เรื่อง : Thanatkit
สีน้ำทะเลของ “พัทยา” กำลั
“เทอร์มินอล 21 พัทยา” เป็นโครงการที่ดำเนินงานโดย บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งที่ 2 ของกลุ่ม แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล ต่อจากโครงการเทอร์มินอล 21 ที่อโศก กรุงเทพฯ
ใช้งบลงทุนทั้งหมดกว่า 6,000 ล้านบาท มีพื้นที่รวมของอาคารทั้งหมด 180,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 33 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณพัทยาเหนือ มีทางเข้าออกได้ถึง 3 เส้นทางหลัก คือถนนพัทยาเหนือ ถนนพัทยาสาย 2 และถนนเพ็ชรตระกูล
เหตุผลที่เลือกมาปักหมุดพัทยานั้นมาจากความเชื่อมั่นศักยภาพในเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละ 10 ล้านคน ไม่รวมนักท่องเที่ยวชาวไทย และคนในพื้นที่กับใกล้เคียงเช่นระยองอีก 7 ล้านคน รวมกันเป็นประชากรมากถึง 17 ล้านคน
มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่ครอบคลุมไปถึงเกาะล้าน เกาะครก และเกาะสาก นอกจากนี้ยังมีสถานที่และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ มากมาย แต่ละปีมีการจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 20 ครั้ง
โครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ “ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” ใช้งบลงทุน 4,000 ล้านบาท มีพื้นที่รวมให้เช่ารวม 45,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่ช้อปปิ้งมอลล์ 6 ชั้น ตกแต่งในธีมที่เข้าไปก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเทอร์มินอล 21 ในสไตล์มาร์เก็ตสตรีท จากแรงบันดาลใจของ 6 มหานคร แหล่งการช้อปปิ้งระดับโลก ได้แก่ ปารีส, ลอนดอน, อิตาลี, โตเกียว, ซานฟรานซิสโก และฮอลลีวูด
มีโรงภาพยนตร์ SFX จำนวน 7 โรง ฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาร์เก็ต 24 ชั่วโมงบนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ศูนย์อาหาร Pier 21ฟู้ดคอร์ท มากกว่า 30 ร้านค้าบนพื้นที่ 2,500 ตารางเมตร ร้านค้าเช่าอีก 500 ร้าน และสร้างเอกลักษณ์ด้วยบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในศูนย์การค้าของประเทศไทย ความยาวรวม 39 เมตร
พร้อมเครื่องบินบนรันเวย์ที่ยาวกว่า 250 เมตร ติดชายหาดจำลองที่หน้าศูนย์การค้า โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ตุลาคม 2018
อีกส่วนคือ “โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา” ในระดับ 5 ดาว ใช้งบลงทุน 2,000 ล้านบาท ด้วยจำนวนห้องทั้งหมด 396 ห้อง ตกแต่งสไตล์คลาสสิกเน้นโทนสีน้ำเงินเข้ม–สีฟ้าน้ำทะเล นอกจากนี้ยังได้สร้างสวนน้ำ (Water Park) ขนาดใหญ่มีพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ในคอนเซ็ปต์ “อวกาศ” (Space) พร้อมเครื่องเล่นครบครัน สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3 สระ และมีห้องประชุมขนาดใหญ่ 7 ห้อง ขนาดความจุกว่า 300 คน โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ตุลาคม 2018
ตัวโรงแรมวางกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวไทย 50% และ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 50% โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ และไต้หวัน พร้อมทั้งคาดว่าจะมีลูกค้าจากภูมิภาคอื่นเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริกา
“ภายในปีหน้าตั้งเป้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา มีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ยมากกว่า 5 หมื่นคนต่อวัน และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ตั้งเป้ามีอัตราเข้าพัก 88%” สุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด บอกถึงความคาดหวังกับโครงการเทอร์มินอล 21 พัทยา
เปิดโครงการใหม่ปีละ 1-2 โครงการ
ภายใน 3-5 ปีนี้ “แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล” เตรียมงบลงทุนไว้อีก 16,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วน 50:50 ระหว่างศูนย์การค้าและโรงแรม สำหรับเปิดโครงการใหม่อย่างน้อยปีละ 1-2 โครงการ เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตปีละ 7-10%
โครงการใหม่ต้องใช้เวลาก่อสร้าง 3-4 ปีถึงจะสามารถเปิดได้ ขณะนี้กำลังเร่งหาที่ดินใหม่ๆ และกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณา 3-4 แปลง โดยศูนย์การค้าต้องการที่ดิน 10 ไร่ขึ้นไป ใช้เงินลงทุน 4,000 – 5,000 ล้านบาท ส่วนโรงแรมใช้ที่ดินอย่างน้อย 3 ไร่ ใช้งบลงทุน 2,000 ล้านบาท ขนาด 500 ห้องขึ้นไป ปัจจุบันมีจำนวนห้องทั้งหมด 2,100 ห้อง ต้องการเพิ่มเป็น 4,000 ห้องภายใน 4 ปี
“การทำศูนย์การค้าและโรงแรมไม่ง่าย เพราะโลเคชั่นสำคัญที่สุด ในเบื้องต้นจะเน้นอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อน เนื่องจากกรุงเทพฯ มีประชากรไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่เติบโตทุกที ถ้าถามว่าศูนย์การค้าจะแน่นไปไหม คงตอบว่ายังไม่แน่น และยังมีช่องทางที่เติบโตได้อยู่ ส่วนโรงแรมก็เน้นที่กรุงเทพฯ เหมือนกัน ต่างจังหวัดต้องอีกสักพัก”
ทั้งนี้ต้นปีหน้าเตรียมลงเสาเข็มก่อสร้างศูนย์การค้าเทอร์มินัล 21 แห่งใหม่ที่พระราม 3 บนพื้นที่ 10 กว่าไร่ ข้างโรงแรม มณเฑียร ริเวอร์ไซด์ งบลงทุน 4,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3-4 ปี คาดเปิดได้ต้นปี 2021
ปัจจุบันกลุ่มแอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล ประกอบด้วยศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ 4 แห่งได้แก่ ราชดำริ เพลินจิต เทอร์มินอล 21 และสุขุมวิท 55 รวมถึงศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์พัทยา ที่กำลังจะเปิดตัว
สัดส่วนรายได้ของโรงแรมยังมากกว่าศูนย์การค้าประมาณ 60:40 เนื่องจากศูนย์การค้ายังมีเพียงแห่งเดียวซึ่งได้นำเข้ากองทรัสต์แล้ว จึงมีรายได้เฉพาะจากการบริหารพื้นที่ขายแฟชั่นไอส์แลนด์ เดอะพรอมานาด และเทอร์มินอล 21 โคราช ซึ่งปลายปีนี้จะมีการเปิดศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยาและยังไม่นำเข้ากองทุน ซึ่งจะทำให้รายได้จากศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นเป็น 45%
ปีที่แล้วมีรายได้ประมาณ 3,500 – 3,900 ล้านบาท ปีนี้คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 5,700 ล้านบาท.