ขอปรบมือให้บุคคลที่คิดค้น “นาฬิกาเพื่อสุขภาพ” ขึ้นมา เพราะนี่คือ Gadget ที่มาแรงจนพลิกเทรนด์สุขภาพในปัจจุบันเลยทีเดียว เลิกไปเลย กับการต้องคอยแตะข้อมือนับชีพจรต่อนาที จดสถิติการออกกำลังกายไว้ในสมุด หรือเตือนตัวเองว่ากินอะไรเข้าไปบ้าง เผื่อต้องเบิร์นแคลอรี่ออกที่ฟิตเนส แค่ใส่นาฬิกาเพื่อสุขภาพติดไว้ เราก็จะเห็นสถิติต่างๆ และเก็บข้อมูลให้เราดูพัฒนาการ ตั้งเป้าหมายเพื่อสุขภาพ ขอบอกเลยว่าแรงฮึดจะพลุ่งพล่าน จนอยากออกไปยืดเส้นยืดสายทุกวัน ใครที่ยังใส่นาฬิกาแบบเดิมๆ ลองมาดูข้อดีเหล่านี้กัน แล้วคุณอาจจะเปลี่ยนใจหามาใส่ซักเรือนก็ได้
1. สถิติก็เก็บไว้ให้ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญ จำนวนก้าวในการเดิน ช่วงเวลาที่มีกิจกรรมสูงสุด–ต่ำสุดในแต่ละวัน เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยคำนวณทุกการเคลื่อนไหวออกมาเป็นสถิติ เพื่อให้เราคอยสังเกตว่าวันนี้เคลื่อนไหวมากน้อย สถิติคงที่หรือผิดปกติมั้ย ง่ายๆ เลย ถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แต่อยากใส่การเคลื่อนไหวที่มากขึ้นหน่อยแทรกในชีวิตประจำวัน ก็เซ็ตเป้าหมายไว้ที่นาฬิกา ผ่านแอปพลิเคชั่นของแบรนด์นั้นๆ ถ้าทำได้ถึงเป้าหมายจะฟินอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
2. จะกินจะนอนก็เตือน นาฬิกาบางรุ่นสามารถบอกได้ว่าวันนี้ต้องออกกำลังกายเพื่อเบิร์นพลังงานออกกี่แคลอรี่ สามารถใส่นอนก็ได้ พร้อมคอยเก็บสถิติการนอนในแต่ละวันว่านอนหลับสนิทกี่ชั่วโมง บางรุ่นสามารถวัดความเครียดจากอัตราการเต้นของหัวใจเราเมื่ออยู่กับที่ได้ และเตือนให้เราขยับร่างกายบ้างหากอยู่นิ่งๆ นานเกินไป แบบนี้จะช่วยให้เรารู้ตัวว่าละเลยการดูแลตัวเอง หรือปล่อยให้ตัวเองเครียดเกินไปรึเปล่า โดยดูได้จากสถิติจริงๆ ไม่ใช่วัดเอาจากความรู้สึก
3. กระตุ้นด้วยสถิติการออกกำลังกาย ทั้งระยะทางการวิ่ง จำนวนก้าว แคลอรี่ที่เผาผลาญออกไป หรือแม้กระทั่งสถิติเฉพาะกีฬาบางชนิด เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ เล่นสกี ตีกอล์ฟ ปั่นจักรยาน ฯลฯ เพื่อให้นักกีฬาเห็นพัฒนาการการฝึกฝนของตัวเอง หรือคนที่ออกกำลังกายทั่วไป ก็สามารถรู้ข้อมูลการออกกำลังกายของตัวเอง เหมือนมีเทรนเนอร์คอยเตือนว่าวันนี้เราออกกำลังกายครบตามเป้ารึยัง พัฒนาการเป็นอย่างไร ถ้าทำได้ตามเป้าก็จะยิ่งมีแรงบันดาลใจให้อยากออกกำลังกายทุกวัน
4. เก็บข้อมูลระยะทางว่าฝึกซ้อมมาไกลแค่ไหน ถือเป็นฟังค์ชั่นสำคัญที่ช่วยให้นักวิ่ง และนักกีฬาทั้งหลายหายกังวล เพราะจะคอยบอกว่าเราฝึกซ้อมมาเป็นระยะทางเท่าไหร่ และอยู่ที่ไหน จะได้รู้ว่าตัวเองฝึกซ้อมได้ระยะทางตามเป้าหมายหรือเปล่า พร้อมกับแสดงสถิติเพื่อให้เราเห็นถึงพัฒนาการของตัวเองด้วย นอกจากนี้ บางรุ่นยังมีคุณสมบัติกันน้ำ จะใส่ว่ายน้ำ ลุยฝน หรือจะใส่อาบน้ำด้วยก็ยังได้ เรียกว่าใส่เล่นกีฬาก็ดี ทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็ได้ แถมระบบนี้ยังกลายเป็นฟีเจอร์สำคัญของเทรนด์การวิ่งมาราธอนแบบใหม่ที่เรียกว่า Virtual Run โดยนักวิ่งไม่จำเป็นต้องไปยังสถานที่จัดงาน แต่วิ่งเก็บสถิติเองแล้วส่งไปร่วมกิจกรรมก็ยังได้
5. อยู่ที่ไหนก็ไม่พลาดการติดต่อ นาฬิกาเพื่อสุขภาพถึงมีอีกชื่อว่า Smart Watch ไง เพราะทำได้มากกว่าบอกเวลา บอกสถิติทางสุขภาพ ด้วยการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสาร แม้จะออกกำลังกายอยู่ นาฬิกาก็จะคอยแจ้งเตือนทั้งสายเรียกเข้า ข้อความ อัพเดทโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้เราไม่พลาดทุกข้อความสำคัญ แถมยังคอยเตือนกำหนดการนัดหมายต่างๆ ราวกับเป็นเลขาส่วนตัวด้วย
รู้แบบนี้แล้วลองหานาฬิกาเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามาประดับข้อมือดูสักเรือน ก็คงจะช่วยให้เกิดสมดุลทั้งการออกกำลังกาย การกิน และการใช้ชีวิต ล่าสุด Garmin จับมือกับบาร์บีคิวพลาซ่า เอาใจสายฟิต เพียงมาอร่อยกับชุด “รีฟิล มาราธอน” แล้วถ่ายรูปคู่กับบาร์บีกอน โพสต์ลงอินสตาแกรม พร้อม #GarminRefillMarathon มีสิทธิ์ลุ้นรับนาฬิกา Garmin เอาไปใส่ให้ฟินกันต่อด้วย วันนี้ถึง 30 มิถุนายน