กำลังเป็นที่จับตามอง หลังจากแกร็บ (Grab) ควบรวมกับอูเบอร์ (Uber) คู่แข่งในตลาดบริการรถร่วมเดินทางทำให้แกร็บกลายเป็นผู้ให้บริการครองตลาดส่วนใหญ่ไปเลยทันทีและเมื่อตลาดไม่มีการแข่งขันเหมือนเดิมแล้วอาจส่งผลถึงค่าบริการที่อาจเพิ่มสูง
แต่ผู้บริหารใหญ่ในมาเลเซีย ได้ออกมาระบุว่า แอปพลิเคชันของ Grab จะยังคงเหมือนเดิม เช่นเดียวกับการกำหนดราคา รวมถึงประสบการณ์ใช้งานในภาพรวม
ฌอง โกห์ (Sean Goh) หัวหน้าทีมบริหาร Grab ประเทศมาเลเซีย Grab จะยังคงราคาค่าบริการไว้เช่นเดิม ไม่ขึ้นราคา เนื่องจากการเพิ่มราคาอาจส่งให้ความต้องการใช้บริการ Grab ลดลง และทำให้ผู้ขับขี่เสียยอดเรียกรถ และจะอาจส่งผลกระทบถึงรายได้ของ Grab ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร Grab มาเลเซีย มองว่าราคาเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ แต่ถ้าจะขึ้นราคา หลักๆ มาจาก 1.กฏระเบียบภาครัฐอาจผลักดันราคาค่าบริการให้สูงขึ้น 2. ภาวะรถยนต์และน้ำมันลด ราคาลง ก็อาจส่งผลให้ราคาค่าบริการลดลงด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยส่งทั้ง 2 ด้านเรื่องราคาบริการของ Grab ในอนาคต
การแข่งขันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับธุรกิจนี้เท่ากับจำนวนผู้ขับขี่และผู้ใช้
Goh ยืนยันว่าการรวมกันระหว่าง Grab และ Uber จะไม่กระทบการแข่งขัน โดยบอกว่าแม้การแข่งขันจะเป็นปรัชญาที่ดีสำหรับผู้บริโภค แต่เรื่องนี้เป็นจริงในบางกรณีเท่านั้น ซึ่งในตลาดรถร่วมเดินทาง ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแข่งขันของแพลตฟอร์ม เพราะประสิทธิภาพของการโดยสารจะถูกสร้างขึ้นจากความหนาแน่นของผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทางด้วย
“ด้วยจำนวนผู้ขับขี่ที่มีคุณภาพมากขึ้น เราคาดว่าลูกค้าจะรอคอยสั้นลง สามารถขึ้นรถได้เร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีสำหรับผู้ขับ และเพิ่มความน่าเชื่อถือที่ดีกว่าสำหรับผู้โดยสาร“
Goh ระบุว่าไม่มีแผนจะเปลี่ยนรูปแบบให้บริการ ขณะเดียวกันก็จะเน้นความโปร่งใส โดยยอมรับว่าบางครั้ง ผู้ขับขี่ Grab ในมาเลเซียมีปัญหาเลือกปฏิบัติ โดยปฏิเสธที่จะเดินทางไปยังจุดหมายแม้ว่าจะมีมาตรการเพื่อควบคุมพฤติกรรมดังกล่าว
สำหรับปัญหาการผูกขาด Goh ระบุว่า Grab ได้หารือกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการแข่งขันแล้ว โดย Grab ระบุว่าผู้บริโภคยังมีทางเลือกการขนส่งอื่นเช่นเดิม
คำให้สัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากวันที่ 26 มีนาคม 2018 รายใหญ่อาเซียนอย่าง Grab ยืนยันว่าได้ซื้อกิจการของ Uber ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทซอฟต์แบงก์ (SoftBank) สัญชาติญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทผลผลิตจากการควบรวม ภายใต้ข้อตกลงนี้ Grab จะได้รับการดำเนินงานทั้งหมดของ Uber รวมถึง Uber Eats ซึ่งเป็นบริการจัดส่งอาหาร ในขณะที่ Uber จะรับผลตอบแทนตามจำนวนหุ้นที่ถือ 27.5% ใน Grab และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Uber อย่าง Dara Khosrowshahi จะเข้าร่วมนั่งเก้าอี้คณะกรรมการ Grab
สื่อมาเลเซียย้ำว่าแอป Uber จะปิดตัวลงในวันที่ 8 เมษายน ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Grab ประกาศว่าแอพ Uber จะให้บริการต่อไปอีก 2 สัปดาห์นับจากวันที่ 26 มีนาคม โดยผู้ขับในระบบของ Uber จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ Grab ใหม่อีกครั้ง ขณะที่ข้อมูลในบัญชีของ Uber ของทั้งคนขับและผู้โดยสารจะถูกย้ายมายัง Grab โดยอัตโนมัติ
สำหรับบริการส่งอาหาร UberEats กำหนดการในมาเลเซียนั้นเหมือนกับประเทศไทยคือจะให้บริการถึงพฤษภาคม 2018 จากนั้นข้อมูลรายชื่อผู้จัดส่งและร้านอาหาร จะถูกโอนไปยัง Grab ภายใต้บริการ GrabFood
สำหรับชะตากรรมของพนักงาน Uber กว่า 500 คนในอาเซียน ผู้บริหารยอมว่า Grab ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาว่าใครต้องการทำงานร่วมกับ Grab ต่อ เนื่องจาก “ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการเข้าร่วมกับเรา” แม้ว่าหลังจากรวมกิจการ Grab จะมีตำแหน่งเป็นหนึ่งในบริการที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยให้บริการใน 191 เมือง ทั่วมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม พม่า และกัมพูชา.
source : https://mgronline.com/cyberbiz