ราชประสงค์คึกคัก ส่งต่อ “R-Walk” ให้กทม. ตั้งเป้าสิ้นปียกระดับเป็น Smart District –แหล่งธุรกิจ 24 ชั่วโมง

สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ส่งมอบ “ราชประสงค์ วอล์ก” (RatchaprasongWalk : R-Walk) โครงข่ายเส้นทางเดินลอยฟ้าความยาว 1,150 เมตร เชื่อม 4 ทิศทาง เข้า 18 อาคาร ให้กทม. สร้างปรากฏการณ์ศูนย์กลางธุรกิจสมาร์ทไลฟ์สไตล์สมบูรณ์แบบ ส่งคนเข้าถึงแหล่งช็อป ชิม พัก ทำงาน และสักการะองค์เทพอย่างไร้รอยต่อ พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีพร้อมยกระดับเป็นSmart Districtและแหล่งธุรกิจ 24 ชั่วโมงแห่งแรกในไทย

ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางธุรกิจขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯเท่านั้น ราชประสงค์ยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางทั้งทางบกและทางน้ำ (คลองแสนแสบ) และที่ตั้งของศูนย์การค้า  โรงแรม ร้านอาหาร อาคารสำนักงาน และบริษัทชั้นนำของประเทศ ทำให้ในย่านนี้มีกิจกรรมเชิงท่องเที่ยวค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ช็อปปิ้ง กินข้าว ดูหนัง ไปจนถึงการมากราบสักการะเทพศักดิ์สิทธิ์ กลุ่มผู้ประกอบการค้าราชประสงค์จึงริเริ่มโครงข่ายเส้นทางเดินลอยฟ้าเชื่อม 4 ทิศทาง คือทางเดินลอยฟ้า R-Walk  ย่อมาจาก Ratchaprasong Walk ทำหน้าที่เชื่อมสถานอาคารที่สำคัญในย่านนี้ได้ถึง 18 อาคาร ตามยุทธศาสตร์การสร้าง “Walkable District เพื่อให้คนเดิน” ทำให้คนสามารถเดินทางได้ไกลและเข้าถึงสถานที่ต่างๆ ในย่านได้มากขึ้น  นำไปสู่การขยายตลาดในวงกว้าง

สำหรับ R-Walk ความยาวรวม 1,150 เมตร แบ่งการเดินเป็น 2 เส้นทาง คือ ทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก เริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้าชิดลมมุ่งสู่แยกเฉลิมเผ่า ความยาวกว่า 650 เมตร และทิศใต้สู่ทิศเหนือจากแยกราชประสงค์ ผ่านเกษรวิลเลจ สู่ เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ความยาวกว่า 500 เมตร โดยอาคารทั้ง 18 แห่งที่ได้รับการเชื่อมต่อประกอบด้วย สามารถเดินทางได้ไกล

  1. เกษร ทาวน์เวอร์
  2. อาคารมณียา เซ็นเตอร์
  3. The Offices at CentralWorld
  4. President Tower and Arcade
  5. President Place
  6. Centara Grand at CentralWorld
  7. โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ
  8. โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล
  9. โรงแรมฮอลิเดย์อินน์
  10. โรงแรมเรเนซองส์
  11. Novotel Bangkok Platinum Pratunam
  12. ศูนย์การค้าอมรินทร์พลาซ่า
  13. ห้างเซ็นทรัลเวิลด์
  14. Erawan Bangkok
  15. เกษรวิลเลจ
  16. The Platinum Fashion Mall17.The Market Bangkok
  17. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคม RSTA กล่าวว่า Ratchaprasong Walk หรือ R-Walk ใช้เงินลงทุน 715 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าโครงข่ายทางเดินลอยฟ้านี้ทำให้เกิดการหมุนเวียนและการสัญจรภายในย่าน นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนชีวิตและเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นควบคู่กันไป

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการบน R-Walk วันละ 100,000 คน โดยมีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และผู้ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ โดยเฉพาะคนทำงานในราชประสงค์นี้รวมแล้วประมาณ 40,000 คน และแผนงานของสมาคมฯ หลังจากนี้จะยกระดับการเชื่อมต่อทางเทคโนโลยีและพัฒนาหลายๆ โครงการให้ย่านนี้เป็น Smart District (สมาร์ทดิสทริค)โดยร่วมมือกับพันธมิตร อย่าง อาลี เพย์ และบัตรแรบบิทมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้ใช้ชีวิตในย่านนี้ให้เกิดตวามสะดวกสบายและรวดเร็วในการจับจ่ายสินค้า ซึ่งจะมีการรวบรวมโปรโมชั่นสิทธิพิเศษร้านค้าในย่านราชประสงค์ โดยคาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการได้ภายในปลายปีนี้ เพื่อให้ราชประสงค์เป็นย่านท่องเที่ยวที่ไร้เงินสดแห่งแรกในเมืองไทย ทำให้เก็บวิเคราะห์ข้อมูลทางเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาในด้านต่างๆรวมถึงจะพัฒนาให้เป็นย่านธุรกิจท่องเที่ยว 24 ชั่วโมงด้วย

ยังเตรียมแผนพัฒนาคลองซุงเดิม

“แผนพัฒนาหลังจากนี้ในส่วนของ R-Walk ตอนนี้ทางสมาคมเตรียมเชื่อมสู่โรงพยาบาลตำรวจเป็นอาคารที่ 19ส่วนโครงการถัดไปหลังจากนี้เป็นโครงการพัฒนาคลองซุงซึ่งปัจจุบันเอกชนมีการก่อสร้างเป็นถนนทับ ให้เป็นวอล์คกิ้งสตรีทความกว้าง 9 เมตร ในระยะทาง 400 เมตร เพื่อสร้างเป็นโครงข่ายเชื่อมต่อจากท่าเรือคลองแสนแสบที่ขณะนี้มีแผนย้ายและขยายขนาดท่าเรือให้ใหญ่ขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารสัญจรประมาณ 15,000 คนต่อวัน และเชื่อมสู่ถนนชิดลม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้รวมไปถึงแผนปรับปรุงทางเท้า ภายใต้โครงการราชประสงค์ คอริดอร์ หรือโครงข่ายพื้นที่สีเขียว ตามแนวคิดของกรุงเทพมหานคร โดยจะมีการปลูกต้นไม้ตามแนว 2 ฝั่งถนนตั้งแต่สี่แยกราชประสงค์คลองแสนแสบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ และคาดว่าตงจะแล้วเสร็จภายในเดือนก..นี้ และเริ่มก่อสร้างทันที คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปีหน้า ส่วนเงินลงทุนจะเป็นการลงทุนร่วมกันของผู้ประกอบการราชประสงค์

ชาย บอกว่าในอนาคตยังมีแผนจะขยายSKY WALK ถนนราชดำริ (ช่วงแยกราชประสงค์ถึงแยกประตูน้ำ) ให้เชื่อม Airport link ราชปรารภอีกด้วย ซึ่งจะมีการพูดคุยกันอีกรอบส่วนการก้าวเป็น Smart District แห่งแรกนั้น เพื่อให้ที่ผู้มาเยี่ยมเยือนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพที่สุดในเมืองไทย โดยได้จับมือพันธมิตรเชื่อมโยงเทคโนโลยีสู่การบริการนักท่องเที่ยวและผู้ที่ใช้ชีวิตในย่านนี้ให้เกิดความสะดวกสบายและรวดเร็วในการจับจ่ายสินค้าและใช้บริการภายในปลายปีนี้  ได้แก่

1) Cashless District การเป็นย่านท่องเที่ยวและใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องพกเงินสด โดยนำพาย่านราชประสงค์สู่ย่านไร้เงินสดแห่งแรกในเมืองไทย และเดินหน้าโปรโมทย่านราชประสงค์ให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ

2) 3D Walkable District ประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างในการเดินท่องเที่ยวย่านเสมือนจริงตลอด 24 ชม. สร้างการเดินทางถึงร้านค้าง่ายขึ้น รวบรวมโปรโมชั่น สิทธิพิเศษร้านค้า และอีเว้นท์ในย่านราชประสงค์ที่น่าสนใจ  3) Smart District Development การขยายศักยภาพของย่านฯ จากการเก็บวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาในด้านต่างๆ ได้แก่ พัฒนาพื้นที่ การจราจร ความปลอดภัย และการทำการตลาดอีกด้วย

การส่งมอบทางเดินลอยฟ้า “Ratchaprasong Walk” จากสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ให้กรุงเทพมหานคร ความยาว 1,150 เมตรหรือ ประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ เชื่อมต่อ 4 ทิศทาง เข้าถึง 18 อาคาร ผสานการคมนาคมย่านราชประสงค์

พล...อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุ ย่านราชประสงค์เป็นสถานที่ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง พัฒนา ทั้งธุรกิจการค้า และไลฟ์สไตล์ เรียกได้ว่า ราชประสงค์โมเดล เป็นต้นแบบการท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์ก ที่คนทั่วโลกมาเยือน การมี สกายวอล์กที่ยาวที่สุด เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งความทันสมัย สะดวกสบาย ให้นักท่องเที่ยว และคนเดินทาง

ส่วนเรื่องความปลอดภัย กทม. จัดระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งเจ้าหน้าที่คอยตรวจตรา และกล้องวงจรปิด 120 ตัว ภาพความคมชัดสูง

ด้าน นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมก่อสร้างทางเดินเชื่อมเข้าโรงพยาบาลด้วย เป็นอาคารที่ 19 และทุกวันนี้ มีผู้ใช้บริการบนสกายวอล์กแล้วกว่าวันละ 100,000 คนต่อวัน

ปัจจุบันทางเดินลอยฟ้า หรือ Sky Walk เชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ไม่ได้เป็นแค่ทางเดินที่บรรดายักษ์ศูนย์การค้าระดับแถวหน้าของเมืองไทย จะใช้เป็นพรมแดงดึงคนเข้าห้าง แต่ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ เพื่อเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยว

หลังเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ทุ่มเงินไปกว่า 100 ล้านบาท ให้ กทม.-กรุงเทพมหานครเนรมิตสกายวอล์ก แยกสาทร-นราธิวาสเชื่อมบีทีเอสช่องนนทรีกับ ตึกเอ็มไพร์ส ทาวเวอร์จนเป็นทางเดินลอยฟ้าที่สวยที่สุด จากนั้นเริ่มมีอีกหลายจุดที่ยักษ์ธุรกิจทุ่มเม็ดเงินสร้าง เพิ่งเปิดใช้ไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา กลุ่มค้าปลีก มาบุญครอง-สยามดิสคัฟเวอรี่ลงขันกัน 300 ล้านบาท สร้างทางลอยฟ้ารูปไข่เชื่อม 4 แยกปทุมวัน ไปยังศูนย์การค้ามาบุญครอง หอศิลปวัฒนธรรม สยามดิสคัฟเวอรี่ และโรงหนังสกาล่า ว่ากันว่าผู้ลงทุนต้องการจะปั้นทางเดินพรมแดงสาสำหรับรูปแบบสกายวอล์กใหม่หมาดนี้ มีลักษณะรูปแบบเป็น Abstact ซึ่งเป็นแนวศิลปะแขนงหนึ่ง และตกแต่งด้วยใบบัวหลากหลายสี เพราะพื้นที่ 4 แยกแห่งนี้เดิมเคยเป็นสระบัวมาก่อน

ก่อนหน้านี้มี กลุ่มราชประสงค์ลงทุน 300 ล้านบาท สร้างทางเดินเชื่อมจากศูนย์การค้าแพลทินัมตรงประตูน้ำ ผ่านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ แล้วยกข้ามถนนเชื่อมกับบิ๊กซีกับศูนย์การค้าเกษร พลาซ่า แล้วมาเชื่อมกับสกายวอล์กเดิม ที่สร้างไปถึงบีทีเอสสถานีเพลินจิต

ยนี้ให้สวยและฮิตติดลมบนที่ใคร ๆ ก็ไม่พลาดมาเช็กอิน เหมือนกับแยกสาทร-นราธิวาส

ด้าน กทม.เจียดงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท ลงทุนก่อสร้าง 2 โครงการ ได้ฤกษ์เปิดใช้ไปเมื่อเดือน มี.ค. 2560 ที่ผ่านมา เป็นทางเดินเชื่อมจากสถานีบางหว้า-ท่าเรือตากสิน บริเวณคลองภาษีเจริญ-ถนนเพชรเกษม ระยะทาง 245 เมตร ค่าก่อสร้าง 69 ล้านบาท เพื่อเชื่อมการเดินทางระหว่างระบบขนส่งมวลชนทางรางกับทางน้ำ

ปลายปีนี้มีกำหนดจะเปิดใช้ทางเดินเชื่อมต่อระหว่าง 2 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจาก อุดมสุข-บางนาระยะทาง 1.7 กม. วงเงิน 450 ล้านบาท จากนั้นในปีหน้าเป็นคิวสกายวอล์กของ คีรี กาญจนพาสน์ ใช้เงินสร้างไปร่วม 200 ล้านบาท เปิดให้บริการ ระยะทาง 480 เมตร เชื่อมจากสถานีบีทีเอสหมอชิตถึงซอยพหลโยธิน 18 และเชื่อมกับมอลล์ในโครงการเดอะไลน์หมอชิต-จตุจักร

ด้าน ตระกูลเจียรวนนท์ก็ไม่น้อยหน้า เตรียมทุ่มเม็ดเงินสร้างทางเดินลอยฟ้าเชื่อมจากบีทีเอสสถานีปุณณวิถีกับโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท โครงการวิสช์ดอม วัน-โอ-วัน (WHIZDOM 101) เส้นทางจากสถานีบีทีเอสพาดยาวถึงสะพานลอยคนเดินข้ามซอยสุขุมวิท 101/1.