ถอดความคิด จากเอเจนซี่โฆษณาสู่ ‘นักแก้ปัญหาทางธุรกิจ’” นำ ‘ลีโอเบอร์เนทท์ ประเทศไทย’ คว้ารางวัลเอเจนซี่ยอดเยี่ยมแห่งปี

หลังห่างหายจากการส่งผลงานเข้าประกวดมา 1 ปีเต็มๆ ลีโอเบอร์เนทท์ ประเทศไทย กลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง คว้ารางวัลเอเจนซี่ยอดเยี่ยมแห่งปี (Agency Of The Year) พร้อมรางวัลดิจิตอลเอเจนซี่ยอดเยี่ยม (Digital Agency of The Year) และอีก 39 รางวัลบนเวทีประกวดแอดแมน อวอร์ด ตอกย้ำภาพความสำเร็จจากโซลูชั่นธุรกิจที่ ‘สงกรานต์ เศรษฐสมภพ’ ประธานกรรมการบริหารเคยประกาศไว้เมื่อปี 2015 ว่าลีโอเบอร์เนทท์ คือ ‘นักแก้ปัญหาทางธุรกิจ’ หรือที่เรียกว่า Creativity for Business Solution นำเสนอพลังความคิดสร้างสรรค์จากคนคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกปัญหาธุรกิจลูกค้าอย่างครบวงจร

นายสมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย (The Leo Burnett Group Thailand) เปิดใจถึงเบื้องหลังความสำเร็จจากงานประกวด แอดแมน อวอร์ด แอนด์ ซิมโปเซี่ยม 2018” (Adman Awards & Symposium 2018) ว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่เรากลับมาส่งผลงานประกวดได้อีกครั้ง หลังจากดำเนินตามนโยบายของปับลิซีส วัน (Publicis One) บริษัทแม่ที่ประกาศให้ทุกบริษัทในเครืองดส่งผลงานประกวดรางวัลใดๆ เป็นระยะเวลา 1 ปี ADMAN 2018 จึงเป็นเวทีแรกสำหรับงานประกวดในประเทศไทย

“เชื่อว่าลีโอเบอร์เนทท์ทุกคนล้วนภาคภูมิใจกับรางวัลครั้งนี้ โดยหัวใจขับเคลื่อนความสำเร็จและทำให้ผู้คนเห็นคุณค่าจากผลงานที่ลีโอเบอร์เนทท์สร้างสรรค์ขึ้นนั้น เริ่มมาจากการที่เราทุกคนมี Mindset เดียวกัน นั่นคือความเป็น นักแก้ปัญหาทางธุรกิจ”(Creativity for Business Solution) อยู่ในตัวเอง ในวันที่ลูกค้าเดินเข้ามาหาเราด้วยปัญหา เรามีบุคลากรที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญหลากหลายด้านอยู่ในองค์กรที่พร้อมร่วมแรงร่วมใจกันนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ที่ไม่มีรูปแบบตายตัว ไม่จำกัดกรอบความคิด นำเสนอรูปแบบงานที่แปลกใหม่โดยมองปัญหาของลูกค้าเป็นจุดมุ่งหมายสู่ความสำเร็จ เราเริ่มวางรากฐานแนวคิดและให้บริการลูกค้าด้วยโซลูชั่นนี้มาตั้งแต่ปี 2015 ถึงวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแนวคิด Creativity for Business Solution สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบวงจร ทั้งการสื่อสารทางการตลาดแบบดั้งเดิม(Traditional Communication) และแบบดิจิตอล (Digital Communication) ช่วยแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าและสร้างความพึงพอใจสูงสุด ที่น่าภูมิใจ คือ มีหลายแคมเปญสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆ สู่สังคมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นอีกด้วย” นายสมพัฒน์ กล่าว

นายสมพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รางวัลแอดแมน อวอร์ด ปีนี้สะท้อนภาพความสำเร็จของเราในด้านความเป็นผู้นำการให้บริการโซลูชั่นแบบครบวงจรแก่ลูกค้า การที่ได้รับรางวัลดิจิตอลเอเจนซี่ยอดเยี่ยม (Digital Agency of The Year) เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าเรามีทีมดิจิตอลที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาแก้ปัญหาทางธุรกิจแก่ลูกค้า เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าทุกโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ด้วยหลักคิดและการทำงานแบบ Holistic ของลีโอเบอร์เนทท์จะทำให้ปัญหาถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว ตรงจุด และบริหารงบประมาณลูกค้าได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับตัวอย่างงานชิ้นแรก ได้รับรางวัลโกลด์ถึง 2 รางวัล ได้แก่ งานที่ชื่อว่า The Local Ambassador จากยูนิโคล่ (UNIQLO) ผลงานชิ้นนี้เกิดจากโจทย์ของลูกค้าที่ต้องการโปรโมทโรด ไซด์ สโตร์ (Roadside store) แห่งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ ซึ่งเรานำเสนอแนวคิดที่จะช่วยให้ยูนิโคล่เป็นหนึ่งเดียวกับผู้คนในชุมชนย่านนั้น ด้วยการเชิญชวนร้านค้าต่างๆ และผู้คน มาร่วมกับยูนิโคล่ ช่วยกันโปรโมทย่านพัฒนาการให้มีสีสันและความคึกคักมากขึ้น เพื่อดึงดูดผู้คนให้มาเยี่ยมเยือน ชิม เที่ยว ช้อป และกระจายรายได้สู่ชุมชนในย่านพัฒนาการ ซึ่งหลังจากปล่อยแคมเปญ The Local Ambassador ส่งผลให้การเปิดสาขาใหม่ของยูนิโคล่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

อีกหนึ่งความภูมิใจและได้รับรางวัลโกลด์ คือ ผลงานที่ชื่อว่า How are you? ของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยงานนี้เป็นภาพยนตร์โฆษณา ความยาวเพียง 15 วินาที ที่เป็นเรื่องราวแบบไทยๆ ของ เพื่อน 4 คนที่เจอกันและมักจะถามคำถามเดิมๆ ว่า “สบายดีไหม?” ซึ่งปกติ คนไทยมักจะตอบกันว่า “สบายดี” แต่ในหนังเรื่องนี้ เพื่อนๆ กลับตอบว่า “ไม่รู้” และเมื่อไม่รู้ก็ควรไปตรวจสุขภาพให้รู้ว่าตนเองสบายดีหรือเปล่า หนังโฆษณาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำคนเข้าสู่เว็บไซต์ตรวจสุขภาพในเบื้องต้นก่อนไปตรวจสุขภาพจริงที่โรงพยายาบาล ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมีผู้ให้ความสนใจเข้าไปลองตรวจสุขภาพด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สสส. กว่า 200,000 คนเลยทีเดียว

สำหรับ แอดแมน อวอร์ด ในปีนี้ ลีโอเบอร์เนทท์ ประเทศไทย ได้รับรางวัล 4 โกลด์ (Gold) 12 ซิลเวอร์ (Silver) และ 23 บรอนซ์ (Bronze) รวมทั้งสิ้น 39 รางวัล จาก 24 ผลงานที่เข้ารอบ Finalist