K PLUS จับ “Lifestyle Platform” พุ่งสู่ความ “แมส”


ปรากฎการณ์ของ Hashtag #แกแมสแล้วว่ะ บนโลกโซเชียล ทำให้ทุกคนต้องจับตากับความแรงของแอปฯ มหาชน K PLUS ที่ใครๆ ก็ใช้กันถ้วนหน้า เพราะความง่ายของการใช้งาน มีฟังก์ชั่นที่โดนใจทั้งคนทั่วไป เจ้าของร้านค้า แม่ค้าออนไลน์ และอื่นๆ อีกมากมาย และถ้าใครยังไม่รู้ว่า #แกแมสแล้วว่ะ คืออะไร ต้องไปดูนี่ก่อนเลย



พัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า จากนี้จะไม่โฟกัสที่ยอดคนใช้งานแอป K PLUS ที่ตอนนี้มีอยู่ 7.5 ล้านราย แต่แอปนี้มีคนใช้เยอะแค่ไหน ขอให้ดูที่จำนวนการทำธุรกรรมผ่าน K PLUS ที่สูงกว่า 3 พันล้านรายการต่อปี! และในปี 2018 นี้ คาดว่าจะโตถึง 6 พันล้านรายการต่อปี แสดงให้เห็นถึงเทรนด์พฤติกรรมของผู้คนที่มีต่อธนาคารในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อเทียบกับตัวเลขที่คนเดินทางเข้าไปทำธุรกรรมที่สาขานั้นมีเพียง 180 ล้านรายการต่อปี

K PLUS #แกแมสแล้วว่ะ

  • เป็นแอปฯ ที่คนไทยใช้งานเป็นอันดับที่ 5 รองจากไลน์, เฟซบุ๊ก, เฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ และอินสตาแกรม
  • มีคนใช้แอป K PLUS แล้ว 7.5 ล้านราย และ 80% ใช้งานเป็นประจำ
  • มีการใช้งาน K PLUS 3,000 ล้านรายต่อปี
  • มีมูลค่าธุรกรรม K PLUS 6.3 ล้านล้านบาทต่อปี

K PLUS #พลัสได้พลัสดี


เป้าหมายของ K PLUS คือ การสร้างประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ โดยได้พัฒนา K PLUS ให้เป็น “ไลฟ์สไตล์ แพลทฟอร์ม” (Lifestyle Platform) ที่ใครๆ ก็ใช้ เราจึงได้เห็น K PLUS ทยอยออกฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งลูกค้าทั่วไป และรุกคืบเข้าไปเจาะกลุ่มร้านค้าราย เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็ก โดยได้เชื่อมโยงบริการของแอป K PLUS SHOP ที่มีฐานร้านค้ากว่า 800,000 ร้านค้า เพื่อต่อยอดการเป็น “ไลฟ์สไตล์ แพลทฟอร์ม” ของ K PLUS ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น


จุดแข็งคือ การเอาดิจิทัล เทคโนโลยี มาใช้พัฒนา K PLUS อย่างต่อเนื่อง คนใช้งานจึงได้ใช้ฟังก์ชันอย่างที่เคยคิดอยากให้มีบน K PLUS เพราะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การใช้ Quick Pay จ่าย QR Code โดยไม่ต้อง Log-in การซื้อ-ขายกองทุนรวม การซื้อประกันเดินทางระหว่างประเทศ หรือแม้แต่การสมัครบัตรเดบิตผ่านแอปได้เลย โดยไม่ต้องไปสาขา นอกจากนี้ ยังมีการนำข้อมูลการใช้งานของลูกค้า (Big Data)


มาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับ K PLUS เช่น การประมวลผลข้อมูลของลูกค้า เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงของการให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและธุรกิจ ทั้งหมดนี้ ยิ่งทำให้ K PLUS พุ่งไปสู่ความ “แมส” ที่มีผู้คนใช้งานมากมาย


แค่ไตรมาสแรกของปีนี้ K PLUS ก็เปิดแนวรุกปล่อยหมัดเด็ดระรัวด้วย 4 ฟังก์ชัน รองรับการใช้งานทั้งลูกค้ารายย่อยและเจ้าของร้านค้า ได้แก่

  • Quick Pay QR Code ฟังก์ชันจ่ายด้วย QR Code ที่เร็วกว่าที่เคย โดยไม่จำเป็นต้อง Log-in เข้าระบบ และสามารถกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการจ่ายเงินต่อวันได้
  • ช้อปสินค้าออนไลน์ ขาช้อปได้ว้าวกับบริการใหม่นี้แน่นอน กับสินค้าเกษตร แนวลิมิเต็ด เอดิชัน ที่มีขายเฉพาะบน K PLUS ให้เลือกช้อปมากมาย ซึ่งกำลังจะเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้
  • ฟังก์ชันขายและเรียกเก็บเงินผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Payment)  ฟังก์ชันดีงามสำหรับนักช้อปออนไลน์ เพราะไม่ต้องจำเลขที่บัญชี จำนวนเงินที่ซื้อ ของแม่ค้าออนไลน์ให้ปวดหัว แต่สามารถจ่ายเงินผ่าน K PLUS ได้ง่ายๆ ทันที เมื่อได้รับบิล QR Code จากร้านค้า ซึ่งแม่ค้าออนไลน์ ถ้าอยากใช้บริการนี้ให้ซื้อง่ายขายคล่องสุดๆ ก็แค่สมัครแอป K PLUS SHOP เพื่อใช้ฟังก์ชัน “สร้างบิล” ก็สามารถสร้างบิลในรูปแบบ QR Code เพื่อส่งให้คนซื้อจ่ายเงินได้ผ่านทุกช่องทางโซเชียล ทั้ง LINE, Facebook, Facebook Messenger, WhatAPP, Instagram
  • บริการสินเชื่อบุคคลบน K PLUS สำหรับคนมีเครดิตดีที่ได้รับการเสนอสินเชื่อจากธนาคารผ่านเมนู Life PLUS บนแอป K PLUS สามารถกดใช้บริการขอสินเชื่อบุคคล แล้วเงินจะโอนเข้าบัญชีทันที