รู้หรือไม่! ในปี 2017 “ตลาดเกมทั่วโลก” มีรายได้ 121,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 4 ล้านล้านบาท ทิ้งห่างรายได้ของอุตสาหกรรมเพลงและภาพยนตร์รวมกัน อย่างที่ไม่น่าเชื่อ และในปี 2018 คาดว่าตลาดเกมจะสร้างรายได้สูงถึง 137,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีกลุ่มเกมมือถือครองตลาดมากที่สุดกว่า 51% และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 11% ตามมาด้วยเกมบนเครื่องคอนโซลและเกม PC
“ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการเติบโตในอุตสาหกรรมในขณะนี้ โดยตลาดเกมมีรายได้รวมประมาณ 2.2 พันล้านเหรียญ มีเกมเมอร์รวมกว่า 135 ล้านคน และมีผู้นำตลาด ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และไทย ตามลำดับ
แต่ถึงไทยจะติด “ท็อป 3” ก็ตาม หากผลิตภัณฑ์เกมส่วนใหญ่กว่า 97% ยังเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ ได้กลายเป็นโอกาสที่ “ทรู” ตัดสินใจลงขันกับ “AXION VENTURES” จากประเทศแคนาดา เปิด “บริษัท ทรูแอกซิออน อินเตอร์แอกทีฟ จำกัด” เป็นสตูดิโอผลิตเกม
เกมแรกที่พัฒนาคือ เกม “INVICTUS (อินวิคตัส)” เป็นเกมรูปแบบใหม่ที่มีการผสมผสานระบบการเล่นของการ์ดเกม และเกมต่อสู้แบบ real-time ด้วยกราฟิกและแอนิเมชั่นสมจริง ที่พร้อมจะเปิดมิติใหม่ของเกมต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 ซึ่งเหมาะกับการแข่งขันกีฬาเกม หรือที่เรียกว่า ESPORTS โดยเตรียมเปิดให้คอเกมชาวไทยได้สัมผัสก่อนใครในงาน THAILAND GAME SHOW2018 ระหว่าง วันที่ 26-28 ตุลาคม 2561 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน
พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า
“การร่วมทุนครั้งนี้เป็นการผสานความเชี่ยวชาญระดับโลก ในอุตสาหกรรมเกมของ AXION VENTURES กับศักยภาพของกลุ่มทรู โดยเชื่อว่า เชื่อว่าการเปิดตัวของเกม INVICTUS (อินวิคตัส) ที่มีโปรดักชั่นการผลิตระดับพรีเมี่ยม จะทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมาอยู่ตำแหน่งแถวหน้าในตลาดเกมโลกได้ และที่สำคัญยังจะเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมเกมในประเทศไทยอีกด้วย”
ขณะนี้ “ทรูแอกซิออน” มีนักพัฒนาเกมมากกว่า 85 รายจากทั่วโลกที่ร่วมงานด้วย เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย อิตาลี และเยอรมัน พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าที่จะพัฒนาผลงานเกมมือถือ 3 ชุดและเกม PC อีก 1 ชุด ภายใน 2 ปี.