ไอบีเอ็มเปิดตัวIBM z14 รุ่นZR1 และ IBM LinuxONE Rockhopper II เมนเฟรม “สกินนี่” ทรงกะทัดรัดเครื่องแรกของโลกแต่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีบนพื้นฐานของเมนเฟรม IBM z14 ที่มีเทคโนโลยีด้านซิเคียวริตี้เหนือชั้นพร้อมขีดความสามารถในการเข้ารหัสทุกข้อมูล (pervasive encryption) การทำแมชชีนเลิร์นนิง ความสามารถด้านคลาวด์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ทรงพลังโดยมาพร้อมเฟรมเดี่ยวขนาดมาตรฐานอุตสาหกรรม 19 นิ้ว ในการพัฒนา “สกินนี่”เมนเฟรมครั้งนี้ ไอบีเอ็มได้ใช้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ในการทำงานร่วมกับลูกค้ากว่า 80 ราย เพื่อสร้างเมนเฟรมที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยมาพร้อมความสามารถเหนือชั้น อาทิ
– IBM z14 รุ่น ZR1 มีความจุเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่น z13sและ หน่วยความจำเพิ่มขึ้น 2 เท่า (8 TB)
– IBM z14 รุ่น ZR1 รองรับการทำธุรกรรมที่เข้ารหัสทั้
งหมดได้มากกว่า 850 ล้านรายการต่อวันในระบบเดียว
– IBM LinuxONE Rockhopper II มาพร้อมขนาดมาตรฐาน 19 นิ้ว ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์และมีหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 2เท่า (8TB) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
– โครงสร้างระบบของ IBM LinuxONE Rockhopper II ผ่านการรับรอง Docker-certified สำหรับ Docker EE ที่มาพร้อมการจัดการและการสเกลที่
ผ่านการทดสอบรับปริมาณได้ถึง 330,000 Docker Containers ช่วยให้นักพัฒนาสามาร
ถสร้างแอพพลิเคชันประสิทธิภาพสู
งที่รองรับสถาปัตยกรรม micro-services โดยไม่ทำให้ระบบช้าลง”แม้ปัจจุบันจะเป็นยุคธุรกิจดิจิ
ทัลแต่เมนเฟรมยังคงได้รับความเชื่
อมั่นจากองค์กรจำนวนมากในแง่
ความเสถียรความปลอดภัยและศักยภา
พของระบบในการสนับสนุนโครงการด้
านไอทีต่างๆรวมถึงการรองรั
บระบบคลาวด์และโครงการด้านบล็
อกเชนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่
างรวดเร็ว” นายสุรฤทธิ์วูวงศ์รองกรรมการผู้
จัดการ ธุรกิจระบบคอมพิวเตอร์สำหรับคลา
วด์แพลตฟอร์ม บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว
“จากการรับฟังคำแนะนำและความต้องการด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ลูกค้าองค์กรต้องการไอบีเอ็มจึงพัฒนาเป็นระบบเมนเฟรมใหม่ที่มีเทคโนโลยีซิเคียวริตี้ที่ดีที่สุดและได้รับการออกแบบมาให้รองรับคลาวด์โดยเฉพาะจึงช่วยให้ลูกค้าสามารถทุ่มเทเวลาให้กับเรื่องดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันได้อย่างเต็มที่โดยไร้ข้อจำกัดด้านสภาพแวดล้อมไอทีไม่ว่าจะเป็นแบบออนพรีมิสหรือไฮบริดคลาวด์”
ระบบซิเคียวริตี้ที่เหนือชั้นสำหรับการใช้งานสเกลยักษ์
หนึ่งในข้อกังวลเกี่ยวกับการก้าวสู่ระบบคลาวด์ยังคงเป็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล จากผลวิจัยโดยPonemon Institute ชี้ให้เห็นว่ามีข้อมูลที่เก็บอยู่ในคลาวด์เพียง 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสและการบริหารจัดการคีย์ ข้อมูล Breach Level Index ของ Gemalto ยังแสดงให้เห็นว่าจากจำนวนข้อมูลเกือบหมื่นล้านรายการที่ถูกละเมิดนับตั้งแต่ปี 2557 มีเพียง4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีการเข้ารหัสไว้
ด้วยความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมได้มากกว่า 850 ล้านรายการในหนึ่งวันต่อหนึ่งระบบ “สกินนี่”เมนเฟรมจึงไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ พลังงาน หรือระบบระบายความร้อนพิเศษใดๆ เพิ่มเติม แต่ยังคงความสามารถอันเหนือชั้นในแบบไอบีเอ็ม ทั้งการเข้ารหัสที่ครอบคลุมทุกข้อมูล ระบบซิเคียวริตี้ระดับผู้นำอุตสาหกรรมสำหรับระบบ Linux และเทคโนโลยี Secure Service Container สำหรับรองรับข้อมูลที่ต้องการการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงในการใช้งานที่มีสเกลใหญ่มาก ทำให้ข้อมูลได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามภายนอกในระดับระบบ จึงสามารถป้องกันภัยจากผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิพิเศษแฮ็กเกอร์ที่ขโมยตัวตนมาใช้ ไปจนถึงภัยคุกคามจากภายนอก โดยไม่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อแอพพลิเคชัน ขณะที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่จำเป็นต้องสร้างการผูกมัดที่ขาดความยืดหยุ่นลงในโค้ดแต่เพียงแค่ใส่แอพพลิเคชันลงใน Docker Containerให้พร้อมสำหรับการนำไปใช้กับ Secure Service Container เท่านั้น การจัดการแอพพลิเคชันสามารถทำผ่านเครื่องมือ Dockerและ Kubernetes ที่มีมาให้ ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานกับ Secure Service Container เป็นไปอย่างง่ายดาย
ขีดความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้นี้จะทำให้พาร์ทิชั่นและการเข้ารหัสของทุกข้อมูลในพาร์ทิชั่นนั้นมีความปลอดภัยอย่างยิ่งยวด ช่วยให้ผู้บริหารและผู้ให้บริการด้านไอทีสามารถส่งมอบสภาพแวดล้อมการทำงานข้างต้นให้กับผู้ใช้ปลายทางได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการสูญเสียความน่าเชื่อถือ และยังสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้นไปพร้อมกันได้
ศูนย์ข้อมูลคลาวด์ในกล่องเดียวระบบ z14 และ LinuxONEใหม่มอบขีดความสามารถ ประสิทธิภาพ หน่วยความจำ และแคชที่เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดในทุกแง่มุมของระบบ การออกแบบทั้งระบบขึ้นใหม่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถดังกล่าวขึ้นในขณะที่ลดความต้องการพื้นที่ลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ โดยมีขนาดมาตรฐานที่สามารถติดตั้งได้ในทุกศูนย์ข้อมูลIBM z14 ZR1 ยังถือเป็นการสร้างรากฐานสำคัญให้กับโซลูชัน IBM Cloud Private เพราะเป็นการสร้าง “ศูนย์ข้อมูลในกล่องเดียว” ที่รวมทั้งสตอเรจเน็ตเวิร์ค และองค์ประกอบส่วนอื่นเข้าไว้ภายในโครงสร้างกายภาพเดียวกันกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์เมนเฟรม
