เปิดศึกมหกรรมช้อปปิ้ง 9.9 เมื่อ Lazada ปะทะ Shopee งานนี้วัดกันที่ประสบการณ์ล้วนๆ

เปิดศึกมหกรรมช้อปปิ้ง 9.9 เมื่อ Lazada ปะทะ Shopee งานนี้วัดกันที่ประสบการณ์ล้วนๆ

ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยยังมีการแข่งขันแบบร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง และมีดีกรีสูงขึ้นทุกปี ยิ่งในปีนี้เริ่มมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มยิ่งเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปิดรับกับการช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน ยิ่งทำให้ตลาดมีทิศทางที่โตสูงขึ้นตลอด

แต่แบรนด์น้องใหม่ที่เข้ามาก็ใช่ว่าจะอยู่รอดทุกราย ล้วนมีการล้มหายตายจาก เพราะฉะนั้นตลาด แพลตฟอร์มต่างๆ ล้วนต้องมีแม็กเน็ตในการดึงดูดผู้บริโภคให้ได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดลอยัลตี้กับแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน

มนต์เสน่ห์ของมหกรรมช้อปปิ้งที่แบรนด์พลาดไม่ได้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ทุกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจะต้องกระโดดลงมาจับมหกรรมช้อปปิ้งในวันพิเศษต่างๆ กันหมด ในขณะเดียวกันเป็นเหมือนวันที่ผู้บริโภคตั้งตารอด้วยเช่นกัน เพราะเป็นวันที่ได้รับดีลส่วนลดสุดพิเศษ

จากผู้นำเทรนด์คนแรกอย่างอาลีบาบาที่นำวันคนโสด 11.11 หรือวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนมาเป็นวันช้อปปิ้งเดย์ในประเทศจีน ก็สร้างยอดขายถล่มทลายอย่างหนัก จนกลายเป็นกรณีศึกษาที่ทำให้แพลตฟอร์มอื่นไม่พลาดที่จะลงมาทำมหกรรมช้อปปิ้งกับเขาบ้าง

อย่างในประเทศไทยก็เพิ่งผ่านมหกรรมช้อปปิ้ง 9.9 มาสดๆ ร้อนๆ เรียกว่ามีการแข่งขันกันอย่างร้อนระอุชนิดที่เรียกว่าไม่มีใครยอมใคร

พี่ใหญ่ในเมืองไทยอย่าง “Lazada” ถือว่าเป็นเบอร์ 1 ในตลาดอีคอมเมิร์ซได้เปิดศึกมหกรรมช้อปปิ้งด้วยแคมเปญ “9.9 All You Ever Wanted” สวรรค์ของนักช้อป ที่เต็มไปด้วยดีลและส่วนลดพิเศษมากมาย นอกจากประเทศไทยแล้วยังร่วมเปิดมหกรรมนี้ร่วมกับอีก 5 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม

ส่วนอีกหนึ่งแพลตฟอร์มอย่าง Shopee ก็ไม่น้อยหน้า เปิดแคมเปญ “Shopee 9.9 Super Shopping Day” ด้วยเช่นกัน เป็นการเปิดศึกในการแย่งชิงผู้บริโภคบนโลกออนไลน์อย่างแท้จริง งานนี้ยิ่งทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซมีสีสันมากขึ้นไปอีก

ไม่ใช่แค่ช้อป แต่ต้องมีกิมมิคให้ว้าว

แม้ความพิเศษของมหกรรมช้อปปิ้งคือ “ส่วนลด” ของสินค้า จะได้เห็นสินค้าราคาถูกออกมาเพียบ แต่หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่ราคาเพียงอย่างเดียว ยังอยู่ที่กิมมิคอื่นๆ ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกตื่นเต้น

ในปีนี้ทั้ง 2 แพลตฟอร์มต่างใช้กิมมิคของเกมมาสร้างความตื่นเต้น เป็นการเขย่าเพื่อรับส่วนลดในการซื้อสินค้าต่างๆ ล้วนเป็นกิจกรรมที่สร้างเอ็นเกจกับผู้บริโภคให้มากขึ้น

ความพิเศษของ Lazada ในปีนี้ที่มาเหนือคู่แข่งอื่นๆ ก็คือ การที่ได้เข้าไปอยู่ในครอบครัวของอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีนแล้วนั้น ยิ่งเสริมจุดแข็งอย่างเรื่องแพลตฟอร์ม และระบบโลจิสติกส์ที่มีอยู่ให้ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก ด้วยการทำ Know How ต่างๆ จากอาลีบาบามาช่วยเสริมประสบการณ์ช้อปปิ้งให้ดียิ่งขึ้น

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการนำ ฟีเจอร์ที่เป็นแบบ Gamification มาให้ลูกค้าได้ลองเล่นในแคมเปญนี้ เช่น เกมหั่นราคา (Slash it) กับดีลสุดว้าว เช่น ทอง 1 บาทในราคา 1 บาท iPhone 8 ในราคา 8 บาท เกม Shake it เขย่าเพื่อรับดีลส่วนลดรวมถึงฟีเจอร์ใหม่อย่าง Image search สามารถ ค้นหาสินค้าด้วยรูปอย่างง่ายดาย เพียงถ่ายรูป ระบบของ Lazada ก็สามารถนำเสนอสิ่งที่กำลังมองหาอยู่ได้ทันที

 

คนไทยรักสวยรักงาม สินค้าสุขภาพยังขายดีสุด

เมื่อดูสถิติการช้อปของคนไทยในช่วงวันที่ 9 เดือน 9 นั้น พบว่าสะเทือนวงการอีคอมเมิร์ซอยู่ไม่น้อย ทางด้าน Shopee เผยว่ามียอดรวมคำสั่งซื้อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 5.8 ล้านออเดอร์ หรือคิดเป็น 3 เท่าของการจับจ่ายในช่วงเวลาปกติ ซึ่งสามารถทุบสถิติยอดการสั่งซื้อทั่วทั้งภูมิภาคของปี 2560 นับเป็นอีกครั้งของการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ Shopee ที่สะเทือนวงการอีคอมเมิร์ซของเมืองไทย ไอเท็มสินค้ากว่า 15 ล้านชิ้นถูกจำหน่ายออกไปภายใน 24 ชั่วโมง และประเด็นที่น่าสนใจคือ สินค้าจาก ทั่วทั้งภูมิภาคกว่า 99,999 ชิ้น ถูกซื้อขายออกภายในไม่ถึง 9 นาทีแรก ของวันที่ 9 กันยายน อีกด้วย ในขณะที่ Lazada ยังไม่มีตัวเลขคำสั่งซื้อออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าคงสูงกว่าทาง Shopee แน่นอน ข้อมูลล่าสุดเปิดเผยว่าลาซาด้ามียอดผู้เข้าชม แอปพลิเคชั่นจากผู้ใช้รวมกันทั้ง 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 11 ล้านคนภายใน 24 ชั่วโมงแรกที่มีการเริ่มแคมเปญ สำหรับในไทย Lazada ก็มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาแบบให้เดากันเล่นๆ เช่น ถุงเท้าที่ขายได้ภายใน 1 วันเมื่อนำมาเรียงต่อกันจะเท่ากับระยะทางจาก กรุงเทพฯ ไปพัทยา

แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือกลุ่มสินค้ายอดนิยมที่มีการขายมากที่สุดเป็นกลุ่มสินค้าสุขภาพ และความงาม สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่รักสวยรักงาม และดูแลสุขภาพ ทำให้สินค้ากลุ่มนี้มีการเติบโตสูง

 

เวลาสั้นยาวไม่สำคัญ วัดกันที่ประสบการณ์ผู้ซื้อ

ในแคมเปญ 9.9 ในปีนี้ ทั้ง 2 ค่ายต่างมีระยะเวลาของแคมเปญไม่เท่ากัน อย่างของลาซาด้ามีเพียง 6 วันเท่านั้น หรือประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 4-9 กันยายน 2561 ส่วนทางด้านของ Shopee จัดถึง 12 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 9 กันยายน 2561 ซึ่งแต่ละวันก็จะมีดีลสินค้าแตกต่างกัน รวมถึงกิจกรรมที่แตกต่างกันด้วย

แต่ต้องบอกว่าระยะเวลาของแคมเปญไม่ได้เป็นตัวการันตีความนิยมของแพลตฟอร์ม หรือการสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นเท่าไหร่นัก เพราะสิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือประสบการณ์ของลูกค้าที่ได้รับจากการซื้อของมากกว่า การที่มีแพลตฟอร์มตอบโจทย์การใช้งานทุกอย่าง รวมถึงมีระบบอินฟราสตรัคเจอร์ที่รองรับการใช้งานที่ดีเยี่ยม อย่างในแคมเปญ 9.9 ที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมเล่น Shake it บนแอปพลิเคชั่น Lazada สูงสุดถึง 4 ล้านครั้งตลอดทั้งแคมเปญ และคูปองส่วนลดหมดลงอย่างรวดเร็วเพียงแค่ 5 นาทีแรกของแต่ละรอบการแจก

การที่ผู้บริโภคร่วมแคมเปญที่มากมายมหาศาลนั้น ยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเน็ตเวิร์คที่แข็งแกร่งของลาซาด้าที่สามารถรองรับผู้ใช้งาน และดาต้าได้จำนวนมหาศาลในเวลาเดียวกัน สามารถส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้ง ให้ลูกค้าได้อย่างราบลื่นและแม่นยำอีกด้วย

ในทางกลับกันทางฝั่ง Shopee เกิดประเด็นดราม่าใหญ่โต เรื่องดึงเหรียญคืน คาดเดาว่าอาจเพราะจำนวนคนที่เข้ามาเล่นมากมาย แต่ระบบไปผิดพลาดอย่างไรไม่รู้ และดันมาหลุดในวันมหกรรมกรรมช้อปปิ้งใหญ่ ทาง Shopee ได้มีการประกาศขอโทษลูกค้าอย่างเร่งด่วน

Lazada ได้มีการนำเทคโนโลยีจากบ้าน Alibaba มาพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นั้นยิ่งช่วยส่งเสริมทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีขึ้น จากสถิติที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความเป็นเบอร์ 1 ในตลอดอีคอมเมิร์ซในไทยที่แท้จริง คอยติดตามมหกรรมช้อปปิ้งครั้งต่อไปของลาซาด้าว่าจะมีหมัดเด็ดอะไรออกมาอีกหรือไม่ เชื่อว่าต้องไม่ทำให้คนไทยผิดหวังอีกแน่นอน และยังคงต้องรอดู Shopee ว่าจะแก้มือในเรื่องของระบบอย่างไร เท่าที่ผ่านมาถือว่า Shopee สอบผ่านฉลุย เข้ามาเพียงไม่กี่ปี สามารถผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ในตลาดได้อย่างรวดเร็ว สำหรับบทเรียนที่ผ่านมา งานนี้ Shopee คงต้องซุ่มทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อเทียบชั้น Lazada ในแมทช์มหกรรมช้อปปิ้งใหญ่ 11.11 ที่จะมาถึงปลายปีนี้