การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคโมบายเฟิร์ส (Mobile First) กระตุ้นความต้องการเพิ่มมากขึ้นสำหรับเสียงดิจิทัล โดยอะโดบี (Nasdaq: ADBE) ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปีระบุว่าแหล่งที่มาที่สำคัญที่สุด 3 อันดับของการรับฟังเสียงได้แก่ เพลงสตรีมมิ่ง เพลงที่ตนเองครอบครองในรูปแบบดิจิทัล และพอดคาสต์ ตั้งแต่ผู้สร้างคอนเทนต์ไปจนถึงผู้ลงโฆษณาและนักการตลาด เสียงมาพร้อมกับความท้าทายมากมาย เช่น อัตราการยกเลิกบริการสูง การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากขนาดตลาดขยายตัวอย่างรวดเร็ว ช่องทางใช้บริการที่หลากหลาย และไม่สามารถตรวจวัดการดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์
จากงาน Adobe Experience Forum Thailand ที่ผ่านมา อะโดบีได้เผยโฉม Adobe Analytics สำหรับเสียงสตรีมมิ่ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ต่างๆ จะสามารถกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้บริการเสียงทางออนไลน์และออฟไลน์ ภายใต้ความร่วมมือกับ 10 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อและความบันเทิงในสหรัฐฯ เช่น CBS Interactive, Pandora, Spotify, Time Warner และ Viacom แพลตฟอร์ม Adobe Analytics Cloud จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เข้าใจว่าผู้ฟังมีการโต้ตอบอย่างไรกับพอดคาสต์ เพลงสตรีมมิ่ง หนังสือเสียง และอื่นๆ เพื่อให้สามารถทำการตัดสินใจโดยอ้างอิงข้อมูลรอบด้านในการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ด้วยการตรวจสอบติดตามแบบเรียลไทม์ของ Adobe Analytics จะช่วยให้รับทราบข้อมูลเชิงลึกแบบสตรีมมิ่งในระดับที่เหนือชั้น ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถบันทึกการตรวจวัดในแง่มุมสำคัญๆ
นายวีอาร์ ศรีวัตศาน, กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอะโดบี กล่าวว่า “เนื่องจากตลาดมีผู้ใช้จำนวนมาก พร้อมความสามารถในการฟังทุกที่ทุกเวลา แบรนด์ต่างๆ จึงไม่มีหนทางที่จะศึกษาว่าเสียงถูกใช้งานในลักษณะใดบ้าง ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดจึงต้องใช้วิธีคาดเดาและเสี่ยงเดิมพันกับงบประมาณที่มีอยู่ ไม่มีโซลูชั่นการวิเคราะห์ข้อมูลอื่นใดที่จะสามารถกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกในระดับนี้สำหรับพอดคาสต์ เสียงสตรีมมิ่ง และหนังสือดิจิทัล”
ความสามารถใหม่ๆ ทางด้านเสียงใน Adobe Analytics Cloud มีดังนี้:
เข้าใจผู้ฟัง: แบรนด์ต่างๆ สามารถตรวจวัดได้ว่า ผู้ใช้ฟังพอดคาสต์หรือหนังสือเสียงจนจบหรือไม่ มีการข้ามโฆษณาหรือไม่ ผู้ใช้เลิกฟังเมื่อไร และข้อผิดพลาดต่างๆ เช่น การบัฟเฟอร์ข้อมูล ส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อประสบการณ์ ไม่ว่าเสียงนั้นจะเป็นแบบดาวน์โหลดหรือไลฟ์สตรีมก็ตาม นอกจากนี้ อะโดบียังช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถตรวจวัดเนื้อหาเสียงในทุกอุปกรณ์ แม้ว่าพอดคาสต์หรือหนังสือเสียงนั้นๆ จะถูกเปิดฟังบนอุปกรณ์หลายเครื่องก็ตาม ด้วย Audience Marketplace ของ Adobe Audience Manager แบรนด์ต่างๆ จะสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลจากบริษัทที่จัดเก็บข้อมูลและจากการเก็บข้อมูลทางอ้อม เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยครอบคลุมแบรนด์ต่างๆ ที่เป็นพันธมิตร หรือเพื่อตรวจวัดตำแหน่งที่ตั้งของกลุ่มผู้ฟัง ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์หรือลักษณะจิตนิสัย ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้ผู้เผยแพร่เสียงสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมในเรื่องที่เกี่ยวกับการแนะนำรายการ โฆษณา และการจัดผังรายการ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น
มอบประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีที่สุด: ด้วยหลากหลายเนื้อหามากมายที่มีให้เลือก ผู้บริโภคอาจเปลี่ยนใจได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ได้รับประสบการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ ระบบ Adobe Analytics ใช้ประโยชน์จาก Adobe Sensei ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI และ Machine Learning ของอะโดบี เพื่อแจ้งเตือนบริษัทเจ้าของแบรนด์หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น การบัฟเฟอร์ที่มากเกินไป และตรวจสอบติดตามระยะเวลาที่ใช้ระหว่างการคลิกปุ่มเพื่อเล่นและการเริ่มต้นของเสียง
หารายได้จากการนำเสนอคอนเทนต์: ด้วยการบันทึกข้อมูลการเลือกคอนเทนต์และพฤติกรรมของผู้ฟัง แบรนด์ต่างๆ จะสามารถนำเสนอโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และมอบประสบการณ์ด้านเสียงแบบเฉพาะบุคคล เพื่อดึงดูดผู้ฟังอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ต่างๆ จะสามารถตรวจวัดโฆษณาที่ผู้ฟังเริ่มและฟังจนจบ รวมไปถึงกรณีที่เลิกฟังกลางคัน และประเมินว่าควรสอดแทรกโฆษณาตรงจุดใดของเนื้อหาจึงจะเหมาะสม ด้วยแพลตฟอร์ม Adobe Audience Manager บริษัทเจ้าของแบรนด์จะสามารถสร้างรายได้จากสินทรัพย์ข้อมูลที่มีอยู่ใน Audience Marketplace และเชื่อมโยงกลุ่มผู้ฟังเข้ากับช่องทางการนำเสนอโฆษณาผ่านอุปกรณ์มือถือและช่องทางการนำเสนอคอนเทนต์ โดยครอบคลุมระบบนิเวศน์ด้านการตลาดและโฆษณาทั้งหมด
พัฒนารถที่มีการเชื่อมต่อ: ระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่มุ่งเน้นรถยนต์ การปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล และความสามารถด้านโฆษณา จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถนำเสนอประสบการณ์ในรถยนต์ที่แตกต่างอย่างแท้จริง สำหรับผู้ผลิตรถยนต์และผู้พัฒนาแอพในรถยนต์ Adobe Analytics จะช่วยมอบประสบการณ์ในรถยนต์ที่โดดเด่น เช่น เพลย์ลิสต์แบบเฉพาะบุคคล คำแนะนำระหว่างเส้นทาง และโฆษณาเสียง ซึ่งสามารถใช้เพื่อแนะนำและให้บริการคอนเทนต์หลากหลายประเภท นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ จะได้รับการแจ้งเตือนทันทีในกรณีที่ระบบโต้ตอบผ่านเสียงในรถยนต์หยุดทำงาน
เกี่ยวกับ Adobe Analytics Cloud
Adobe Analytics Cloud เป็นส่วนหนึ่งของ Adobe Experience Cloud โดยเป็นระบบข้อมูลอัจฉริยะสำหรับธุรกิจสมัยใหม่ที่มุ่งเน้นประสบการณ์ของลูกค้า ระบบดังกล่าวช่วยให้เข้าใจข้อมูลออฟไลน์และข้อมูลดิจิทัลในแต่ละขั้นตอนการใช้บริการของลูกค้า และบริษัทเจ้าของแบรนด์จะสามารถทำการตัดสินใจโดยอ้างอิงข้อมูลอย่างรอบด้าน และสร้างสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า Adobe Analytics Cloud ผสานรวม Adobe Analytics ซึ่งเป็นโซลูชั่นชั้นนำสำหรับการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์ เข้ากับ Adobe Audience Manager ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับการจัดการข้อมูลและกลุ่มเป้าหมาย Adobe Analytics Cloud มอบเครื่องมือที่จะช่วยลดปัญหาช่องว่างในการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกเพื่อใช้ในการดำเนินการอย่างเหมาะสม และช่วยสร้างมูลค่าจากข้อมูลได้อย่างเป็นรูปธรรมในทันที Adobe Analytics Cloud พัฒนาต่อยอดบน Adobe Cloud Platform ซึ่งประกอบด้วย Open API, รูปแบบข้อมูลมาตรฐาน และ Adobe Sensei ซึ่งเป็นกรอบโครงสร้าง AI และ Machine Learning แบบครบวงจรของอะโดบี ทั้งนี้ Adobe Analytics Cloud จะช่วยให้ทีมงานฝ่ายข้อมูลข่าวกรองที่ทันสมัยสามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็วมากขึ้น เพื่อรวบรวม อธิบายเหตุผล และเข้าใจข้อมูลจำนวนมหาศาลที่แยกออกจากกัน ทุกวันนี้เกือบสองในสามของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ติดอันดับ Fortune 100 ไว้วางใจเลือกใช้ Adobe Analytics Cloud เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายทางด้านดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในช่วงปี 2557 ถึง 2560
เกี่ยวกับอะโดบี
อะโดบีเปลี่ยนโลกผ่านประสบการณ์ด้านดิจิทัล รายละเอียดเพิ่มเติม www.adobe.com/sea
ติดตามอะโดบีผ่านเฟสบุ๊กที่ https://www.facebook.com/AdobeSEA/