เมื่อ“แบงกิ้ง เอเย่นต์” กำลังเป็นช่องใหม่ที่ธนาคารต้องหันมาโฟกัสมากขึ้น เพราะจะเป็นเครือข่าย “ตัวแทน” ของธนาคารให้บริการแก่ลูกค้า และลดภาระเรื่องการขยายสาขา
ธนาคารกสิกรไทย ใช้ชื่อบริการผ่านแบงกิ้ง เอเย่นต์ว่า “เคแบงก์ เซอร์วิส” (KBank Service) โดยประเดิมตั้งไปรษณีย์ไทย เพราะมีเครือข่ายทั่วประเทศ
ช่วงแรกให้บริการรับฝากเงินสด คิดค่าธรรมเนียม 20 บาท จากนั้นจะให้บริการเต็มรูปแบบทั้งฝากและถอนเงินภายในปีหน้า คาด 3 ปีแรกลูกค้าใช้บริการ 600,000 รายการ และธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดบัญชีเงินฝากในอนาคตอีกด้วย
พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การเปิดบริการ “เคแบงก์ เซอร์วิส” ผ่านแบงกิ้ง เอเย่นต์ ถือเป็นยุทธศาสตร์ของธนาคารเพิ่มช่องทางบริการทางการเงินที่นอกเหนือจากสาขาธนาคารรูปแบบปกติ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และพื้นที่ที่แตกต่างกันไปของลูกค้า และเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ยังไม่คุ้นเคยกับดิจิทัล แบงกิ้ง
โดย “เคแบงก์ เซอร์วิส” ให้บริการเหมือนสาขาของธนาคาร ครอบคลุมบริการรับฝากเงินสด ถอนเงิน และจ่ายบิล และอยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดบัญชีเงินฝากในอนาคตสำหรับลูกค้ารายย่อย
เงื่อนไขของการเป็นแบงกิ้ง เอเย่นต์ที่ธนาคารแต่งตั้ง
- จะต้องมีสถานที่ให้บริการเป็นหลักแหล่ง เสริมพื้นที่ที่ธนาคารมีอยู่
- มีพนักงาน เครื่องมือ และระบบการให้บริการที่รองรับการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย โดยเฉพาะศักยภาพการเชื่อมต่อระบบกับธนาคารแบบเรียลไทม์
เพื่อสามารถให้บริการกับลูกค้าได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย โดยธนาคารจะดูแลรับผิดชอบการให้บริการของตัวแทนเสมือนหนึ่งเป็นผู้ให้บริการเอง
ในการแต่งตั้งให้ไปรษณีย์ไทยให้บริการ “เคแบงก์ เซอร์วิส” ในเบื้องต้นจะให้บริการผ่านสาขา 964 แห่ง กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และเมื่อรวมกับสาขาของธนาคาร 1,016 สาขาและตู้บริการอัตโนมัติ 11,792 ตู้ จะทำให้ธนาคารมีจุดให้บริการธุรกรรมการเงินเพิ่มขึ้นเป็น 13,772 จุดทั่วประเทศ
โดยช่วงแรกให้บริการฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยสูงสุด 20,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 40,000 บาทต่อวัน ค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อรายการ ในช่วงเปิดให้บริการจนถึงสิ้นปีนี้ลดค่าธรรมเนียมเหลือ 10 บาท ตั้งเป้าหมายมีลูกค้าใช้บริการ 150,000 ธุรกรรมภายในสิ้นปี 2561
ไปรษณีย์จะพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบทั้งรับฝากเงินสดและถอนเงินในปีหน้า คาดว่าภายใน 3 ปีแรกจะมีปริมาณลูกค้าใช้บริการทุกธุรกรรมที่สาขาไปรษณีย์ไทยประมาณ 600,000 ธุรกรรม นอกจากนั้นแล้วทางธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดบัญชีเงินฝากในอนาคตด้วย”
ไปรษณีย์ไทย (Bank@Post)
ทางด้านไปรณีย์ไทยนั้น ได้เป็นตัวแทนสถาบันการเงิน (Bank@Post) โดยร่วมกับธนาคารพาณิชย์ในการรับฝากเงินเข้าบัญชีธนาคาร มาตั้งแต่ปี 2554 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 13% และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้นต่อไปในอนาคต เนื่องจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนขยายสาขาของธนาคารมีแนวโน้มลดลง
ไปรษณีย์ไทย ซึ่งมีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศมากกว่า 5,000 แห่ง จึงตอบสนองความต้องการของธนาคารในการเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง
สมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่าในระยะแรกจะเน้นในเขตภูมิภาค เพื่อให้ลูกค้าในพื้นที่ให้สามารถฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขาของธนาคารฯ จากนั้นจะขยายธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ และจุดบริการให้ครอบคลุมทุก ปณ.ทั่วประเทศในอนาคตอันใกล้
ร้านสะดวกซื้อ-ห้างฯ-ปั๊มน้ำมันคิวต่อไป ตั้งเป้า 2 ล้านธุรกรรมใน 3 ปี
หลังจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย มีแผนเปิดให้บริการ “เคแบงก์ เซอร์วิส” ผ่านแบงกิ้ง เอเย่นต์ กับพันธมิตรที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น คาดว่าเมื่อให้บริการเต็มรูปแบบครอบคลุมบริการรับฝากเงิน ถอนเงิน และจ่ายบิล จะทำให้มีจำนวนธุรกรรมรวมกว่า 2 ล้านรายการภายใน 3 ปี และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นบนต้นทุนบริหารจัดการที่เหมาะสมของธนาคาร
พร้อมกันนี้ธนาคารเตรียมปรับรูปแบบสาขาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และนำดิจิทัล เทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย.