พิษสมาร์ทโฟนอิ่มตัว ห้างเบสต์บาย ค้าปลีกรายใหญ่ของอเมริกา ต้องปิดร้านเอาท์เล็ตขายสมาร์ทโฟน 250 แห่งทั่วสหรัฐฯ

ภาพจากเอเอฟพี

ไม่เฉพาะธนาคารเสียแล้วที่มีการปิดตัว เพราะห้างเบสต์บาย (Best Buy) หนึ่งในค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาได้อาศัยฤกษ์ดีวันที่ 1 มีนาคม ออกมาประกาศปิดตัวร้านค้าสมาร์ทโฟนขนาดเล็ก 250 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกาแล้วเช่นกัน โดยมีกำหนดปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้

สำหรับสาเหตุของการปิดตัวนั้น เบสต์บายระบุว่า ปัจจุบันรายได้จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟนนั้นหลัก ๆ มาจากออนไลน์และสโตร์ขนาดใหญ่ ขณะที่ร้านเอาท์เล็ตเหล่านี้สามารถทำรายได้ให้กับเบสต์บายได้เพียง 1 เปอร์เซ็นต์กว่า ๆ ของรายได้ทั้งหมดที่บริษัทได้รับ จึงมีมติว่า ไม่คุ้มค่าที่จะเปิดต่อไป 

โดยโมบายล์เอาท์เล็ตที่เบสต์บายเปิดขึ้นมานั้นเป็นร้านจำหน่ายสมาร์ทโฟนขนาดเล็ก มีพื้นที่ 1,400 ตารางฟุต ซึ่งเล็กกว่าขนาดของห้างเบสต์บายโดยทั่วไปที่จะมีพื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่มีอายุค่อนข้างเยอะ (ประมาณ 10 ปี) อีกทั้งโมบายล์เอาท์เล็ตดังกล่าวต้องแข่งกับสโตร์จากแบรนด์ที่ได้รับการออกแบบอย่างหรูหราและมีพื้นที่กว้างขวางที่สามารถสร้างประสบการณ์และความประทับใจให้กับลูกค้าได้มากกว่า รวมถึงยังมีร้านค้าของบรรดาผู้ให้บริการโทรคมนาคมในสหรัฐอเมริกาเอง และร้านค้าออนไลน์อย่าง แอมะซอน (Amazon) ด้วย

การปิดตัวครั้งนี้จึงทำให้เบสต์บายเหลือเฉพาะสโตร์ขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับตัวเองอีกทางหนึ่งในวันที่การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกเจอคู่แข่งจากหลากหลายช่องทาง และตลาดสมาร์ทโฟนก็เริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว ไม่ใช่ช่วงที่มาร์จินสูงเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนอีกต่อไป

ทั้งนี้ การปิดตัวจะเกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น สาขาในแคนาดาที่มีอยู่ 52 แห่งจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

ภายใน 3 เดือนนับจากนี้ เบสต์บายจะมีการโอนย้ายพนักงานไปทำงานในส่วนอื่น ๆ ของบริษัทแทนตำแหน่งเดิมที่ต้องว่างลง แต่ไม่มีการออกมาเปิดเผยว่าพนักงานที่ได้รับผลกระทบนั้นมีจำนวนเท่าใด ส่วนใครที่ตัดสินใจลาออกในวันที่ 31 พฤษภาคม เบสต์บายเผยว่าได้มีการมอบแพกเกจให้จำนวนหนึ่ง พร้อมกับช่วยแนะนำงานในองค์กรอื่น ๆ ให้ด้วย.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000021025