ทยอยประกาศผลประกอบการรอบครึ่งปีแรก ล่าสุด ค่ายเซ็นทรัล โดย ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ระบุว่า ยอดขายที่เติบโตต่อเนื่องและการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศของกลุ่มบริษัทในเครือ เป็นไปตามเป้าหมาย สามารถเพิ่มยอดขายของกลุ่มเซ็นทรัลให้เติบโต 12% ในปี 2561
ในครึ่งแรกของปีนี้กลุ่มเซ็นทรัลได้เปิดตัวโครงการใหม่มากมาย
ห้างสรรรพสินค้าเซ็นทรัลได้เปิดตัวบริการออมนิแชนแนลรูปแบบใหม่ “เซ็นทรัล แชท แอนด์ ช้อป (Central Chat & Shop)” แอปพลิเคชั่นไลน์ ให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ รวมถึงสั่งซื้อและเลือกให้สินค้ามาส่งที่บ้านหรือไปรับสินค้าด้วยตนเอง จะถูกนำไปปรับใช้กับธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มเซ็นทรัลต่อไป
สินค้าประเภทของใช้ในบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า เติบโตด้วยเลขสองหลัก โดยเฉพาะเพาเวอร์บาย ออนไลน์ ที่มียอดจำหน่ายเติบโตขึ้นถึงสามเท่าจากปีที่ผ่านมา ภายหลังจากการเปิดตัวเว็บไซต์ออมนิแชนแนล
- ร้านซูเปอร์สปอร์ต ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากลูกค้า หลังจากการเปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์โฉมใหม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ที่ปรับให้ตรงใจคนรุ่นใหม่และลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟมากขึ้น
- ส่วนธุรกิจที่เป็นหัวใจหลักอย่างบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ก็มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ เริ่มสร้างรายได้หลังจากการโอนกรรมสิทธิ์ 3 โครงการแรกที่ขอนแก่น เชียงใหม่ และระยอง ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของซีพีเอ็น ในการพัฒนาโครงการแบบมิกซ์ยูส
- ส่วนศูนย์การค้าที่จะเปิดปีนี้ เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เฟส 2 เน้นกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์และนักท่องเที่ยว โดยมีไฮไลต์สำคัญ เช่น สวนสนุกไตรภูมิ และ “อะควาเรีย” อะควาเรียมแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
- กลุ่มเซ็นทรัลยังมีแผนที่จะเปิดศูนย์การค้าและร้านค้าใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม
- โรงแรมเซ็นทารา มียอดขายครึ่งปีแรกเพิ่มสูงขึ้นทั้งในส่วนของร้านอาหารและห้องพัก เป็นผลมาจากกกระแสการท่องเที่ยวไทยที่เติบโต
- เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เปิดตัว “ตลาดจริงใจ” ตลาดชุมชนคอนเซ็ปต์ใหม่ในจังหวัดอุดรธานี เพื่อจำหน่ายสินค้าออร์แกนิกจากฟาร์มในท้องถิ่น
แผนครึ่งปีหลัง 61
ในส่วนของครึ่งปีหลัง กลุ่มเซ็นทรัล พัฒนาแอปพลิเคชั่น The1 โฉมใหม่ เพื่อให้สมาชิกจัดการคะแนนสะสมง่ายขึ้น ทั้งแลกรางวัลหรือโอนคะแนน รวมถึงเช็กโปรโมชั่น กดรับคูปอง หาร้านค้า และรับสิทธิพิเศษต่างๆ จากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล และพันธมิตรอื่นๆ
ด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซของกลุ่มเซ็นทรัล ผ่านความร่วมมือกับ JD.com เมื่อปลายปีก่อน เกิดเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ JD.co.th ของเจดี เซ็นทรัล (JD Central) ที่ได้ทดลองเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน และมีความพร้อมทั้งระบบจัดส่งสินค้า การชำระเงิน การให้บริการลูกค้า
โดยจะมีการเปิดอีกครั้งในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีสินค้ากว่า 5 แสนรายการจาก 4,000 แบรนด์ โดย JD Central ในประเทศไทยยังอยู่บนเว็บไซต์นานาชาติของ JD.com มีความพร้อมเรื่องระบบการขนส่งสินค้าระดับโลก ทำให้แบรนด์สินค้าหรือผู้ประกอบการไทย มีโอกาสในการขยายธุรกิจและเข้าถึงลูกค้าทั้งในประเทศจีนและลูกค้าทั่วโลก
ทศ จิราธิวัฒน์ กล่าวว่า การที่กลุ่มเซ็นทรัลเติบโตขึ้นในทุกๆ ด้าน ส่วนหนึ่งมีปัจจัยมาจากนโยบายของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การสื่อสาร และการคมนาคมของประเทศ ส่งผลให้ยอดการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในทุกประเภทสินค้า รวมถึงยอดขายออนไลน์ก็เติบโตขึ้นมากเนื่องมาจากเทรนด์ออมนิแชนแนลและบริการออนดีมานด์ ซึ่งเชื่อได้ว่าธุรกิจนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านการขนส่งสินค้า
รวมทั้งสัญญาณด้านบวกของประเทศไทย คือ การที่รัฐบาลมีนโยบายลงทุนครั้งใหญ่ในด้านคมนาคม ด้วยเม็ดเงินกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการขยายทางด่วน พัฒนารถไฟความเร็วสูง เพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่ง และโครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะช่วยให้ภาคบริการสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต และเกิดความเชื่อมโยงระหว่างเมืองต่างๆ ต่อยอดเป็นความมั่นคงในธุรกิจค้าปลีกและพาณิชย์ทั่วประเทศ.