ภาพถ่ายเปรียบเสมือนบันทึกความทรงจำอันมีค่า แม้กาลเวลาจะผ่านไปแต่เรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกที่ช่างภาพได้ลั่นชัตเตอร์และถ่ายทอดสู่ภาพถ่ายยังไม่เลือนหาย Leica Camera Thailand(ไลก้า คาเมร่า ไทยแลนด์) แบรนด์กล้องลักชัวรี่ระดับโลก จึงจัดงาน “LIFE’S WORTH” (ไลฟ์ส เวิร์ธ)นิทรรศการภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของพลังความจงรักภักดี ความสามัคคี ความเสียสละ และพลังน้ำใจของจิตอาสา เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทั้งหมด 17 ภาพ จากฝีมือการถ่ายภาพของ Leica Thailand Ambassador (ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์) อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ (จำนวน 7 ภาพ), พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ (จำนวน 4 ภาพ) และ ชัชวาล จันทโชติบุตร (จำนวน 6 ภาพ) เนื่องในโอกาสครบรอบสองปีวันคล้ายวันสวรรคต ณ บริเวณหน้า Leica Gallery Bangkok (ไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก) ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2561
อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ ในฐานะ Leica Thailand Ambassador กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการจัดนิทรรศการภาพถ่าย “LIFE’S WORTH” ว่า “นิทรรศการนี้เกิดจากการคุยกันในกลุ่มของ ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์ ว่าอยากทำอะไรที่สะท้อนให้เห็นสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพ ซึ่งผมระลึกถึงพระราชนิพนธ์แปลเรื่อง “นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ” จึงตกลงกันว่าลงพื้นที่เพื่อบันทึกเกี่ยวกับจิตอาสาที่คอยช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ก่อนลงผมก็คิดภาพไว้ว่าอยากได้ภาพแบบนั้นแบบนี้ พอลงพื้นที่จริงแล้วกลายเป็นว่าเราไม่ต้องทำอะไรมากกว่าบันทึกเหตุการณ์จริงๆ อารมณ์จริง บรรยากาศความจริงใจเป็นพลังงานสะท้อนกลับออกมา สิ่งที่เหล่าจิตอาสาทำนั้นยิ่งใหญ่และไม่ได้ต้องการให้ใครมายกยอ พวกเขาทำให้เรานอนอยู่บ้านไม่ได้ เลิกงานกี่โมงดึกดื่นก็ขอลงพื้นที่ไปบันทึกสิ่งดีงามแบบนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด ผมว่ามันงดงามและปราศจากข้อแม้ สำหรับผมนี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพเป็นอย่างดี”
ชัชวาล จันทโชติบุตร หนึ่งใน Leica Thailand Ambassador ผู้ลงพื้นที่ถ่ายภาพเผยว่า “ช่วงนั้นผมต้องเดินทางไปต่างประเทศค่อนข้างนาน กลับอีกทีคือหลังพระราชพิธีเสร็จสิ้น เลยเข้าไปกราบพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้าย ระหว่างนั้นได้เห็นการช่วยเหลือของอาสาสมัครมากมาย ผมรับหน้าที่เก็บภาพจิตอาสาบริเวณโรงครัวซึ่งเปรียบเสมือนปากท้องและกำลังขับเคลื่อนทั้งหมด และได้มีโอกาสพูดคุยกับหลายท่านที่เป็นเจ้าของซุ้มทำอาหาร หลายท่านทำอาหารแจกตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เราลงพื้นที่เก็บภาพ ทุกคนพูดเหมือนกันว่า สิ่งที่ทำนั้นน้อยนิดมากเมื่อเปรียบกับสิ่งที่พระองค์ทรงทำต่อประชาชนชาวไทยมาตลอดพระชนม์ชีพ สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตผมให้เห็นถึงคนที่เสียสละเพื่อผู้อื่นและการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนคือสิ่งที่เหล่าจิตอาสาระลึกได้และนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน ดังแนวทางที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติ”
สำหรับบรรยากาศภายในงานเปิดนิทรรศการภาพถ่าย “LIFE’S WORTH” เป็นไปอย่างอบอุ่นของเหล่าแขกผู้มีเกียรติ อาทิ พัชทรี ภักดีบุตร, อภิชาต รักษะจิตร, จิตติมา วรรธนะสิน, ดนัย เกษมกุลศิริ, คุณากร เดชานุภาพ,
วินรัตน์ ศันสนะเกียรติ, โสภาวดี เพชรชาติ, จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา, เบญจรัตน์ อรรถจินดา มาร่วมชมภาพถ่ายประวัติศาสตร์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรัก สามัคคีของกลุ่มจิตอาสา ผู้ปิดทองหลังพระ เสียสละเวลา แรงกายและทุนทรัพย์ โดยไม่หวังผลตอบแทน และร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ “ปิดทองหลังพระ” โดย อาจารย์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์, ชัชวาล จันทโชติบุตร และตัวแทนจิตอาสา สมยศ พรชัยรัตนโชติ, วัชรี เชาวะนะ, สาโรจน์ ดุลยคง, รัชดา แผ่นทอง, ปิยะนันท์ สุมาตรา บอกเล่าถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ และแนวทางการสานต่อพระราชดำริของพระองค์ท่านอีกด้วย
สำหรับจิตอาสา สมยศ พรชัยรัตนโชติ บริษัทให้บริการเช่าเหมารถตู้ ถนนข้าวสาร-สนามบิน เผยว่า “แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมมาเป็นจิตอาสาคือ ผมโตมาในย่านผ่านฟ้า ผมรับเสด็จพระองค์ท่านอยู่ริมถนนเสมอผมอยากทำความดีเพื่อพ่อจึงตัดสินใจมาขับมอเตอร์ไซค์ แต่ช่วงหลังเห็นว่าคนมากันมากแล้วไม่มีใครบอกทางผมเลยมาทำจิตอาสาคอยบอกทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องชาวไทย”
จิตอาสา สาโรช ดุลยคง อาชีพวิศวกรเสียง กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของจิตอาสาเกิดขึ้นหลังจากสำนักพระราชแถลงการณ์ว่าพระองค์สวรรคต ผมก็อยากจะทำความดี เพื่อพระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านทรงงานเพื่อประชาชนชาวไทยโดยที่เราไม่เคยได้ยินท่านบ่นว่าเหนื่อย ผมเลยตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้ง กาแฟ โอวัลติน มาม่า มาแจก สลับกับวิ่งรถรับส่งทุกอย่างด้วยทุนทรัพย์ตัวเองแล้วก็กลุ่มเพื่อนๆ ใน Facebook บางคนมาไม่ได้ก็จะส่งเงินส่งของมา ตลอดเวลาที่ผ่านมายังใช้คำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ การทำดี โดยยึดคติที่ว่า การทำดีมันลำบาก ถ้าคิดจะทำดีต้องอดทน”
สำหรับเซเลบริตี้ เตย-วินรัตน์ ศันสนะเกียรติ ได้เผยถึงความรู้สึกถึงการได้ร่วมชมนิทรรศการภาพถ่าย LIFE’S WORTH ว่า “ภาพถ่ายสามารถหยุดเวลา ณ ขณะนั้น เป็นการเก็บโมเม้นท์ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์เศร้า สุข หรือแม้กระทั้งความสูญเสีย ซึ่งภาพถ่ายในงานนี้พาย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น วันที่เพื่อนๆ และครอบครัวได้รวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือด้านอาหาร แจกยาดม ซึ่งทุกคนเต็มใจทำเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
อีกหนึ่งเซเลบริตี้ นุ่น-โสภาวดี เพชรชาติ เล่าว่า ดีใจที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ เพราะภาพถ่ายที่นำมาจัดแสดงนั้นต่างสะท้อนความรู้สึก สัมผัสถึงความตั้งใจ และการเสียสละของจิตอาสาทุกคน ซึ่งเมื่อได้มองภาพถ่ายก็เสมือนความทรงจำ ซึ่งในช่วงเวลานั้น ตัวนุ่นเองก็พาลูกไปร่วมแจกอาหาร เพราะอยากให้ลูกได้เห็นว่าการเสียสละ ความมีน้ำใจนั้นทำได้ไม่ยาก และไม่ได้ลำบากเลย แม้อากาศจะร้อนแต่การทำดีนั้นทำให้เราอิ่มใจ
ผู้สนใจสามารถร่วมชม “LIFE’S WORTH” นิทรรศการภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของพลังความจงรักภักดี ความสามัคคี ความเสียสละ และพลังน้ำใจของจิตอาสาเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ บริเวณหน้า Leica Gallery Bangkok ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02-656-1102
หมายเหตุ
พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ หนึ่งใน Leica Thailand Ambassador ไม่สามารถมาร่วมงานได้เนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ