สมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย รายงานการใช้สื่อในปี 2561 เป็นตามคาดการณ์ไว้ โดยเติบโตเพิ่มขึ้น 4% และส่งผลดีต่อเนื่องถึงปีหน้า สื่อที่เติบโตสูงสุดคือสื่ออินเทอร์เน็ต ส่วนสื่อที่เติบโตน้อยที่สุดคือนิตยสาร สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคติดสมาร์ทโฟนและท่องเน็ตมากขึ้น เปลี่ยน “แพลตฟอร์ม” การดูทีวีทางโทรทัศน์มาเป็นการดูทางออนไลน์ และอ่านหนังสือน้อยลง ในขณะที่สื่อนอกบ้านรอกระเตื้องก่อนเลือกตั้ง
ไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (Media Agency Association of Thailand: MAAT) เปิดเผยถึงมูลค่าการใช้สื่อในช่วงที่ผ่านไปและคาดการณ์ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้เติบโตดีขึ้นหลังจากชะลอไปในช่วงสองปีที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อการใช้สื่อทุกประเภท
รวมทั้งยังได้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น การเปิดพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษการส่งออกและการท่องเที่ยว สร้างความมั่นใจให้นักธุรกิจและภาคเอกชนหันมาลงทุนมากขึ้น และประชาชนกลับมาใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนมากขึ้นด้วย จากทั้งหมดช่วยส่งเสริมต่อ GDP ที่เติบโตถึง 4%
รัฐกร สืบสุข อุปนายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เสริมว่า “เมื่อพิจารณางบประมาณการใช้สื่อในช่วงที่ผ่านมาและพยากรณ์อีก 3 เดือนที่เหลือ คาดว่าปี 2561สื่อทุกประเภทมีเปอร์เซ็นต์การเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา”
สื่ออินเทอร์เน็ตเติบโตสูงสุดถึง 21% รองลงมาคือ สื่อในห้างสรรพสินค้า (In-store) เพิ่มขึ้น 16% สื่อกลางแจ้ง (Outdoor) เพิ่มขึ้น 6% ส่วนสื่อโรงภาพยนตร์ และสื่อโทรทัศน์โดยรวม (ทีวีดิจิทัล เคเบิลทีวีและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) เพิ่มขึ้น 4% เท่ากัน และสื่อวิทยุเพิ่มขึ้น 3%
สำหรับสื่อที่มีการใช้สื่อเท่าเดิมหรือไม่มีเปลี่ยนแปลงคือ สื่อในการเดินทาง (Transit) และสื่อที่มีการใช้ลดลงคือหนังสือพิมพ์ ลดลง 21% และสื่อนิตยสาร ลดลง 34%
ในปี 2562 คาดว่าจะเป็นปีที่ดีขึ้นของอุตสาหกรรมโดยรวมตาม GDP ที่โตขึ้น 4.1% ถ้าไม่มีปัจจัยด้านลบเข้ามา และในปีหน้ามีปัจจัยด้านบวก เช่น การเลือกตั้งจะส่งผลดีต่อสื่อกลางแจ้ง (Outdoor) และสื่อในการเดินทาง (Transit) โดยทางสมาคมมีเดียฯ คาดว่าจะเติบโตถึง 5%
สำหรับสื่อที่ยังมีอัตราการเติบโตสูงสุดคือสื่ออินเทอร์เน็ต เพิ่มขึ้นประมาณ 25% ถึงอย่างไรก็ตาม สื่อโทรทัศน์ยังเป็นสื่อที่ใช้งบโฆษณาสูงเช่นเดิม แต่ผู้ประกอบการจะมีการโยกเงินจากสื่อโทรทัศน์ไปใช้ในสื่ออินเทอร์เน็ตส่วนหนึ่งด้วย ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้นในขณะที่สื่อวิทยุ โรงภาพยนตร์ และสื่อสิ่งพิมพ์เติบโตลดลง
นอกจากนี้ ไตรลุจน์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการใช้สื่อโฆษณาในปัจจุบัน คือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าผู้บริโภคมีความรวดเร็วต่อข่าวสาร ประกอบกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พัฒนาและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักการตลาด นักวางแผนสื่อ ต้องมีความเข้าใจพร้อมที่จะเรียนรู้ และสามารถปรับเพื่อเปลี่ยนแปลง (Transform) ได้อย่างทันท่วงที จะทำให้แคมเปญการตลาด การวางแผนสื่อประสบความสำเร็จเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้.