กลายเป็นกระแสฮือฮา เมื่อสื่อจีนได้เปิดเผยถึงยอดจองทุเรียนไทยกระฉูด 8 หมื่นลูกใน 1 นาที ภายหลังการประกาศความร่วมมืออาลีบาบา กรุ๊ป และรัฐบาลไทย ให้ผู้บริโภคจีนสามารถสั่งจองทุเรียนจากประเทศไทยจนเกิดกระแสความสนใจอย่างท่วมท้น
ล่าสุด อาลีบาบา ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการแล้วว่า มียอดจองทุเรียนรวมถึง 130,000 ลูก ในช่วง 1 นาทีแรกที่เปิดจอง ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นยอดจองทุเรียนหมอนทอง 80,000 ลูก
ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือกับรัฐบาลไทย อาลีบาบาจะร่วมส่งเสริมการขายทุเรียนมูลค่า 3 พันล้านหยวน (ประมาณ 15,000 ล้านบาท) ภายในระยะเวลา 3 ปี เพิ่มเติมจากสินค้าส่งออกของไทยชนิดอื่นๆ
การเปิดซื้อขายทุเรียนล่วงหน้ามีระยะเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 – 19 เมษายน เพื่อขายทุเรียนพันธุ์หมอนทองและพันธุ์พวงมณี จากการทำงานร่วมกันของผู้ส่งออกที่แนะนำโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และไช่เหนี่ยวแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ของอาลีบาบา ทำให้สามารถส่งทุเรียนจากไทยยังประเทศจีนได้ภายใน 120 ชั่วโมง และส่งถึงมือลูกค้าทั่วประเทศจีนได้ภายใน 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว ThaiRice Flagship Store บน TMall.com เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งทาง Tmall จะกระจายข้าวไปยังหลากหลายช่องทาง ระบบกระจายสินค้าของเครือข่ายของ RT-Mart ในประเทศจีน
นอกจากนี้ Tmall ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภคที่จะช่วยให้ผู้ค้าได้พัฒนาข้าวให้ตรงกับความชอบของผู้บริโภคชาวจีน เพื่อสร้างความสำเร็จจากการขายข้าวบนแพลตฟอร์ม TMall ดูได้จากยอดขายข้าวไทยที่เติบโตมากกว่า 2 เท่า ในปี 2560
ซู เฉีย ผู้อำนวยการอาวุโส TMall Fresh กล่าวว่า โปรโมชั่นขายทุเรียนล่วงหน้า เป็นเพียงก้าวแรกของการสนับสนุนอุตสาหกรรมเกษตรของประเทศไทย นอกจากทุเรียนและข้าวแล้ว อนาคตจะมีสินค้าเกษตรอื่นๆ วางขายผ่านแพลตฟอร์ม TMall
ทุเรียนแบบไหนส่งออกได้
- ดูจากสีของเปลือก น้ำหนักที่เหมาะสม และระดับความสุก โดยเลือกตัดทุเรียนที่สุกราว 70-80% เพื่อให้ทุเรียนสุกพร้อมรับประทานพอดีเมื่อส่งถึงประเทศจีน
- ในการคัดเลือกทุเรียน ต้องใช้บุคลากรที่มีทักษะและประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 5 ปี ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การบำรุงดินไปจนถึงการตัดแต่งกิ่ง คัดผลก่อนตัด และขนส่ง
- ขั้นตอนการปลูกทุเรียนให้ได้คุณภาพดีต้องใช้ระยะเวลาราว 120 วัน นับตั้งแต่ลงดินจนตัดได้