JMART บิตคอยน์

โดย : สุนันท์ ศรีจันทรา

เป็นข่าวฮือฮาทั้งตลาดหุ้น หลังจาก บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น JMART ประกาศว่า บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ JMART ถือหุ้นอยู่ 80% เตรียมระดมทุนด้วยดิจิทัล โทเคนชื่อ “เจฟิน คอยน์” ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (initial coin offering) หรือ ไอซีโอ

“เจฟิน คอยน์” มีเป้าหมายเสนอขายทั้งสิ้น 300 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่จะทำ ไอซีโอ 100 ล้านเหรียญ เสนอขายเหรียญละ 20 เซนต์ คาดว่าจะระดมทุนได้ 20 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 660 ล้านบาท ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้พัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิทัล

เอกสารแสดงข้อมูลการระดมทุน จะนำเผยแพร่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้สนใจลงทุน และมีแผนเสนอขายรอบพรีเซลระหว่างวันที่ 14-28 กุมภาพันธ์

JMART เป็นบริษัทจดทะเบียนรายแรกที่ประกาศระดมทุนด้วย ดิจิทัล โทเทน แต่ข้อมูลที่เปิดเผยสู่สาธารณชนในเบื้องต้น ไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะทำให้เกิดความเข้าใจถึงการระดมทุนรูปแบบใหม่

ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน เพราะไม่รู้ว่า “เจฟิน คอยน์” รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร และผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนอย่างไร

แม้แต่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้เกี่ยวกับ “เจฟิน คอยน์” ไม่อาจชี้ชัดว่า เป็นไอซีโอที่เป็นหลักทรัพย์หรือไม่ เพียงแต่เรียกร้องให้นักลงทุน ใช้วิจารณญาณ ศึกษารายละเอียดให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน ก่อนเข้าลงทุน

ขณะนี้ไม่มีใครตอบได้ว่า “เจฟิน คอยน์” เป็นหลักทรัพย์ประเภทไหน เสนอขายได้หรือไม่ เพียงแต่ ก.ล.ต.ตำหนิ JMART โดยทางอ้อม ระบุว่า การที่บริษัทจดทะเบียนเผยแพร่ข่าวซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอ ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจมีผลต่อราคาและการซื้อขายหุ้นของบริษัท

การออกหลักทรัพย์เสนอขายประชาชน ต้องยื่นขออนุญาตจาก ก.ล.ต. แต่การออก “เจฟิน คอยน์” ของบริษัทลูก JMART น่าจะยังไม่ได้ยื่นขออนุมัติจาก ก.ล.ต. อย่างเป็นทางการ และตอบไม่ได้ว่า จะต้องยื่นขออนุญาตหรือไม่

เพราะไม่รู้ว่า “เจฟิน คอยน์” จะเป็นตราสารการลงทุนประเภทใด

ไม่เข้าใจว่า เหตุใด JMART จึงใจร้อน รีบเร่งประกาศระดมทุนในรูปแบบ ดิจิทัล โทเคน ทั้งที่รายละเอียดยังไม่ครบถ้วน ทำไมไม่รอให้จัดทำข้อมูลอย่างสมบูรณ์ จึงประกาศให้สาธารณชนรับรู้ เพื่อป้องกันความสับสน

อย่างไรก็ตาม JMART ได้เปิดโลกใหม่ในการระดมทุน ด้วยสกุลเงินดิจิทัลแล้ว และบริษัทจดทะเบียนอื่นคงกำลังจับตาดู

เพราะถ้า JMART เปิดตลาดขายตราสารดิจิทัลได้สำเร็จ บริษัทจดทะเบียนอื่น คงแห่ระดมทุนในสกุลเงินดิจิทัลตามมาอีกมากมาย

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงเป็นใย คือ นักลงทุนที่จะลงทุนใน “เจฟิน คอยน์” หรือตราสารดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ที่จะออกตามมา เพราะอาจเกิดความเสียหายได้

เพราะถ้าไม่มีความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอ ตามไม่ทันตามเงินสกุลดิจิทัล แต่ตามแห่เข้าไปเก็งกำไร พลาดพลั้งจะเจ็บหนัก 

JMART ปักธงแล้ว ประกาศตัวเป็นบริษัทจดทะเบียนเจ้าแรก ที่ชวนนักลงทุนลงไปลุยกับเงินสกุลดิจิทัล

ต้องรอดูกันต่อไปว่า “เจฟิน คอยน์” ของกลุ่ม JMART กระแสตอบรับเป็นอย่างไร จะทำให้นักลงทุนคลั่ง เก็งกำไรอย่างไม่กลัวเป็นกลัวตายเหมือน “บิตคอยน์” หรือไม่.

ที่มา : mgronline.com/stockmarket/detail/9610000005270