ช้อปออนไลน์บูม! ดันยอดใช้ K PLUS SHOP พุ่ง 80% ตอบรับสังคมไร้เงินสด


ขึ้นชื่อว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่ดีที่สุดสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในยุคนี้ไปแล้ว สำหรับ K PLUS SHOP ซึ่งทางธนาคารกสิกรไทยได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่อยู่ตลอด เพื่อให้ร้านค้าบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ กสิกรไทยขึ้นแท่นเป็นผู้นำดิจิทัลแบงกิ้งในกลุ่มร้านค้า เพราะในตอนนี้มีผู้ใช้แอปฯ K PLUS SHOP สูงที่สุดในตลาดแล้ว ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลด 1.3 ล้านร้านค้า จำนวนธุรกรรม 2.5ล้านรายการ และมูลค่าธุรกรรม 3,668 ล้านบาท ที่สำคัญคือมียอดการรับเงินต่อวันผ่านแอปฯ ปี61 สูงขึ้น 80% จากสิ้นปีที่ผ่านมา


 

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมทำให้แอป K PLUS SHOP เติบโตอย่างก้าวกระโดดนั้นคงหนีไม่พ้น “ช้อปปิ้งออนไลน์” ซึ่งจากผลการสำรวจของ ETDA พบว่า ในปี 2559 การซื้อของออนไลน์ขึ้นมาติด 1 ใน 5 กิจกรรมยอดฮิตของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นครั้งแรก โดยอีคอมเมิร์ซในกลุ่ม B2C ของไทยเติบโตขึ้นถึง 37.91% จากปี 2558 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลธุรกรรมการเงินในการใช้แอปฯ K PLUS SHOP ของร้านค้าทั่วไทยที่มีสัดส่วนการรับเงินผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 30% จากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา


พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า “การเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ของไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ยอดการรับเงินต่อวันของร้านค้าในปี 2561 ผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS SHOP สูงขึ้น 80% จากสิ้นปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคหันมาจ่ายเงินด้วย QR Code แทนเงินสดมากขึ้น”


ความสำเร็จของ K PLUS SHOP ในครั้งนี้ เกิดจากการที่พัฒนาฟีเจอร์การใช้งานจากพฤติกรรมของลูกค้าจริงๆ นำ Pain Point มาปรับใช้ ซึ่งประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่อง Social Commerce หรือการซื้อของผ่านโซเชียลมีเดีย ใช้ LINE หรือ Facebook ในการพูดคุยปิดการขายมากถึง 53% แต่วิธีนี้ก็ยังมีจุดอ่อนคือผู้ซื้อต้องจำเลขบัญชีของร้านค้า ผู้ขายเองก็ต้องเสี่ยงกับการปลอมสลิปการโอนเงิน ทางกสิกรไทยจึงแก้ปัญหานี้ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ Social Payment บน K PLUS SHOP ขึ้นมา หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การสรุปยอดโอนหรือการส่งบิลเป็น QR Code ให้ผู้ซื้อ แทนการส่งเลขที่บัญชี ในฝั่งผู้ซื้อก็สะดวกเพียงใช้ QR Code ดังกล่าวจ่ายผ่าน K PLUS ได้เลย ในฝั่งผู้ขายก็จะทราบสถานะการจ่ายเงินของผู้ซื้อโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่าเป็นการดันเทรนด์การชำระเงินด้วย QR Code ให้เติบโตมากขึ้น เห็นได้จากการที่ธนาคารกระตุ้นการใช้จ่ายกับร้านค้าชื่อดัง เช่น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เลิฟอันดามัน ท่าเรือข้ามฟาก After you ต๋องเต็มโต๊ะ จ๊ากกี่ และข้าวต้มเจ๊โอว ซึ่งพบว่าบางร้านมีสัดส่วนยอดการใช้จ่ายผ่าน QR Code สูงถึง 30% ของยอดขายทั้งหมด


อีกฟีเจอร์ที่ทำให้ K PLUS SHOP เป็นแอปฯ ที่ร้านค้าต้องมี คือ สะสมแสตมป์ที่จะช่วยให้ SME สามารถทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้าซื้อซ้ำ และมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่ใช้ K PLUS อีกกว่า 8 ล้านคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับร้านค้าได้อีกด้วย
ทางกสิกรไทยมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยภายในสิ้นเดือน พ.ค. นี้จะเชื่อมต่อกับพันธมิตรด้าน Logistic เพื่อให้การส่งของออนไลน์มีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้นภายในคลิกเดียว และตั้งเป้าหมายร้านค้าใช้แอปฯ K PLUS SHOP เพิ่มเป็น 2 ล้านร้านค้าภายในสิ้นปีนี้