‘บมจ. ส. ขอนแก่นฟู้ดส์’ หรือ SORKON โชว์ผลงานไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิเติบโต 20.7% หลังผลักดันอัตราการทำกำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเลแปรรูปเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการผลักดันยอดขายเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลต่อผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ทำกำไรสุทธิพุ่ง 57.8% จากปีก่อนหรือคิดเป็น 163.3 ล้านบาท พร้อมมั่นใจปีนี้เติบโตตามแผนจากกลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิด ‘เพราะทุกคนควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด’ ที่มุ่งปรับตำแหน่งสินค้าและปรับปรุงกระบวนการผลิต ยกระดับคุณภาพสินค้า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 (กรกฎาคม–กันยายน 2561) บริษัทฯ มีรายได้รวม 724.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 690.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 45.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.7 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยมาจากการรุกขยายตลาดและบริหารต้นทุนโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 8.8% และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงถึง 19.5% เพียงพอต่อการแบกรับค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ 4.5% ซึ่งมาจากการลงทุนพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพระบบงานด้านสารสนเทศและระบบการควบคุมภายในของบริษัทในเครือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรายอดขายเติบโตได้ดี มาจากธุรกิจอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ (อาหารพื้นเมือง, อาหารขบเคี้ยวและอาหารแช่แข็งพร้อมทาน) ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลัก สามารถทำยอดขายรวม 374.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.9% และธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ทำยอดขายรวม 243.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% ส่วนธุรกิจฟาร์มสุกรมีรายได้รวม 58.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% จากปัจจัยราคาสุกรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน มีรายได้รวม 36.2 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากจำนวนสาขาที่ลดลงตามแผนกลยุทธ์การดำเนินงานที่ต้องการรุกให้บริการเดลิเวอรี่มากขึ้น เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่
ทั้งนี้ จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม–กันยายน 2561) มีอัตราการเติบโตก้าวกระโดด โดยมีกำไรสุทธิพุ่ง 57.8% หรือคิดเป็น 163.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 103.3 ล้าน และมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 6.2% หรือคิดเป็น 2,186.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,058.3 ล้านบาท
“เราประสบความสำเร็จในการขยายตลาดและบริหารจัดการด้านต้นทุนโดยรวมที่ดี ส่งผลต่ออัตราการทำกำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็น 32.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 31.2% โดยสามารถผลักดันกำไรขั้นต้นในกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์และธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำสัดส่วนรายได้หลักเพิ่มขึ้นเป็น 17.7% และ 2.2% ตามลำดับ นอกจากนี้เรายังสามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเงินลงได้ถึง 19.5% เนื่องจากมีการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/61 และ 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิเติบโตได้อย่างโดดเด่น” นายเจริญ กล่าว
ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ จะใช้แนวคิด ‘เพราะทุกคนควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด’ เพื่อทำตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ส. ขอนแก่น โดยปรับตำแหน่งสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมือง ตลอดจนการปรับปรุงกระบวนการผลิตและปรับปรุงบรรจุภัณฑ์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตราสินค้า ซึ่งหลังจากที่เริ่มดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าว พบว่ายอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองมีอัตราการเติบโตที่ดีประกอบกับจะเร่งรุกขยายธุรกิจเดลิเวอรี่ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าด้วยแนวทางดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตตามแผน