โรคกระดูกพรุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว รู้ก่อน รักษาได้ ที่โรงพยาบาลธนบุรี


ต้องบอกว่าในตอนนี้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเรื่องการดูแลสุขภาพไม่ได้จำกัดแค่วัยผู้สูงอายุอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของทุกเพศทุกวัย ยิ่งดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ ยิ่งทำให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น ไม่มีโรคภัยมารบกวน อีกหนึ่งโรคที่เป็นโรคฮิตของคนไทยในตอนนี้ก็คือ “โรคกระดูกพรุน” ก่อนหน้านี้จะเป็นโรคที่เกิดเฉพาะกับผู้สูงอายุเสียส่วนใหญ่ เพราะร่างกายเริ่มขาดแคลเซียม แต่ถ้ามีการเตรียมพร้อมรับมือการมาเยือนของโรคกระดูกพรุนก่อนที่จะมีอาการ ก็ทำให้มีการรักษาได้ทันเวลา และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขได้

เรื่องเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุนเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะกว่าจะเกิดต้องรอให้สูงอายุก่อน จึงกลายเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ แล้วโรคนี้สามารถเกิดได้กับทั้งผู้สูงอายุ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย เกิดจากมวลและความหนาแน่นของกระดูกลดลง ทำให้กระดูกพรุน มีโอกาสเสี่ยงต่อกระดูกหักได้ โดยเฉพาะกระดูกสันหลัง ข้อมือ สะโพก กระดูกเชิงกราน และต้นแขนหรือใครที่เริ่มเข้าสู่วัย 40 พฤติกรรมต่างๆ ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง จากที่เคยเดิน วิ่ง ทำกิจกรรมโลดโผนผจญภัยก็คงต้องปรับเปลี่ยน เพราะอาจมีผลกระทบต่อมวลกระดูกได้

โดยปกติแล้วร่างกายคนเราต้องการแคลเซียมวันละประมาณ 1,000-1,500 มิลลิกรัม จึงควรที่จะรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต ปลาตัวเล็กตัวน้อย เต้าหู้ ถั่วเหลือง เป็นต้น รวมถึงปรับเรื่องพฤติกรรมการกิน ลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือคาเฟอีน น้ำอัดลม และอาหารเค็มจัด อาหารที่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เลิกสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งหมดนั้น ก็เพื่อป้องกันการลดลงของแคลเซียม ที่เป็นสิ่งสำคัญ ในการสร้างเสริมมวลกระดูกได้ และควรหมั่นออกกำลังกายที่ไม่หักโหมมากนัก เช่น เดิน วิ่งเหยาะๆ

สังเกตุได้ง่ายๆ ว่า ถ้าหากร่างกายมีภาวะขาดแคลเซียม จะทำให้เกิดอาการดังนี้ เหงื่อออกตอนกลางคืน ปวดกล้ามเนื้อหรือเป็นตะคริวง่าย กล้ามเนื้อแข็งเกร็งเป็นก้อน เบื่ออาหาร เหนื่อยง่าย นอนไม่ค่อยหลับ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นโรคกระดูกพรุนก่อนวัยอันควร และมีความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักจากการหกล้มที่ไม่รุนแรง หากมีภาวะขาดแคลเซียมเรื้อรัง อาจทำให้มีภูมิต้านทานโรคต่ำ ความจำเสื่อม เซื่องซึม เฉื่อยชาและเกิดอาการชักเกร็งกระตุกได้

ดังนั้นจึงควรระมัดระวัง หาทางป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทาง ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกโดยใช้เครื่องวัดมวลกระดูก เพื่อการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง และหากมีปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขจะได้หาทางรักษาอย่างถูกวิธีด้วยเทคโนโลยีที่ครอบคลุมการรักษา

วิธีการตรวจมวลกระดูกเพื่อวินิจฉัยโรคกระดูกพรุน จะทำได้โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดมวลกระดูกโดยการใช้รังสี 2 แนว ที่เรียกว่า Dual Energy X-ray Absorptiometry(DEXA) ซึ่งตรวจวัดมวลกระดูกที่ 2 ตำแหน่งหลัก ได้แก่ ที่บริเวณกระดูกสันหลัง และบริเวณกระดูกข้อสะโพก หากผลการตรวจมวลกระดูกที่บริเวณข้อมือหรือส้นเท้าได้ค่าผิดปกติก็ควรมาปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจมวลกระดูกด้วยวิธีมาตรฐานต่อไป

แต่ถ้าได้ปรึกษา หรือรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ก็ยิ่งสร้างความมั่นใจในการรักษาได้ ซึ่งทาง ศูนย์โรคกระดูกและข้อ โรงพยาบาลธนบุรีมีทีมแพทย์เฉพาะทางที่ พร้อมให้คำแนะนำปรึกษาทุกอาการ ไม่ว่าจะเรื่องกระดูกพรุน ข้อเข่าเสื่อม ข้อสะโพกเสื่อม ข้อมือ ข้อเท้าได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเล่นกีฬา รวมถึงส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องจากกระดูกและข้อ

สามารถวางใจได้ด้วยการวินิจฉัยอย่างละเอียด วางแผนการรักษาอย่างมีขั้นตอน รวมถึงมีการใช้เทคโนโลยีที่ครอบคลุมเข้าถึงในการรักษา และเหมาะสมในแต่ละราย เช่น ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI ( Magnetic Resonance Imaging ) การผ่าตัดส่องกล้อง ทำให้แผลมีขนาดเล็ก หรือกายภาพบำบัด พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านค่าใช้จ่ายเพื่อความสบายใจ อุ่นใจในทุกการรักษา

หนึ่งในสถานพยาบาลที่ให้บริการตรวจสุขภาพกระดูก วินิจฉัยโรคกระดูกพรุน คือ โรงพยาบาลธนบุรี ในเครือบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ซึ่งดำเนินธุรกิจรักษาพยาบาล ให้บริการทางการแพทย์อย่างครบวงจร ทั้งโรงพยาบาลในประเทศและต่างประเทศ รับจ้างบริหารโรงพยาบาล ให้บริการดูแลสุขภาพนอกสถานที่ และยังมีโครงการที่พักอาศัยพร้อมบริการทางการแพทย์ที่หลากหลายสำหรับผู้สูงวัย

โรงพยาบาลภายใต้เครือมีการให้บริการที่ได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐานสากล โดยได้รับการรับรองมาตรฐานสถานพยาบาล (Hospital Accreditation: HA) จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) เป็นการรับรองว่าโรงพยาบาลภายใต้เครือมีการจัดระบบงานที่ดี เอื้อต่อการให้บริการอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย เพื่อทําให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจได้ถึงคุณภาพการรักษาที่เป็นมาตรฐานสากลและการบริหารงานอย่างมืออาชีพ

โดยที่ตลอดเส้นทาง 40 ปีของ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สามารถการันตีคุณภาพของการบริการ และการรักษาได้อย่างแน่นอน