บล.เออีซี (AECS) มองหุ้นไทยมีโอกาสทอดสอบ 1,747 จุด จากแรงเก็งกำไรประกาศงบไตรมาส 2/2561 ของบจ.ในตลาดหลักทรัพย์ออกมาดี จับตาปัญหาสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ส่อแววบานปลาย หลังสหรัฐฯ มีท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น แนะลงทุนหุ้นโรงพยาบาลจากผลประกอบการไตรมาส 2/61 ที่คาดออกมาดี และเข้าไฮซีซั่นธุรกิจ ชู BH-BCH-CHG-EKH-RJH
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้(6-10 ส.ค.) คาด SET Index จะมีความ ผันผวนสูงขึ้นจึงให้กรอบดัชนี 1,685-1,747 จุด จากแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/2561 ของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี โดยดัชนีปรับขึ้นกว่า 138 จุด จากระดับฐานLow ที่ 1,584 จุด และ High ที่ 1,722 จุด หรือเพิ่มขึ้นราว 8.7% ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาบวกกับ ดัชนีเริ่มเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ Horizontal Line ที่ 1,725 จุด
ส่วนปัจจัยลบจากต่างประเทศยังคงเป็นประเด็นความไม่แน่นอนของสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ยังมีความไม่ชัดเจนอยู่มาก แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีแรงหนุนจากกระแสคาดหวังต่อการเจรจารอบใหม่ ที่มีโอกาสเกิดขึ้น แต่จากท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีลักษณะแข็งกร้าวมากขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากการเดินหน้าแผนเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่มูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ และมีกำหนดเสร็จสิ้นกระบวนการในวันที่ 30 ส.ค. นี้
พร้อมทั้งเพิ่มระดับความรุนแรงของอัตราภาษีจากเดิมที่ 10% เป็ 25% กระตุ้นให้จีนต้องออกมาเปิดเผยแผนโต้ตอบในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วยการเตรียมมาตรการเก็บภาษีรอบใหม่ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ที่อัตราภาษี 5-25%) อีกทั้งข้อเสนอเดิมของสหรัฐฯ จากการเจรจาครั้งก่อนค่อนข้างเข้มงวด (ให้จีนเพิ่มสัดส่วนนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ + ยกเลิกการสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยี) ซึ่งคาดว่าจะกดดันให้การเจรจาระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายเป็นไปได้ยากลำบากขึ้น ดังนั้นในเราจึงแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อปัจจัยต่างประเทศ และติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “ทยอยลดพอร์ตการลงทุน” หรือ “Selective Buy” ในหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่แนวโน้มกำไรยังโตสดใส ดังนี้ 1) หุ้นกลุ่ม รพ.ที่ได้รับอานิสงส์จากฤดูฝนในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. บวกกับคาดกำไรช่วงไตรมาส 2/2561 ยังโต เมื่อเทียบจากปีก่อน เช่น BH, BCH, CHG, EKH, RJH 2) หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่คาดกำไรยังโตสดใสในช่วงไตรมาส 2/2561 เช่น ANAN, QH, AP, SC, ORI และ3) หุ้นที่จ่ายDiv. Yield สูงเกินปีละ 5% เช่น TKS, KKP, MC
ส่วนในทางเทคนิคมุมมองตลอดสัปดาห์นี้ ภาพ SET ยังขึ้นต่อได้ โดยคาดหวังแนวต้านแรก 1,725 จุด ซึ่งหากเบรกทะลุ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,747 จุด ฉะนั้นหากดัชนีพักตัวระหว่างสัปดาห์ มองเป็นโอกาสเข้าเก็งกำไร โดยมีแนวรับ 1,685-1,700 จุด ตามลำดับ และตั้ง Stop Loss ของการเก็งกำไรรอบนี้ไว้ที่การปิดหลุด 1,680 จุด โดยมองกรอบการแกว่งของดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,685-1,725 จุด โดยกลุ่มที่คาดจะ Outperform สัปดาห์นี้ เลือกกลุ่มพลังงาน (ENERG) มีหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ ESSO แนวรับ 14.50 บาท แนวต้าน 16.40 บาท และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์(ETRON)ได้แก่ KCE แนวรับ 42.25 บาท แนวต้าน 44.75 บาท และ HANA แนวรับ 36.00 บาท แนวต้าน 41.75 บาท