ชัดเจนว่าไม่ทันใจสำหรับการขายสมาร์ทโฟนผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเดียวในประเทศไทย เพราะ “อีแบรนด์” อย่าง Honor ที่ Huawei ใช้เจาะตลาดวัยรุ่นไทยโดยจำหน่ายผ่านร้านออนไลน์ตลอด 6 เดือน ก็ยังหันมาเทเงินทุนเพิ่มเพื่อตั้งร้านสาขาแรกที่ “มาบุญครอง” แถมยังดึง “ลี ฐานัฐพ์” นักแสดงไทยจาก GMM TV เป็นพรีเซ็นเตอร์ Honor คนแรกของอาเซียน
น่าเสียดายที่ Honor ไม่เปิดเผยเม็ดเงินลงทุนในตลาดไทยที่ชัดเจน ระบุเพียงว่าตัดสินใจลงทุนเพิ่มขึ้นทุกเดือน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 50% จากแผนเดิมที่เตรียมไว้ ทั้งหมดนี้เป็นผลจากการที่ Honor เห็นโอกาสเติบโตที่ดีในตลาดไทย โดยเฉพาะยอดขายเติบโต 100% ตลอดไตรมาสที่ผ่านมา
วันนี้ Honor ระบุว่ามีผู้ใช้มากกว่า 120 ล้านรายทั่วโลก ยอดขายปี 2017 มากกว่า 55 ล้านเครื่อง เติบโตหลายเท่าตัวจากที่เริ่มเปิดบริษัทใน ธ.ค. 2013 ตัวเลขนี้สะท้อนความสำเร็จของ Huawei ที่แตกแบรนด์ Honor ออกมาเจาะตลาดวัยรุ่นทั่วโลกโดยเฉพาะ บนจุดยืนให้ Honor มีทีมออกแบบและดำเนินกิจการของตัวเอง ซึ่งผู้บริหาร Honor ระบุว่า 15% ของยอดขาย ถูกจัดสรรเป็นงบ R&D เพื่อให้ Honor โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีถูกใจวัยรุ่น
วัยรุ่นอยากได้อะไร?
อาคิน ลี ประธาน Honor ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Honor 8X ว่าหลังจากก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว Honor สามารถขึ้นเป็น “อีแบรนด์” Top 10 ของจีน ขณะเดียวกันก็สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นบนอัตราเติบโต 150% ในตลาดโลก ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ Honor โฟกัสที่การตอบโจทย์ความต้องการและฟังเสียงของวัยรุ่น ซึ่งจากการสำรวจพบว่าวัยรุ่นทั่วโลกต้องการสมาร์ทโฟนที่กล้องดี เล่นเกมลื่น และดูวิดีโอได้ไม่สะดุด
“เราใช้เวลา 6 เดือนในการสำรวจว่าวัยรุ่นไทยต้องการอะไร พบว่าสิ่งที่ต้องการคือความบันเทิง ประสบการณ์ดิจิทัล และอุปกรณ์ที่สุดยอด“
Honor จึงเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่เน้นคุณสมบัติด้านกล้อง และการเล่นเกมในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดถึงคิว Honor 8X ซึ่งถูกการันตีว่าเป็น “cinema phone” เพราะอัตราส่วน 19.5:9 ของหน้าจอใกล้เคียงกับอัตราส่วน 21:9 ของจอภาพยนตร์ สนนราคาเริ่มต้น 7,990 บาท
จุดที่น่าสนใจของงานเปิดตัว Honor 8X คือการเชิญสื่อเวียดนาม ลาว กัมพูชา และอีกหลายประเทศในอาเซียน รวมถึงศรีลังกาที่ไม่อยู่ใน SEA มาร่วมงานในประเทศไทยด้วย โดยงานนี้ Honor ประกาศว่าภายในปี 2020 ไทยจะเป็น 1 ใน 10 ตลาดที่ทำยอดขายสูงสุดให้บริษัท โดยวางเป้าหมายภายใน 3-4 ปี จะขึ้นเป็น Top 4 ของแบรนด์สมาร์ทโฟนในตลาดไทยให้ได้
ความมั่นใจนี้มาจากยอดขาย Honor ซึ่งแม้ไทยจะเติบโต 100% ต่ำกว่ารัสเซียที่โต 500% แต่จุดยืน “แบรนด์สำหรับคนที่มีหัวใจเป็นคนรุ่นใหม่” ทำให้ Honor ไม่เห็นว่า Honor จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า เนื่องจากเทคโนโลยีและ R&D ของ Honor ที่เข้มข้น
อีแบรนด์ต้องลุยช่องทางเดิม
อีกสิ่งที่น่าจับตาของ Honor คือการยอมออกนอกกรอบอีแบรนด์ หรือแบรนด์ที่ทำตลาดผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเท่านั้น มาเปิดร้านสาขาและออกโรดโชว์เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้มีโอกาสสัมผัสเครื่อง จุดนี้ Honor ประกาศเปิดร้านสาขาแรกที่มาบุญครอง หรือ MBK Center ใจกลาง กทม.
“เราพยายามไปที่การตลาดดั้งเดิม มีโรดโชว์ ทำอีเวนต์ แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือการบุกตลาดวัยรุ่น” ผู้บริหาร Honor กล่าว “เราลงทุนเพิ่มตลอดเวลาทุกเดือน เห็นโอกาสโตดีในไทยและเวียดนาม นอกจากการลงทุนเพิ่มในส่วนร้านค้าปลีก เรามีการจ้างพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการบุกตลาด“
พรีเซ็นเตอร์คนแรกของ Honor คือ “ลี ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ” นักแสดงหนุ่มจากค่าย GMM TV ที่มีผลงานในซีรีส์อย่าง Wake up ชะนี และซีรีส์ที่กำลังจะออนแอร์เรื่อง Friend Zone ผลงานเหล่านี้ทำให้ลี ฐานัฐพ์ มีฐานแฟนคลับในกลุ่มผู้ชม GMM TV ถือเป็นตัวแทนของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่หน้าตาดี มีพรสวรรค์ เจาะตลาดย่อยในกลุ่มวัยรุ่นสาวได้อยู่หมัดเพราะรอยยิ้มกระชากใจ
เน้นตลาดวัยรุ่นระดับบน
ผู้บริหาร Honor ให้ข้อมูลว่า ระดับราคามาตรฐานของสมาร์ทโฟนวัยรุ่นไทยคือราว 5,000 บาท แต่ Honor สามารถครองตลาดหลักในพื้นที่ 7000-10,000 บาทได้ กรณีของ 8X รุ่นใหม่จึงเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง โดยที่อักษร X สื่อถึงความพรีเมียม คาดว่าในปีหน้า Honor จะตอกย้ำจุดยืนนี้ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนวัยรุ่นระดับพรีเมียมราคาเกิน 1 หมื่นบาท
นอกจากสมาร์ทโฟน ปีหน้าอาจเป็นปีที่ Honor จะวางจำหน่ายแท็บเล็ต พีซี และอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ซึ่งจะทำให้ Honor เป็นคู่แข่งเพื่อนร่วมชาติอย่าง Xiaomi เต็มตัวในตลาดไทย
“ความท้าทายในการทำตลาดวัยรุ่นไทยไม่ต่างจากวัยรุ่นประเทศอื่น วัยรุ่นมักจะชอบเรื่องเพลง แต่สิ่งที่ต่างเฉพาะวัยรุ่นไทยคือวัฒนธรรมที่ผสามผสาน อาจจะแตกต่างนิดหน่อย” ผู้บริหาร Honor ย้ำ “คนรุ่นใหม่ชอบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปีหน้าเราจะนำเสนอรุ่นที่สูงกว่านี้ จะเป็นสินค้ากลุ่ม young premium เหมือนเดิม“
ผู้บริหาร Honor มอง young premium เป็นโอกาสทองในช่วงปีหน้าที่กำลังซื้อสมาร์ทโฟนค่อนข้างนิ่ง โดยประเมินว่าตลาดสมาร์ทโฟนไทยจะอยู่ที่ราว 14-15 ล้านเครื่องต่อปี มูลค่าราว 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ การสำรวจพบว่ามูลค่าตลาดสมาร์ทโฟนสูงขึ้นเพราะผู้คนซื้อหาเครื่องราคาแพงขึ้นมาใช้งาน.
