุ๊ป ความร่วมมือของตัวคาแรกเตอร์กับแบรนด์ต่างๆ รวมถึงการจัด Event ด้วย โดยในปีที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ หลากหลาย เช่น TCDC งานวิ่ง RUN HERO RUN รวมถึงการทำ school program ให้กับโรงเรียนต่างๆ และจัดการแสดงและกิจกรรมในสถานที่สาธารณะหรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ ด้วย ซึ่งในอนาคตก็น่าจะได้เห็น event รูปแบบใหม่จากทีมขายหัวเราะให้ทุกคนได้สนุกสนานร่วมกัน พร้อมเปิดรับความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ที่อยากร่วมส่งมอบความสุขให้แก่ผู้คนเหมือนกันเราในรูปแบบต่างๆ ด้วย
“เป้าหมายในทุกช่องของเราคือการ ‘กระจายความสุข ขยายเสียงหัวเราะ’ ไปทุกที่ที่กลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ แต่เราก็เข้าใจว่าธรรมชาติของสื่อและแพลตฟอร์มแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกัน มีจุดเด่นจุดด้อยไม่เหมือนกันcontent จึงน่าจะมีความแตกต่างกันไม่มากก็น้อย ซึ่งตอนนี้ทีมออนไลน์และ Humour Creative ของเราก็แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ เราดีใจและภาคภูมิใจที่ได้เป็นการ์ตูนไทยที่เติบโตเคียงข้าง สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนมาโดยตลอด และเราจะยังคงตั้งใจสร้างความสุขผ่านการ์ตูน คาแรกเตอร์ และอารมณ์ขันของเราต่อไป แต่ทุกคนจะได้เห็นเราในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายช่องทางมากขึ้นตามความตั้งใจของเราที่จะเป็น ‘ความฮาสามัญประจำบ้าน’ คู่สังคมไทย ผ่านศาสตร์และศิลป์ของการ์ตูนและอารมณ์ขัน รวมถึงความร่วมมือใหม่ๆ ในอนาคต ที่จะเกิดขึ้นกับพาร์ทเนอร์ของเรา หวังว่าทุกคนจะเป็นกำลังใจและให้โอกาสขายหัวเราะได้เติบโต ต่อยอด ขยายพรมแดนความฮาของเราต่อไป” พิมพ์พิชา อุตสาหจิตกล่าวทิ้งท้าย