“ปูนอินทรี” ลุยแผนรุกตลาดครึ่งปีหลังรับจีดีพีพุ่งกระฉูด ชี้ “เมกะโปรเจ็กต์-อีอีซี” ดันตัวเลขการใช้ปูนซีเมนต์พลิกเติบโตหลายเท่า ได้ฤกษ์ส่งผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ”อินทรีเพชรพลัส (INSEE Petch Plus)” เจาะกลุ่มเป้าหมาย ชู 3 จุดเด่น ทำงานง่ายขึ้น เสร็จงานไวขึ้น ได้งานมากขึ้น เผยช่วงทดลองตลาด 1 เดือนแรก ลูกค้ายืนยันคุณภาพเยี่ยม ช่วยลดต้นทุน เร่งอัดโปรแกรมส่งเสริมการขายสร้างการรับรู้แบบเข้มข้นปูพรมโรงหล่อ
ดีลเลอร์ ร้านวัสดุทั่วประเทศ ปูนอินทรีมีความมั่นใจดันยอดขายโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ หนุนรายได้-กำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
มนตรี นิธิกุล รองประธานอาวุโส สายงานการตลาดและงานขาย บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ ปูนอินทรี เผยว่า “บริษัทเตรียมแผนรุกตลาดปูนซีเมนต์ครึ่งปีหลังครั้งใหญ่ หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นอย่างชัดเจนจากการประกาศตัวเลขจีดีพีของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2561 จากเดิมขยายตัว 3.6-4.6% หรือเฉลี่ย 4.1% เพิ่มเป็น 4.2-4.7% หรือเฉลี่ย 4.5% ตามด้วยกระทรวงการคลังปรับประมาณการจาก 4.2% เพิ่มเป็น 4.5% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 6 ปีนับจากปี 2555 และล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สั่งปรับประมาณการจีดีพีปี 2561 เป็น 4.4% จากเดิม 4.1% เนื่องจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องเศรษฐกิจหลายตัวดีกว่าที่คาดไว้
“ทั้งนี้ ปูนอินทรีเชื่อมั่นว่าในปี 2561 บริษัทจะสามารถเติบโตไปพร้อมกับตลาดที่เติบโตขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมาตรการภาครัฐที่ชัดเจนขึ้นทั้งในภาคสาธารณูปโภค และเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ อีกทั้งกฎหมายและสิทธิพิเศษในการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีความชัดเจน เห็นได้จากรายชื่อผู้จดทะเบียนกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2561 ซึ่งเป็นปัจจัยบวกส่งผลโดยตรงต่อปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์
“ตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศไทยหดตัวลงเล็กน้อยในไตรมาสแรก แต่ไตรมาส 2 เริ่มเติบโตมากขึ้น อันเนื่องมาจากการลงทุนภาครัฐที่ชัดเจนขึ้น นโยบาย EEC และ Thailand 4.0 ซึ่งคาดว่าความต้องการปูนซีเมนต์จะเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า”
ล่าสุด บริษัทเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ “อินทรีเพชรพลัส (INSEE Petch Plus)” เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยอินทรีเพชรพลัส เกิดจากการวิจัยและพัฒนาจากทีมงานนานถึง 1 ปี เริ่มจากสอบถามความต้องการของลูกค้า และแปลงเป็นคุณสมบัติของปูนซีเมนต์ จนได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงด้วย 3 จุดเด่นหลัก คือ ทำงานง่ายขึ้น เสร็จงานไวขึ้น ได้งานมากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ใช้ อินทรีเพชรพลัสอะไรๆ ก็ดีขึ้น”
อินทรีเพชรพลัสมีคุณสมบัติพิเศษต่างจากปูนทั่วไป คือ เนื้อปูนละเอียดขึ้น ผสมง่าย นุ่มมือ ไหลลื่นดี ไม่เปลืองแรง เนื้อปูนเข้มข้นขึ้นทำให้ได้จำนวนชิ้นงานที่มากขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิต และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมจนได้รับรางวัล มอก.2594-2556 เหมาะสำหรับงานโรงหล่อขนาดเล็ก (บล็อก ท่อ เสา คาน) งานคอนกรีตทั่วไป และคอนกรีตผสมเสร็จขนาดย่อม ใช้ได้ทั้งคอนกรีตเสริมเหล็กและคอนกรีตชนิดอัดแรง ให้กำลังอัดช่วงต้นและปลายสูง จึงได้โครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน
มนตรี เผยเพิ่มเติมว่า “บริษัทฯ เตรียมแผนรุกตลาดผลักดันปูนอินทรีเพชรพลัส ผ่านโปรแกรมส่งเสริมการขายต่างๆ เน้นกลุ่มโรงหล่อสินค้าคอนกรีตสำเร็จรูป กลุ่มตัวแทนจำหน่าย กลุ่มร้านค้าวัสดุก่อสร้างและโมเดิร์นเทรด รวมถึงกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ของอินทรีเพชรพลัส ในกลุ่มช่างและผู้รับเหมา
ทั่วประเทศ โดยช่วงเริ่มต้นเน้นการสาธิตสินค้า (Product Demonstration) เพื่อชูจุดเด่นและคุณสมบัติของสินค้าในด้านต่างๆ เช่น เป็นปูนซีเมนต์ที่ไหลลื่นดีทำให้เข้าแบบง่ายขึ้น ได้ผลผลิตมากขึ้น หลังจากนั้น จะขยายโฟกัสไปยังกลุ่มช่างและผู้รับเหมาทั่วไป CPM, งานท่อ, งานเสา และตาม site งานขนาดเล็ก ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านร้านวัสดุก่อสร้างทั่วประเทศ (Retail Activity)”
“เรามั่นใจนวัตกรรมล่าสุดของ อินทรีเพชรพลัส จะโดนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพราะช่วงทดลองเปิดตัวเพียงหนึ่งเดือน ก็ได้รับผลตอบรับดีมาก โดยตั้งเป้าหมายจะเป็นสินค้าตัวหลัก ในการผลักดันรายได้ยอดขายของครึ่งปีหลังนี้” มนตรีกล่าวทิ้งท้าย
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศมีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป โดยบริษัทคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในครึ่งปีหลังนี้จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าในไตรมาสแรก เพราะโครงการต่างๆ ของภาครัฐและภาคเอกชนจะเริ่มทะลักออกมามากขึ้นตั้งแต่ครึ่งปีหลัง ส่วนตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตดีมาก วัดจากปริมาณปูนซีเมนต์ในตลาดโลกที่สูงถึง 4.8 พันล้านตันในปี 2560 เท่ากับ CAGR (Compound Annual Growth Rate) หรือ อัตราการเติบโตของรายได้และกำไร ร้อยละ 7 โดยคำนวณจากช่วงเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง World Cement Association ประมาณการว่าตลาดปูนซีเมนต์โลกจะโตขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ในปี 2561 และประเทศจีนยังเป็นประเทศหลักในการใช้ปูนซีเมนต์ ตามด้วยอินเดีย อเมริกา และบราซิล
ก่อนหน้านี้ ปูนอินทรีเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2561 มีกำไรสุทธิ 833 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 550 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงโครงสร้างกำไรจากการขายสินค้าที่ดีขึ้น การขยายการส่งออก รวมถึงการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมรายได้ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 10,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 10,634 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่า รายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 2
ด้าน ยงยุทธ เข็มจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคเจซี คอนกรีต จำกัด บริษัทคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจ รับผลิตอิฐบล็อก ท่อใยหิน ท่อซีเมนต์และท่อระบายน้ำต่างๆ และจำหน่ายวัสดุก่อสร้างทุกชนิดชื่อดังในจ.ชลบุรี เผยถึงการจัดจำหน่ายและใช้งานว่า “ปูนอินทรีเพชรพลัสเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ทำให้โรงงานอย่างเรามั่นใจ เพราะช่วยให้ผลิตสินค้าได้คุณภาพและปริมาณเพิ่มขึ้น เพราะใช้ปูนซีเมนต์ต่อครั้งน้อยลง เมื่อใช้ปริมาณปูนผงน้อยลง ทำให้เราเพิ่มปริมาณการผลิตท่อได้มากขึ้น การเซ็ตตัวเร็วขึ้นก็ช่วยให้ใช้เวลาน้อยลง ผิวท่อสวย เฉียบ เรียบ สมชื่อกับอินทรีเพชรพลัส เราจึงมั่นใจในการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง”
ด้าน ช่างแสง ช่างปูนมืออาชีพ บริษัท เคเจซี คอนกรีต จำกัด เผยถึงความรู้สึกเมื่อได้ลองใช้งานว่า “เมื่อผสมปูนและใช้งานแล้วรู้สึกว่า ใช้เวลาน้อยลง ได้งานเร็วขึ้น ง่ายขึ้น เมื่ออัดปูนออกมา คุณภาพก็ดี สวยกว่าเดิม และแข็งแรง ที่สำคัญผสมกันง่ายขึ้นด้วย”
“อินทรีเพชรพลัส” จำหน่ายแล้วที่ร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายปูนอินทรีชั้นนำทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดได้ทางแฟนเพจ www.facebook.com/INSEEGroup, เว็บไซต์ www.siamcitycement.com หรือ โทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการอินทรี โทร. 1732