จับตา M-SENKO น้องใหม่วงการโลจิสติกส์ ธุรกิจใหม่ใต้ปีก MK

หากเอ่ยชื่อ MK ใครๆ ก็รู้จักในนามร้านสุกี้รายใหญ่ที่อยู่คู่คนไทยมาถึง 30 ปี และนับเป็นร้านอาหารรายแรกๆ ที่มีช่องทางโลจิสติกส์ของตนเองเพื่อขนส่งวัตถุดิบและอาหารไปยังสาขาอื่นๆ ในเครือทั่วประเทศพร้อมทั้งมีบริการเดลิเวอรี่ถึงบ้านลูกค้ามาเป็นเวลา 20 ปี จึงพกพาความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาเต็มเปี่ยม

ด้วยมูลค่าตลาดของโลจิสติกส์ไทยที่มีกว่าแสนล้านบาท ประกอบกับช่องว่างทางการตลาดของการจัดส่งอาหารรูปแบบ B2B ได้ครบวงจร ที่ยังขาดหายอยู่ จึงเป็นโอกาสที่ท้าทายและหอมหวานสำหรับเอ็มเคในการก้าวสู่วงการนี้

ครั้งนี้เอ็มเคไม่ได้ฉายเดี่ยว แต่ร่วมมือกับบริษัท เซนโค กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ยักษ์ใหญ่เบอร์สองด้านโลจิสติกส์ของญี่ปุ่น ถือหุ้นสัดส่วนคนละ 50% เปิดบริษัท เอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์ เพื่อรุกธุรกิจบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ตั้งเป้ารายได้ไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาทภายในปี 2562 และภายใน 3 ปี จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 1,800 ล้านบาท พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลจิสติกส์แบบเย็นอย่างครบวงจร

สิ่งที่ทำให้เอ็มเคมั่นใจว่าจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ก็คือความเชี่ยวชาญของเซนโค กรุ๊ป โฮลดิ้ง ที่มีจุดแข็งและองค์ความรู้เกี่ยวกับบริการโลจิสติกส์แบบห้องเย็นเพื่อส่งสินค้ามายาวนานกว่า 100 ปี มีธุรกิจกระจายอยู่ในสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ จีน เอเชียกลาง และอาเซียน รวมถึงไทยและเมียนมา โดยมีเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ทุกรูปแบบในญี่ปุ่นกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ ปัจจุบันมีรายได้กว่า 103,000 ล้านบาท

สมชาย หาญจิตต์เกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

“เรามีการพูดคุยกันมาตั้งแต่ปีที่แล้วและแลกเปลี่ยนทัศนคติร่วมกัน ซึ่งเราคิดตรงกันว่าจะสามารถนำศักยภาพที่เรามีร่วมกันมาขยายกิจการเรื่องระบบขนส่งให้มีความแข็งแรงและเป็นมืออาชีพมากขึ้น และไม่ได้มองแค่ในประเทศไทย แต่มองไปถึงอาเซียนด้วย” สมชาย หาญจิตต์เกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว

โดยรูปแบบธุรกิจในช่วงแรกจะให้บริการโลจิสติกส์แก่ลูกค้าในแบบ B2B เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัวและตลาดมีความต้องการมากขึ้นจะเพิ่มในส่วนของ B2C ด้วย ซึ่งเน้นที่กลุ่ม Food เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการร้านอาหารแบบเครือข่ายทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ รวมถึงธุรกิจค้าปลีก เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ท โดยลูกค้ากลุ่มแรกเป็นญี่ปุ่น ซึ่งมีจำนวน 7-8 รายที่เซ็นสัญญาแล้ว และพยายามหาลูกค้าไทยเพิ่มด้วย

จุดเด่นของ เอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์ ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายอื่นคือการมอบบริการแบบ One Stop Service ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการคลังสินค้า (Warehouse) การขนส่ง (Transport) บริการนำเข้า-ส่งออกสินค้า (Forwarding) และการซื้อขายสินค้า (Trading) โดยเน้นไปที่การขนส่งสินค้าแบบเย็น (Cold chain) อย่างครบวงจร ด้วยรถควบคุมอุณหภูมิตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีรายใดตอบโจทย์บริการด้านโลจิสติกส์แบบเย็นได้ครบวงจรเท่านี้ ขณะที่เอ็ม-เซนโคสามารถปรับให้ตรงกับความต้องการลูกค้าได้ โดยใช้โซลูชั่นเดิมที่เชี่ยวชาญอยู่แล้วมาต่อยอดในส่วนนี้

ฮิโรชิ ยามาโมโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์ (จำกัด)

“ภายใน 3-5 ปี เอ็ม-เซนโค จะเติมเต็มความต้องการของตลาดและลูกค้าให้ครบวงจรยิ่งขึ้น เพื่อเป็น One stop Service ด้วยการขยายบริการสู่คลังสินค้าแห้ง (Dry warehouse) รวมถึงขยายธุรกิจไปยังตลาดภูมิภาคอาเซียน ในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และพัฒนารูปแบบการบริการเพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภครายย่อยในอนาคต” ฮิโรชิ ยามาโมโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวเสริม

สำหรับการลงทุนครั้งนี้ใช้งบ 1,500 ล้านบาท โดยเฟสแรกใช้ลงทุนเพื่อสร้างคลังจัดเก็บสินค้าแบบเย็น 1,000 ล้านบาท และอีก 300 ล้านบาท จะเป็นเรื่องของรถจัดส่งและห้องเย็น ขณะที่เหลืออีก 200 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนในส่วนคลังสินค้าแห้ง และจะเริ่มดำเนินงานอีก 14 เดือนข้างหน้า ในช่วง 2-3 ปีแรกจะบริการให้กับเอ็มเคในสัดส่วน 50% เมื่อมีลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาสัดส่วนบริการจะลดลงเหลือ 25%

ปัจจุบัน เอ็มเค กรุ๊ป มีแบรนด์ร้านอาหารในเครือทั้งหมด 8 แบรนด์ ประกอบด้วย ร้านเอ็มเคสุกี้ ร้านเอ็มเคโกลด์ ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ ร้านมิยาซากิ เทปปันยากิ ร้านฮาคาตะราเมน ร้านอาหารไทย ณ สยาม ร้านอาหารไทยเลอสยาม และร้านกาแฟ-เบเกอรี่ ซึ่งจะเป็นร้านอาหารไทยสไตล์ตะวันตก เลอเพอทิท คาเฟ่ ซึ่งทุกแบรนด์ที่กล่าวมามีจำนวนสาขาเปิดให้บริการรวมกันมากกว่า 600 แห่งทั่วประเทศไทย รวมทั้งยังมีการขายแฟรนไชส์ร้านเอ็มเค สุกี้ ที่ญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว และมิยาซากิให้แก่ผู้ประกอบการที่ประเทศลาว

ดังนั้นการก้าวสู่ธุรกิจโลจิสติกส์ในครั้งนี้จึงเป็นใบเบิกทางที่ช่วยเติมเต็มอาณาจักรของเอ็มเคให้ครบวงจรได้อย่างอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น.