ออเจ้าก็ไม่ช่วย ! ช่อง 3 ประกาศ “เออลี่ รีไทร์” ประเดิมทีมข่าว ตั้งเป้าลดไม่น้อยกว่า 100 คน

ถึงแม้ ละครบุพเพสันนิวาส จะสร้างกระแสความนิยมไปทั่ว ผลักดันให้เรตติ้งและรายได้ของช่อง 3 แต่ด้วยต้นทุนที่สูงมาก ทำให้ช่อง 3 ต้องประกาศ เออลี่ รีไทร์ (early retired) เป็นการด่วน ก่อนสงกรานต์จะมาถึง 

ช่อง 3 ประกาศ early retired ให้ลาออกตามความสมัครใจ ให้เงินชดเชย 10 เท่าของเงินเดือน โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มฝ่ายข่าวก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาช่อง 3 ได้ใบอนุญาตทีวีดิจิทัลมาถึง 3 ช่อง จึงมีการแยกทีมบริหาร และบรรณาธิการข่าวแต่ละช่อง แถมยังมีสำนักข่าว BEC News และยังมีการเอาต์ซอสจ้างทีมงานจากภายนอก

ปัจจุบันช่อง 3 มีทีมข่าวรวม 600-800 คน จากพนักงานทั้งหมด 2,000 คน ทำให้ต้นทุนสูงในส่วนของทีมข่าวจึงสูง งานซ้ำซ้อน จนต้องหามาตรการรัดเข็มขัด ลดพนักงานในส่วนนี้ลง

ส่วนแผนกอื่นๆ นั้น แม้ไม่มีประกาศส่งตรงไป แต่ก็เปิดรับพนักงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการ early retired ด้วย แต่จะได้รับอนุมัติต่อเมื่อหัวหน้างานยินยอม

แหล่งข่าวจากฝ่ายบริหารช่อง 3 เปิดเผยว่า โครงการนี้ตั้งเป้าว่าจะมีคนเข้าร่วมโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 100 คน โดยมีเวลาให้ตัดสินใจก่อนกลางเดือน เม.ย.นี้ เพื่อหาข้อสรุปโดยเร็วที่สุด

เรตติ้งข่าวเช้ายังตามช่อง 7

นอกจากนี้ การที่พุ่งเป้าลดพนักงานในฝ่ายข่าวก่อนั้น เนื่องจากรายการข่าวที่เคยโด่งดัง “เรื่องเล่าเช้านี้” ที่เคยเป็นแหล่งรายได้หลักของช่อง 3 หลังจากไม่มี สรยุทธ สุทัศนะจินดา มาจัดรายการ เรตติ้งลดลงต่อเนื่อง จนเวลานี้เรตติ้งตามหลังรายการข่าวเช้าของช่อง 7 “เช้านี้ที่หมอชิต” และ “สนามข่าวเจ็ดสี“ แถมยังสูสีกับ “คุยข่าวเช้าช่อง 8” ของช่อง 8 ผลัดกันแพ้ชนะ แต่ในวันที่ 3 เม.ย. เรตติ้งยังแพ้ช่อง 8

แต่ยังโชคดีที่รายการข่าวทั้งภาคเที่ยงและเย็นของช่อง 3 ยังเป็นผู้นำในช่วงเวลานี้ รวมถึงรายการข่าว “3 มิติ” ที่เรตติ้งจะขึ้นหรือลง ตามความแรงของละครไพรม์ไทม์ของช่อง 3 โดยที่ข่าว 3 มิติเคยได้เรตติ้งสูงถึงเกิน 5 มาแล้ว

มาตรการจัดการลดคนข่าวในครั้งนี้ นับเป็นการปรับใหญ่ท่ามกลางกระแสปัญหาภาวะเศรษฐกิจ หลังจากที่ผลประกอบการปีที่แล้ว กลุ่มช่อง 3 ได้กำไรเพียง 61 ล้านบาท แม้ว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 11,035 ล้านบาท แต่เนื่องจากต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมากทำให้กำไรหดเหลือเพียง 61 ล้านบาทเท่านั้น

ถึงแม้ว่า ละครบุพเพสันนิวาส จะช่วยฟื้นเรตติ้ง และโฆษณาให้กับช่อง 3 อย่างท่วมท้นแล้ว ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และส่งผลไปถึงรายการละครอื่นๆ ของช่อง อย่างน้อยครึ่งปีแรกของปีนี้ รายได้ของกลุ่มช่อง 3 น่าจะสูงกว่าปีที่แล้ว แต่ใช่ว่าละครทุกเรื่องจะสำเร็จได้เช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าใช้จ่ายของช่องยังสูงมาก ทำให้ช่อง 3 ต้องใช้มาตรการลดคนมาแก้ปัญหาควบคู่กันไป เพื่อผลักดันให้กำไรในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น

ปรับแผนลดข่าว เพิ่มรายการบันเทิง

ที่จริงแล้วช่อง 3 ส่งสัญญาณของการลดทีมงานข่าวไว้แล้ว ในการชี้แจงกับบรรดานักลงทุนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์เมื่อเดือนที่แล้ว ช่อง 3 ได้แจ้งว่า ผังรายการข่าวของช่อง 3HD ในปี 2561 จะมีการปรับลดสัดส่วนของรายการข่าวลดลง และเพิ่มสัดส่วนรายการประเภทบันเทิงให้มากขึ้น

สัดส่วนรายการข่าวปี 2560 อยู่ที่ 38.43% มาในปี 2561 จะปรับลดให้เหลือ 36.61% จากผังรายการทั้งหมด

ในขณะที่รายการประเภทละคร จะเพิ่มจาก 20.91% มาอยู่ที่ 26.28% และรายการวาไรตี้ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน จาก 21.61% มาเป็น 22.30%

สาเหตุที่เพิ่มรายการประเภทบันเทิงก็เพราะเพื่อเป็นช่องทางในการหารายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายการประเภทละคร ที่สร้างชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมาโดยตลอด หากละครประสบความสำเร็จก็จะช่วยดึงเรตติ้งช่อง และรายการอื่นๆ ขึ้นมาได้

ในช่วงที่ผ่านมา รายการประเภทบันเทิง ทั้งละคร วาไรตี้ ของช่อง 3 ได้มีการปรับพัฒนาคุณภาพมากขึ้น จนมาประสบความสำเร็จกับเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” จนแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ พาช่องแซงช่อง 7 แชมป์เก่า ขึ้นอันดับ 1 แชมป์เรตติ้งประจำเดือน มี.ค.