ตัวเลขจากไอดีซี (IDC) เผย แบรนด์ออปโป้ (Oppo) วีโว่ (Vivo) และหัวเว่ย (Huawei) มียอดขายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมกันเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยคิดเป็น 29.6 เปอร์เซ็นต์ของตลาดแล้ว
โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ในปีที่ผ่านมา ทั้งสามแบรนด์ขายสมาร์ทโฟนรวมกันได้ 29.8 ล้านเครื่อง ขณะที่ซัมซุง (Samsung) ซึ่งเป็นเจ้าตลาดขายได้ 29.3 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 29.1 เปอร์เซ็นต์
โดยจะเห็นได้ว่า แบรนด์จากจีนทั้งสามแบรนด์นั้น มีการทุ่มงบประมาณด้านการตลาดในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างตลาดใหม่นอกจีน ซึ่งขณะนี้การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนนั้นเพิ่มสูง และอัตราการเติบโตของตลาดมีแนวโน้มลดลง
นอกจากแบรนด์สมาร์ทโฟนจีนที่ไปได้ไม่ดีนักในตลาดบ้านเกิดแล้ว กระทั่งซัมซุงเองก็มีส่วนแบ่งลดลง เหลือเพียงสองเปอร์เซ็นต์กว่า ๆ ในจีนเช่นกัน
สมรภูมิการแข่งขันของธุรกิจสมาร์ทโฟนจึงเบนเข็มมาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประเทศต่าง ๆ มากถึง 11 ประเทศ มีประชากรรวมกัน 653.4 ล้านคน และ 49 เปอร์เซ็นต์อาศัยอยู่ในเขตเมือง รวมถึงเป็นตลาดใหญ่ของซัมซุงตลาดหนึ่งด้วย (อ้างอิงจากสหประชาชาติ)
ในปีที่ผ่านมา ไอดีซีระบุว่า ซัมซุงมียอดขายสมาร์ทโฟนเป็นที่หนึ่งในตลาดนี้ ขณะที่ยอดขายโดยรวมของทั้งตลาดนั้นอยู่ที่ 100.7 ล้านเครื่อง (ลดลงจากปี 2016 ที่เคยอยู่ที่ 101.3 ล้านเครื่อง)
สินค้าขายดีคือสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ครองส่วนแบ่ง 37 เปอร์เซ็นต์ของภูมิภาค ตามมาด้วยสมาร์ทโฟนระดับกลาง (ส่วนแบ่ง 27 เปอร์เซ็นต์) ซึ่งไอดีซีคาดการณ์ว่า อนาคตความต้องการสมาร์ทโฟนระดับกลางจะเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ไอดีซีชี้ว่า แบรนด์อย่างวีโว่และออปโป้ เป็นแบรนด์ที่มีการทำมาร์เก็ตติ้งสมาร์ทโฟนระดับกลางได้ดี ซึ่งทำให้โอกาสของวีโว่และออปโป้ในปีนี้และปีต่อ ๆ ไปอาจเพิ่มยอดขายได้สูงขึ้น
ประเทศที่ไอดีซีสำรวจนี้มีทั้งสิ้น 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เมียนมา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม.
ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000024056